“เอ๋ พลอยรัชษ์” ยันไม่ได้ต้องการแย่งมรดก “เอ๋ ไพโพจน์” จากลูกสาว ส่วนเรื่องหนี้ต้องพิสูจน์ก่อน
“เอ๋ พลอยรัชษ์” อดีตภรรยา “เอ๋ ไพโรจน์“ แจง ไม่ได้ต้องการแย่งมรดกจาก “เบสท์ ปณิชา” แต่ที่ขอเข้าเป็นผู้จัดการมรดกร่วม ด้านทนายเผย ต้องการกันทรัพย์ที่เป็นของอดีตเมียออกมา ส่วนเรื่องหนี้ต้องพิสูจน์ว่าเป็นนิติกรรมที่ถูกต้อง ยินดีร่วมจ่าย เตือนอย่าล้ำเส้น ไม่อยากฟ้องกลับ
ประจันหน้ากันครั้งแรกในชั้นศาล ระหว่าง “เบสท์ ปณิชา” ลูกสาว “เอ๋ ไพโรจน์ สังวริบุตร” และ “เอ๋ พลอยรัชษ์ ชินรัตน์วาณิช“ อดีตภรรยาฃของเอ๋ ไพโรจน์ ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมานานกว่า 20 ปี หลัง จากที่ เอ๋ ไพโรจน์เสียชีวิตไปแล้ว เบสท์ ได้ยื่นเอกสารการเป็นผู้จัดการมรดก ขณะที่ เอ๋ พลอยรัชษ์ อดีตภรรยาก็ได้ทำการยื่นเอกสารคัดค้าน ขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วม
วันนี้ (1 กันยายน) เวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เอ๋ พลอยรัชษ์ พร้อมด้วย ที่ปรึกษา ”อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ“ และ ”ทนายวศิน พิพัฒนฉัตร“ นัดไต่สวนคำร้องขอจัดการมรดก โดยเจตนาของ เอ๋ พลอยรัชษ์ ที่มาร้องขอคัดค้านไม่ได้ต้องการจะแย่งมรดกจากลูกสาว เอ๋ ไพโรจน์ แต่ทำเพื่อพิทักษ์สิทธิ์ในส่วนที่ผู้หญิงคนนึงควรจะได้
เอ๋ พลอยรัชษ์ ควรมีสิทธิ์ในทรัพย์สิน อยู่กันมา 20 ปี
ทนาย : "คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ มาคัดค้าน ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ฝั่งนั้นเป็นผู้จัดการมรดก แต่คัดค้านว่าคุณเอ๋ พลอยรัชษ์ ก็มีส่วนได้เสียกับมรดกของ คุณเอ๋ ไพโรจน์ ด้วยเช่นกัน ข้อเท็จจริง คือ ทั้งคุณเอ๋ ไพโรจน์ และคุณเอ๋ พลอยรัชษ์ อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา มีการทำมาหาได้ร่วมกันมา 20 ปี ตรงนี้เป็นสิทธิ์ที่คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ จะได้ด้วยในการจัดการมรดก เป็นกรรมสิทธิ์รวมในบ้าน ในรถ คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ก็มีสิทธิ์ในการร่วมจ่าย ร่วมออกค่าซ่อมแซม ฉะนั้นในการจัดการ คุณเอ๋ พลอยรัชษ์ ก็ควรจะมีส่วนร่วมในการจัดการมรดกในครั้งนี้ด้วย"
ยังไม่รู้มีทรัพย์สินอะไรบ้าง แต่เข้าใจว่า มีทรัพย์สินอยู่เยอะ เผยอดีตเมียช่วยออกค่ารีโนเวทบ้าน 2 ล้าน
เอ๋ พลอยรัชษ์ : "เผยถึงหลักฐานที่เป็นสิทธิ์ในทรัพย์สิน คือ การรีโนเวทบ้านที่เราปรับเปลี่ยนไปเยอะมาก รถยนต์ที่ใช้ร่วมกัน ทางเราร่วมผ่อนในช่วงหลังวนไปวนมากัน เพราะต้องเอาเงินไปใช้ในการทำภาพยนตร์ ทรัพย์สินในบ้าน และทรัพย์สินประกอบอาชีพที่ทำมาหาได้ร่วมกัน มีการทำบริษัท 4-5 บริษัท"
