หุ้นใหญ่กอดคอพุ่ง! SET บวกฉ่ำ 12.37 จุด แตะระดับ 1,248.13 จุด
ความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายวันนี้ (20 ส.ค.68) อยู่ที่ 1,248.13 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด คิดเป็น +1.00% มูลค่าการซื้อขาย 43,127.12 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,251.14 จุด ลดลงต่ำสุด 1,228.43 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นไทยปิดพุ่ง 12.37 จุด จาก Technical Rebound หลังดัชนีปรับลงไม่หลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,230 จุด
โดยมี Sector ที่ปรับขึ้นนำตลาด คือ กลุ่มปิโตรฯ (PTTGC, IVL, SCC) กลุ่มน้ำมัน&โรงกลั่น (PTTEP, TOP, BCP) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM, RATCH) กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, KTC) และ กลุ่มนิคมฯ (WHA, AMATA) ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ อิเล็กฯ (DELTA) และกลุ่มขนส่ง (THAI, BTS)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ PTTGC, IVL, SCC พุ่งแรงรับ Theme Anti Involution ตามที่ทีมกลยุทธ์หลักทรัพย์กรุงศรีฯแนะนำในช่วงบ่ายวันนี้ หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเกาหลีใต้ส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตปิโตรเคมีและนาฟทาราว 25% จากกำลังการผลิตรวมทั้งประเทศที่ 14.7 ล้านตัน
สอดคล้องกับนโยบายของจีนที่ต้องการคุมกำลังการผลิตส่วนเกินในกลุ่มธุรกิจเหล็กและปิโตรฯ ผสานข่าวอินเดียออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปฏิรูปภาษี และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน หนุนดีมานด์ในกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรฯ ซึ่งอินเดียเป็นผู้ใช้ปิโตรเคมีราว 25-30 ล้านตันต่อปีคิดเป็นผู้ใช้ปิโตรฯ ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก จีน และสหรัฐ
หุ้น SJWD ราคาพุ่ง Analyst meeting โทนเป็นบวกอิง Comment จากนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของฝ่ายวิคราะห์ คือ ได้ประโยชน์จากโครงการ Longson ของ SCC ที่เวียดนามเริ่มเปิดดำเนินการแล้วในเดือน ส.ค. หนุนรายได้ขนส่งปิโตรฯของ SJWD เพิ่มขึ้น 400-500 ล้านบาทต่อปี, ไตรมาส 3/68 มีแผนขาย Asset จาก Alpha เข้ากอง REIT อย่างน้อย 1 โครงการ คาดรับ Extra Gain ราว 20-30 ล้านบาท
หุ้น AMATA, WHA กระแสลงทุน Data Center ระดับ Hyperscale ในมาเลเซียเริ่มเผชิญข้อจำกัดด้านไฟฟ้าและน้ำไม่เพียงพอคล้ายสิงคโปร์ เปิดโอกาสให้กระแสลงทุนดังกล่าวอาจย้ายหรือกระจายการลงทุนไปยังประเทศ อื่นๆ ที่มีศักยภาพรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ได้ อาทิ ประเทศไทย
หุ้น SAWAD, MTC, KTC รับกระแสดอกเบี้ยขาลง บ่ายวันนี้มีจิตวิทยาบวกจากข่าวธนาคารกลางอินโดฯ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 5% ซึ่งปรับลดเป็นครั้งที่ 4 สะท้อนภาพแนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกเป็นขาลง ส่วนบ้านเราคาดแบงก์ชาติจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือของปีนี้ (ต.ค. และ ธ.ค.) หากเป็นจริงจะส่งผลดีโดยตรงต่อกลุ่มไฟแนนซ์
และหุ้น MINT, CENTEL กระทรวงท่องเที่ยวฯออกมาตรการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยออกแคมเปญแจกตั๋วเครื่องบินฟรี ไป-กลับ เส้นทางในประเทศให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดดึงนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้อีก 2-3 แสนคนในปีนี้
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า วันนี้รอดูเงินเฟ้อ (CPI) อังกฤษและยูโรโซน ก.ค. Consensus คาดปรับขึ้น 3.7%YoY เพิ่มจาก มิ.ย. ที่ 3.6% และ Core CPI ของยูโรโซน (EU) คาดทรงตัวจาก มิ.ย. ที่ 2.3%YoY เช่นเดียวกับ CPI ที่ทรงตัวจาก มิ.ย. ที่ 2%YoY กรณีออกมาตามคาดจะพบว่า เงินเฟ้อ EU มีแนวโน้มทรงตัว โดย Core CPI ยังสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% เล็กน้อย แต่ไม่มีสัญญาณเร่งตัวแรง ทำให้ ECB มีพื้นที่ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่า
ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ทิ้งทวนของพาวเวล ในการประชุม Jackson Hole Economic 21–23 ส.ค.นี้ โดยเฉพาะ 22 ส.ค. จะเป็นหัวข้อตลาดแรงงานในช่วงเปลี่ยนผ่านโครงสร้างประชากร, ประสิทธิภาพการผลิต, นโยบายเศรษฐกิจมหภาค หากพาวเวล ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจเสี่ยง Stagflation อาจทำให้ FED เหลือโอกาสลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ล่าสุด FED Watch Tool ให้น้ำหนัก 86.6% ที่ FED จะลดดอกเบี้ย 0.25% แตะระดับ 4.25% ใน ก.ย.นี้
ครม. อนุมัติงบ 61,697.06 ล้านบาท รักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกปี 2568 และ 2569 นาปรังปี 2568 จ่ายไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อ 51,232.50 ล้านบาท และวงเงินจ่ายขาด 10,464.56 ล้านบาท
ครอบคลุม 3 โครงการหลัก ได้แก่ สินเชื่อชะลอการขายข้าว 45,398.81 ล้านบาท, สินเชื่อรวบรวมข้าวโดยสถาบันเกษตรกร 15,656.25 ล้านบาท และชดเชยดอกเบี้ยผู้ค้าข้าว 642 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจาก ธ.ก.ส. และกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรอาจช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะในภาคชนบท ซึ่งมีสัดส่วนประชากรสูง บวกต่อหุ้น CPF,TFG,CPALL,CPAXT,SNNP,BJC,OSP,KTB,MTC,SAWAD และ TIDLOR
21 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังการไต่สวนพยานบุคคล คาดว่า นายกฯ แพทองธารจะเดินทางไปด้วยตนเอง ก่อนที่ 29 ส.ค. เวลา 15.00 น. ศาลฯ จะนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย