โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

นักวิชาการ ฟันธงต่างชาติ เมิน "TouristDigiPay" คริปโตแลกเงินบาท

PostToday

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากกรณีที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดตัวโครงการ “TouristDigiPay” เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถแปลงเป็นเงินบาทผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต โดยเงินบาทจะถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เพื่อนำไปใช้จ่ายในร้านค้าต่างๆ ภายในประเทศ โดยเบื้องต้นจะทดลองในพื้นที่ Sandbox เป็นเวลา 18 เดือน

ศ. ดร.อาณัติ ลีมัคเดช อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเห็นว่า โครงการดังกล่าวเป็นเพียงการสร้างบรรยากาศทางนโยบายให้ดูทันสมัย แต่ในทางปฏิบัติไม่น่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ความสนใจ เพราะปัจจุบันผู้คนสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ในการซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าที่รับคริปโตได้โดยตรงอยู่แล้ว ผ่านแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลระดับโลก เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet โดยไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินบาท และไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน (KYC) ให้ยุ่งยาก

ศ. ดร.อาณัติ ระบุว่า พ.ร.บ. เงินตรา พ.ศ. 2501 กำหนดเพียงว่าเงินบาทเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ตามกฎหมาย และห้ามพิมพ์เงินขึ้นเอง แต่ไม่ได้ห้ามการซื้อขายสินค้าด้วยคริปโตในลักษณะที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายยินยอมร่วมกัน ดังนั้น การใช้คริปโตของนักท่องเที่ยวเพื่อซื้อของโดยตรงจึงไม่ผิดกฎหมาย และไม่มีความจำเป็นต้องตั้ง Sandbox หรือเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ใดเพิ่มเติม

ขณะเดียวกัน การแปลงคริปโตเป็นเงินบาทภายใต้โครงการ TouristDigiPay ยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อน โดยนักท่องเที่ยวต้องนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทผ่าน Exchange ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งต้องผ่านกระบวนการ KYC ก่อน จากนั้นต้องสมัครใช้บริการ e-Money ในไทย เช่น TrueMoney Wallet หรือ ShopeePay และยืนยันตัวตนอีกครั้งก่อนจะสามารถใช้จ่ายได้จริง กระบวนการเหล่านี้ใช้เวลามากและซับซ้อนเกินความจำเป็น

โดยตั้งข้อสังเกตว่าในความเป็นจริง นักท่องเที่ยวต่างชาติมักใช้แอปกระเป๋าคริปโตที่ไม่ต้องทำ KYC และสามารถใช้จ่ายโดยตรงในร้านค้าที่รองรับคริปโตได้เลย ซึ่งหลายร้านในไทยก็เริ่มเปิดรับแล้ว เช่น ร้านอาหารบางแห่ง หรือแม้กระทั่งโครงการคอนโด จึงเชื่อว่าแทบไม่มีใครสนใจเข้าร่วมโครงการดังกล่าว เพราะมีทางเลือกที่สะดวกกว่าอยู่แล้ว

ในมุมของความเสี่ยง ศ. ดร.อาณัติ เห็นว่ารัฐควรให้ความสำคัญกับปัญหาการฟอกเงินผ่านแพลตฟอร์มกระเป๋าเงินคริปโตที่ไม่ต้องยืนยันตัวตน ซึ่งทำให้ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้งานได้ และอาจถูกใช้ในธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งปัญหานี้จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะมีหรือไม่มีโครงการ TouristDigiPay

เขาชี้ว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังเป็นกระแสหลักที่เติบโตทั่วโลก หากประเทศไทยปล่อยให้มีการใช้คริปโตในการชำระค่าสินค้าและบริการอย่างแพร่หลายโดยไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม อาจนำไปสู่การลดบทบาทของเงินบาท และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็จะสูญเสียความสามารถในการควบคุมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดอัตราดอกเบี้ยหรือควบคุมเงินเฟ้อ เพราะเงินบาทจะไม่ใช่เครื่องมือหลักในการชำระเงินอีกต่อไป

ดังนั้น สิ่งที่ภาครัฐควรเร่งดำเนินการคือการพัฒนา “Blockchain Analytics” ซึ่งเป็นระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชนที่สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของทรัพย์สินดิจิทัล ตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย และช่วยวิเคราะห์ความเชื่อมโยงของธุรกรรมได้ แม้ในกรณีที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลโดยตรง ซึ่งประเทศที่เป็นศูนย์กลางการเงินของโลกอย่างสิงคโปร์และดูไบต่างก็มีการใช้เครื่องมือนี้แล้ว

ศ. ดร.อาณัติ ระบุว่า หากผู้กำหนดนโยบายของไทยยังไม่ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โอกาสในการควบคุมระบบการเงินของประเทศอาจลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมระบุว่าโครงการ TouristDigiPay ควรถือเป็น “สัญญาณเตือน” ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวและเร่งยกระดับเครื่องมือทางเทคโนโลยี เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วในวันนี้ ไม่ใช่แค่เพียงอนาคต

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

SCBX จัดทัพผู้บริหารใหม่ ‘อารักษ์’ ว่าที่ซีอีโอ นั่ง CFO ควบรอง CEO

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้นใหญ่กอดคอพุ่ง! SET บวกฉ่ำ 12.37 จุด แตะระดับ 1,248.13 จุด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บอร์ดกระตุ้นศก.เคาะโอนงบ 2.4 หมื่นลบ. เข้างบกลาง เร่งใช้จ่ายให้ทัน ก.ย.นี้

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถ่ายทอดสด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ กง อัน ฮานอย Shopee Cup วันนี้ 20 ส.ค.68

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เวียดนามพลิกเกม ส่งออกข้าวคาร์บอนต่ำ ราคาข้าวขึ้นแซงแพงกว่าไทย | คุยกับบัญชา | 18 ส.ค. 68

BTimes

สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ติดลบ 0.9% ธปท.สุดห่วง SME กู้ยาก-หนี้เสียพุ่ง-ซมพิษภาษีทรัมป์

Thairath Money

Pet Expo Championship 2025 ตอกย้ำความสำเร็จ ผู้ประกอบการปลื้มกระแสแรงต่อเนื่อง ตลอด 4 วัน เงินสะพัดในงานกว่า 78 ล้านบาท ผู้เข้าชมทะลุกว่า 8 หมื่นคน

Manager Online

สิงห์ เอสเตท เปิดตัวโครงการ “S’RIN พรานนก-กาญจนา” บ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมลักชูรี มูลค่าโครงการกว่า 4,300 ลบ.

Manager Online

โปรดเกล้าฯ ‘เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’ ทรงดำรงตำแหน่ง รองผบช.หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์

การเงินธนาคาร

“สุริยะ”เผยเบิกจ่ายงบ 68 แล้ว 1.27 แสนล้านบาท กระตุ้นทุกหน่วยตั้งเป้า 100%

Manager Online

6-7 ธ.ค. นี้ “บิ๊กเมาน์เท่น 15” ชวนทุกคนรับพลังบวกส่งท้ายปี กับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในไทย จัดใหญ่ 14 เวที และไลน์อัปศิลปินฮิตจากทั่วทั้งวงการเพลง ตลอด 2 วันเต็ม

Positioningmag

ส่อฝันค้าง!รถไฟฟ้า 20 บาท ยังต้องลุ้นแก้ พ.ร.บ. รฟม.โยกเงินชดเชยเอกชน หวั่นผ่านสภาไม่ทันกำหนด 1 ต.ค. 68

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...