ทนาย : "ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีทรัพย์มรดกอะไรบ้าง เข้าใจว่ามีทรัพย์ที่เป็นมรดกอยู่เยอะ ต้องมีการพูดคุยก้นทั้งสองฝ้่ง ทางเราให้ความเคารพในความเป็นลูกของอีกฝ่าย ไม่ได้ต้องการโต้แย้งหรือคัดค้าน แต่เราขอใช้สิทธิ์ในการขอมีส่วนได้ส่วนเสีย ในฐานะที่เป็นภรรยาอยู่กินกันมา 20 ปี เป็นสิทธิ์ที่ผู้หญิงคนนึงจะได้รับ ไม่ได้มีเจตนาร้าย แค่ขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วม เชื่อว่าตลอด 20 ปี ที่อยู่ด้วยกันมันมีทรัพย์สินของคุณเอ๋ร่วมอยู่ด้วยแน่นอน"
เอ๋ พลอยรัชษ์ : "เผยว่าทรัพย์สินร่วม เอาเฉพาะที่รีโนเวทบ้านมาทำเป็นสตูดิโอก็มากกว่า 2 ล้าน เป็นเงินที่เราหามาได้ร่วมกันที่เอามารีโนเวทบ้าน บ้านเดิมจะเป็นอีกลักษณะ เราก็มารีโนเวทใช้กับการทำงาน ทรัพย์สินทั้งหมดจริงๆ ไม่ได้มีมูลค่าเยอะอะไร แต่ ณ วันนี้รู้สึกว่าผู้หญิงคนนึงอยู่กันมาตลอด 20 ปี วันนึงจะมาเหมารวม ปฎิเสธว่าเราไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียมันก็คงไม่ใช่ ในช่วงที่ เอ๋ ไพโรจน์ ลงทุนทำภาพยนตร์ ด้าน เอ๋ พลอยรัชษ์ เองก็มีส่วนในการช่วยหาทุน มีการร่วมทำหนังสือและสตูดิโอ"
เตือนคู่กรณีอย่าล้ำเส้นเกินไป ไม่อยากจะฟ้องกลับ
อี้ แทนคุณ : "ไม่ควรล้ำเส้นกันจนเกินไป ตนมีหน้าที่ปกป้องให้ เอ๋ พลอยรัชษ์ มีชีวิตได้อย่างปกติ ได้เข้าไปอยู่ในบ้านเดิมที่เคยอาศัย ไม่ถูกรบกวนการครอบครอง ไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ผมว่าเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเหมาะสม การปกป้อง เอ๋ พลอยรัชษ์ ทำเพราะว่ารัก เอ๋ ไพโรจน์ ไม่ได้ต้องการจะอยู่คนละฝ่ายกับ เบสท์ วันนี้มีปัญหากันก็ต้องเคลียร์กันด้วยท่าทีที่พอเหมาะพอดี ไม่ล้ำเส้นกันและกัน ที่มาบอกว่านิสัยไม่ดี อันนี้คือไม่จริง หิวแสง ก็ไม่จริง ตนไม่อยากจะเก็บข้อมูลเพื่อจะฟ้องกลับ แต่ถ้าล้ำเส้นกันเกินไป ตนก็ต้องปกป้อง เอ๋ พลอยรัชษ์ สุดท้ายที่ได้มาจะเป็นทรัพย์สินหรือหนี้สินก็ว่ากันไปตามกระบวนการ"
"บ้านหากต้องแบ่งส่วนกัน มี 2 ส่วน หากคำนวณค่าเสียหาย ค่าใช้จ่าย ค่าที่ลงทุนไปเป็นตัวเงินที่ชัดเจน ก็เอาหลักฐานมาให้ศาลดู มีการชี้เปรียบเทียบบ้านหลังเก่าก่อนที่จะรีโนเวท กับสภาพบ้านที่รีโนเวทแล้ว สมมติ กลมๆ 2 ล้าน มีจ่ายให้ก็ดูแลกันไป ไม่จ่ายจะยังไง จะต้องขายบ้านหลังนี้เพื่อเอาเงินส่วนนี้มาคืนให้หรือไม่ ทั้งหมดมันคือสินสมรสที่ทั้งคู่ได้ลงทุนร่วมกัน เราแค่ต้องการส่วนที่เราเคยทำมาหาได้ร่วมกันเพื่อประทังชีวิตต่อไป มันไม่ใช่การแย่งชิงทรัพย์สมบัติ"
"วันนี้สิ่งที่ต้องการคืออยากให้ฝั่งลูกสาวยินยอมให้ตนได้มีส่วนร่วมในการจัดการมรดกด้วย เพราะว่ามีทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ร่วมในการทำมาหาได้กับ เอ๋ ไพโรจน์ อยู่ ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา เขาบอกอยากได้อันนั้นอันนี้ เราก็ไปจัดการหาซื้อมาให้ แล้วอย่างนี้มันจะแยกกันได้ยังไงว่าเป็นทรัพย์ใคร"
