CRG เร่งเครื่องนวัตกรรมอาหารผ่าน “Delicious Lab” เสริมแกร่งธุรกิจร้านอาหารไทยมุ่งสู่ผู้นำเทรนด์อาหารแห่งอนาคต
ในโลกของธุรกิจอาหารที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และเต็มไปด้วยการแข่งขัน “นวัตกรรม” กลายเป็นคำตอบสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสำหรับบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG ผู้นำธุรกิจร้านอาหารของประเทศไทย ที่เดินหน้าปักธงในธุรกิจอาหารด้วยหน่วยงานเบื้องหลังอย่าง “Delicious Lab” ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอาหาร ภายใต้แนวคิด “Where Innovation Meets Taste – ผสานนวัตกรรม สู่รสชาติที่เหนือกว่า”
กณพ ศรีอาวุธ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่าย Food Innovation บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “Delicious Lab” ไม่ได้เป็นเพียงห้องทดลองสูตรอาหารใหม่ แต่เป็น “อาวุธลับ” เชิงกลยุทธ์ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ในเครือ CRG อย่างก้าวกระโดด ผ่านการคิดค้น พัฒนา และต่อยอดเมนูใหม่อย่างต่อเนื่องโดยมุ่งสู่ 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่
1. สร้างการเติบโตทางธุรกิจผ่านการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขาย
2. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้วยรสชาติที่แตกต่างและความคิดสร้างสรรค์
3. สร้างความยั่งยืนขององค์กรด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดของเสีย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก คือ Quality = Delicious การยกระดับคุณภาพวัตถุดิบ เช่น หมูสดไม่แช่แข็ง และเบเกอรี่นุ่มสดใหม่, Premium Affordable เมนูพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ และ Innovationการสร้าง Taste Profile ใหม่ให้สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคและสามารถแข่งขันได้จริงในตลาด
โดยในปี 2568 มีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 600 รายการ เพื่อนำเสนอนวัตกรรมและสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกค้า อาทิ มิสเตอร์ โดนัทกับเมนู “โดนัทมัทฉะ” ที่โดดเด่นด้วยรสชาติชาเขียวอุจิเข้มข้น ทั้งแบบท็อปปิ้ง สอดไส้ และผสมผงชาเขียวลงในเนื้อแป้งไวท์พอนเดอริง, อานตี้ แอนส์กับ “แซนวิชแฮมชีสเพสโต้” และ “ชิโอะ เพรทเซล” ที่กำลังเป็นกระแสนิยม รวมถึงคัตสึยะที่ปรับโฉมร้านและยกระดับประสบการณ์การทานทงคัตสึคู่กับนาเบะ ทั้งแบบสุกี้ยากี้ และแบล็คทรัฟเฟิลชีสล้น พร้อมมอบความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงได้
พร้อมทั้งขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารด้วยการผสานข้อมูลเชิงลึก เทคโนโลยี และความเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยอาศัย Big Data และ AI ในการวิเคราะห์เทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว พร้อมสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยเมนูที่หลากหลาย เช่น เมนูเพื่อสุขภาพที่ลดโซเดียมและน้ำตาล เมนูเฉพาะทางสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดในการบริโภคอาหาร เมนูทางเลือกอย่าง Plant-based, High Protein และ Low-carb รวมถึงการพัฒนาแป้งโดนัทสูตรใหม่และการสร้าง Taste Profile จากแรงบันดาลใจของขนมญี่ปุ่นให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรในระยะยาว
นอกจากนี้ Delicious Lab ยังมีแผนร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำในการพัฒนาเมนู Collaboration เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าปรับปรุงกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้า เพิ่มประสิทธิ ภาพ ลดต้นทุน และรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพทีมงานร่วมกับองค์กรชั้นนำ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
และในอีก 3–5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารขององค์กร ทำหน้าที่เป็นกลไกเชิงกลยุทธ์ ในการผลักดันแบรนด์สู่การเป็นผู้นำตลาด ผ่านนวัตกรรมที่สร้างผลลัพธ์ได้จริง ทั้งด้านรสชาติ ประสบการณ์ผู้บริโภค และความยั่งยืน พร้อมเป็นพื้นที่ฝึกอบรม พัฒนา และบ่มเพาะแนวคิดใหม่ให้กับบุคลากร ตลอดจนก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน ผู้ขับเคลื่อนเทรนด์การบริโภคของตลาดร้านอาหารไทยในอนาคต