‘โสภณ’ ถกเรื่องการศึกษาขั้นพื้นฐานและปฐมวัย สร้างความปลอดภัยและการเรียนรู้ที่ยั่งยืน
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.68 นายโสภณ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายศักดิ์ ซารัมย์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย นางสวีณา พลพืชน์ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคณะกรรมาธิการการศึกษา นายณรงค์ แผ้วพลสง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ใน อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ และอ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ร่วมแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาปฐมวัย จากทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริหารสถานศึกษา ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชน
นายโสภณ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่พร้อมคณะฯ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแวง เพื่อแลกเปลี่ยนและเสนอแนะแนวทางการพัฒนาเด็กปฐมวัยทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา อย่างสมดุลและเต็มศักยภาพ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่พบว่า มีเด็กจำนวน 3 คน จากทั้งหมด 45 คน มีพัฒนาการล่าช้า และ 1 ใน 3 คนนั้นมีความพิการ ซึ่งกมธ.การศึกษา ได้รับเรื่องเพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือและดูแลการรักษาต่อไป
นายโสภณ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังเดินทางไปที่โรงเรียนบ้านทองหลาง พบว่าโรงเรียนมีการจัดการศึกษาที่หลากหลาย พร้อมทั้งมีนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษหลายด้าน โดยเฉพาะด้านการขับร้องเพลงและการเต้น Cover Dance ซึ่งทีมของโรงเรียนบ้านทองหลางได้เป็นตัวแทนเข้าประกวดโครงการ TO BE NUMBER ONE ในรุ่นอายุ 6-9 ขวบ ในระดับภาค ซึ่งนายโสภณได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 20,000 บาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมและเดินทางไปแข่งขัน นอกจากนี้ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลดอนกอก กมธ.การศึกษา ได้ร่วมแลกเปลี่ยนและเสนอแนะการจัดการศึกษาขั้นปฐมวัย โดยมีการจัดนิทรรศการเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอนสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเมืองให้น่าอยู่ผ่าน 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่ ประเพณีดี ผลิตภัณฑ์ดี การศึกษาดี สุขภาพดี และปลอดยาเสพติด
นายโสภณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 9-10 ส.ค.68 จะจัดโครงการสัมมนา เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ปกครองและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเน้นย้ำถึงบทบาทของผู้ปกครองในการเป็น "ผู้นำการศึกษาในครอบครัว" เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต ทักษะการคิดวิเคราะห์ และการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้กับลูกหลานในยุคที่สังคมและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปลูกฝังเจตคติเชิงบวกในการมีบุตรว่าไม่ใช่ภาระ แต่ต้องตระหนักถึงความสำคัญของการมีครอบครัวที่สมบูรณ์
"จากความสำคัญของการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิด ทุกฝ่ายมีความเห็นตรงกันที่จะผลักดันให้ท้องถิ่นจัดตั้ง โรงเรียนแม่ผู้ตั้งครรภ์ ซึ่งมีรูปแบบคล้ายกับโรงเรียนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอดบุตร" นายโสภณ กล่าว
นายโสภณ กล่าวย้ำว่า ผู้ปกครองคือ พลังสำคัญในการสร้างอนาคตของเด็ก ๆ การเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้จะช่วยให้เด็กๆ มีคุณภาพและสามารถเผชิญกับโลกยุคใหม่ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาทางสังคม เช่น ยาเสพติดได้อีกด้วย ซึ่งการจัดสัมมนาในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชนในจังหวัดบุรีรัมย์อย่างยั่งยืน.