ต้องการให้กันทรัพย์สินที่ เอ๋ พลอยรัชษ์ หาร่วมกันมา
ทนาย : "หลังจากที่จัดการกองมรดกแล้ว ต้องมาดูว่ามรดกมีอะไรบ้าง ตามตัวบทกฎหมาย จะมีเรื่องของ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ และความรับผิด ตอนนี้มันจะต้องมาคุยร่วมกันว่า ทรัพย์สิน กองหนี้ มีอะไรแล้วเอาหลักฐานมาพิสูจน์กัน"
"หากฝั่งตนต้องการให้กันทรัพย์สินหรือกรรมสิทธิ์ร่วมที่ทำมาหาได้ร่วมกันระหว่างคู่ เพื่อให้ เอ๋ พลอยรัชษ์ ได้ในส่วนที่ควรจะได้ด้วย เพราะมันมีเงินของ เอ๋ พลอยรัชษ์ ร่วมอยู่ในกองทรัพย์สินนั้นด้วย แต่การจัดการในเรื่องหนี้มันต้องมาคุยกันหลังจากมีการจัดการมรดกเรียบร้อยแล้ว เรื่องของการรับผิดชอบหนี้ ต้องดูเรื่องของการเป็นทายาท เพราะกองมรดกในหลักการถ้าไม่มีพินัยกรรมทุกอย่างก็จะตกอยู่แก่ทายาทโดยธรรม (ต้องเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้อง) ที่ เอ๋ พลอยรัชษ์ มาร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วมเพราะวัตถุประสงค์คือจะต้องกันเงินบางส่วน ซึ่งยังไม่รู้ว่า เอ๋ พลอยรัชษ์ มีส่วนร่วมรึเปล่า ก็ต้องเอาหลักฐานมาพิสูจน์กัน"
เรื่องหนี้สิน ต้องพิสูจน์ก่อนว่า เป็นหนี้ที่มีนิติกรรมสมบรูณ์หรือไม่
ทนาย "บอกทางออกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวนี้ คิดว่าอยากให้มีการพูดคุยกัน ยอมให้เป็นผู้จัดการมรดกร่วม เพราะมันมีทรัพย์ที่เป็นของ เอ๋ พลอยรัชษ์ ร่วมอยู่ในบ้านหลังนั้นด้วย ร่วมการรับสภาพหนี้มันต้องมาดูกันว่านิติสัมพันธ์นั้นมันตกเป็นของกองมรดกด้วยรึเปล่า ต้องเป็นเคสบายเคส ฟันธงให้ไม่ได้ว่าเป็นหนี้ตกทอดไหม ต้องดูเอกสารสิทธิ์ว่าเป็นหนี้อะไร แล้วต้องพิสูจน์ด้วยว่าหนี้มันเป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์รึเปล่า มันเป็นอีกขั้นตอนนึง"
อี้ มั่นใจ เอ๋ พลอยรัชษ์ ไม่ได้ทำอะไรเสียหายอย่างที่ ตึ๋ง กันตนา ตั้งคำถามไปทำอะไรไว้บ้าง
"ฟังเหมือนไปทำอะไรไม่ดีไว้ ตนเช็คแล้ว เอ๋ พลอยรัชษ์ ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย การใช้ชีวิตอยู่กับ เอ๋ ไพโรจน์ ด้วยความซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อกัน ส่วนประเด็นของอีกท่านที่มาเปิดประเด็นสาเหตุการเสียชีวิตต้องการให้เป็นประเด็นรึเปล่า ผมก็ขอตอบว่าใช่ครับ ต้องการให้เป็นประเด็นในการตรวจสอบต่อ ถ้ารักจริงทำไมไม่เปิดเผยข้อมูลออกมา เรารอจังหวะและเวลา ไม่อยากให้เป็นประเด็นบังเรื่องสำคัญ คือการเป็นผู้จัดการมรดกร่วม ในส่วนของหนี้ถ้าเป็นหนี้ที่ก่อร่วมกัน เอ๋ พลอยรัชษ์ ยินดีจ่ายอยู่แล้ว ซึ่ง ตนมั่นใจ 80% ว่าเอ๋ พลอยรัชษ์ จะได้กรรมสิทธิ์ร่วมในการเป็นผู้จัดการมรดก และตนยินดีเป็นคนกลางประสานให้ เอ๋ พลอยรัชษ์ และ เบสท์ ปรับความเข้าใจกันในเรื่องที่มีความขัดแย้งกันอยู่"
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO