โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ชู “หุ้นสุขภาพยุคใหม่” พื้นฐานแกร่ง-ราคาไม่แพง... จังหวะลงทุนระยะยาว เติบโตไปกับธีม “สังคมผู้สูงอายุ” !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 26 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สรวิศ อิ่มบำรุง

ลายแทงกองทุน: สำหรับ “หุ้นสุขภาพยุคใหม่” เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง “สุขภาพ” และ “เทคโนโลยี” เข้าด้วยกัน เป็นธีมการลงทุนแห่งอนาคต ที่พร้อมจะเติบโตไปกับ “สังคมผู้สูงอายุ” ของโลกในระยะยาว
แต่ที่ผ่านมา ด้วยบุคลิกที่มีส่วนผสมของความเป็น “เทคฯ” อยู่ ก็ได้รับผลกระทบจาก “ดอกเบี้ยขาขึ้น” ไปเช่นกัน และยังมาเจอ “ภาษี Trump” เขย่าโลกช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ทำให้ภาพรวม “กองหุ้นสุขภาพ” ในปีนี้ยังไม่ดีเท่าที่ควรผลตอบแทนเฉลี่ยยังคงติดลบอยู่ -3.96% โดยกองทุนส่วนใหญ่ 84% ยังคงมีผลตอบแทน “ติดลบ” มีเพียง 16% เท่านั้น ที่มีผลตอบแทนเป็น “บวก” ได้
แต่ก็พบสัญญาณฟื้นตัวที่ดีขึ้นตามลำดับ และ “หุ้นสุขภาพโลก” หลายตัวก็ปรับตัวลงแรงในช่วงที่ผ่านมา หากเทียบกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งในระยะยาว ก็ถือเป็นอีกธีมที่น่าสนใจ ระดับราคา “ไม่แพง”
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ ได้คัดเอา 4 “กองทุนเด่น” ในธีม “หุ้นสุขภาพยุคใหม่” ที่น่าสนใจมาฝากกัน

เปิด 4 "กองทุนเด่น" ธีม "หุ้นสุขภาพยุคใหม่"…โอกาสเติบโตตาม "สังคมผู้สูงอายุ" ทั่วโลก

สำหรับ 4 “กองทุนเด่น”ที่คัดมาในครั้งนี้ เป็น Feeder Fund 2 กอง และ Fund of Funds 2 กอง ที่มีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป โดยลงทุนใน “หุ้นสุขภาพยุคใหม่” ที่แตกต่างกันออกไป ประกอบด้วย
- “ONE-MEDTECH: กองทุนเปิด วรรณ เมดิคอล เทคโนโลยี ของบลจ.วรรณ เป็นกองทุนในกลุ่ม Health Care” ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นสุขภาพ” เพื่อสร้างผลตอบแทนก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ใกล้เคียงกับดัชนี Dow Jones U.S. Select Medical Equipment Index”
ซึ่งเป็นตัววัดผลการดำเนินงานของกลุ่มอุตสาหกรรมภาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Equipment Sector) ใน “ตลาดหุ้นสหรัฐ” ประกอบไปด้วยหุ้นของบริษัทเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องถ่ายภาพด้วยคลื่นสนามแม่เหล็ก (MRI), สแกนเนอร์, ขาเทียม เครื่องกระตุ้นหัวใจ, เครื่องXray รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ใช่อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งอื่นๆ
ผ่านกองทุนหลัก ‘iShares U.S. Medical Devices ETF’ ที่บริหารจัดการโดย BlackRock Fund Advisors
สำหรับหน้าตาพอร์ตของกองทุนหลัก (ณ 30 มิ.ย. 25) มีการลงทุนในกลุ่ม Health Care Equipment” 99.85% ที่จดทะเบียนใน “ตลาดหุ้นสหรัฐ”
“โดย 5 หุ้นที่ลงทุนมากสุด ได้แก่ 1) ABBOTT LABORATORIES 18.82%,2) INTUITIVE SURGICAL INC 15.49%,3) BOSTON SCIENTIFIC CORP 11.22%,4) STRYKER CORP 4.57% และ5) EDWARDS LIFESCIENCES CORP 4.56% ตามลำดับ”

- ถัดมาเป็น BCAP-XHEALTH: กองทุนเปิดบีแคป เน็กซ์ เจน เฮลธ์ ของบลจ.บางกอกแคปปิตอล เป็นกองทุนในกลุ่ม Global Equity” ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นทั่วโลก” ของบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพรูปแบบใหม่ เช่น Gene Therapy, Telemedicine, Healthcare IT Infrastructure เป็นต้น ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมข้างต้น ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไปเพื่อให้มี Net Exposure โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
สำหรับ 5 กองทุนที่ลงทุนมากสุด (ณ 31 ก.ค. 25) ประกอบด้วย

1) UBS LUX DIG HEALTH EQ-EB USD 29.64%
2) ISHARES U.S. MEDICAL DEVICES 19.03%
3) VANECK BIOTECH ETF 11.15%
4) ARK GENOMIC REVOLUTION ETF 10.32%
5) VANECK PHARMACEUTICAL ETF 9.26%
- มาต่อกันด้วย KT-HEALTHCARE-A: กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า ของบลจ.กรุงไทย เป็นกองทุนในกลุ่ม Health Care” ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นสุขภาพ” ของบริษัทต่างๆ ทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต โดยทั่วไป Life Sciences” จะเกี่ยวข้องกับการรักษาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิต ผ่านกองทุนหลัก ‘Janus Global Life Sciences Fund’ ที่บริหารจัดการโดย Janus Henderson Capital Fund PLC
สำหรับหน้าตาพอร์ตของกองทุนหลัก (ณ 30 มิ.ย. 25) มีการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรม Healthcare” 100%ทั้งนี้ 5 ประเทศที่ลงทุนมากสุด ประกอบด้วย 1) สหรัฐ 78.19%, 2) สหราชอาณาจักร 6.40%, 3) สวิตเซอร์แลนด์ 4.33%, 4) จีน 3.16% และ 5) ฝรั่งเศส 3.07%
“โดย 5 หุ้นที่ลงทุนมากสุด ได้แก่ 1) Eli Lilly & Co 8.85%,2) United Health Group Inc 4.50%,3) Astra Zeneca PLC 4.13%,4) Boston Scientific Corp 3.44% และ5) Abbott Laboratories 3.41%ตามลำดับ”

- ปิดท้ายกันด้วย ASP-IHEALTH: กองทุนเปิด แอสเซทพลัส อินโนเวทีฟ เฮลธ์แคร์ ของบลจ.แอสเซท พลัส เป็นกองทุนในกลุ่ม Health Care” ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) ที่เน้นลงทุน “หุ้นสุขภาพ” ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุนหรือสิทธิในตราสารทุนอื่นๆ ที่ออกโดยบริษัทด้านดิจิทัล เฮลธ์ (Digital Health) และ/หรือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีชีวภาพและเภสัชกรรมโดยตรง (รวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ) และ/หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมที่มีนโยบายข้างต้น ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไป
สำหรับ 2 กองทุนที่ลงทุนมากสุด (ณ 30 มิ.ย. 25) ประกอบด้วย

1) JAN HND HRZN BIOTECH-IU2 USD 66.33%
2) Health Care Select Sector SPDR Fund 16.98%
“หุ้นสุขภาพยุคใหม่” ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของ “หุ้นเทคโนโลยี” อยู่ด้วยในตัว ในช่วงที่ผ่านมา ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อผลงานของหุ้นกลุ่มนี้อยู่พอสมควร แต่นี่ยังคงเป็นอีกหนึ่ง “Megatrend” ของโลกการลงทุนที่พร้อมจะเติบโตไปกับ “สังคมผู้สูงอายุ” ของโลก และมีโอกาสสร้างการเติบโตที่ดีกว่า “หุ้นสุขภาพแบบดั้งเดิม” อีกด้วย ในช่วงวงจร “ดอกเบี้ยขาลง” น่าจะทำให้หุ้นกลุ่มนี้กลับมาได้อีกครั้ง จึงเป็นอีกธีมการลงทุนที่น่าสนใจและปัจจุบันก็ราคา “ไม่แพง” ด้วยเช่นกัน
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Wealthy Thai

ก.ล.ต. สั่งพักผู้แนะนำการลงทุนกรณีไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Dusit Central Park เผยความพร้อมของ Roof Park สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เตรียมต้อนรับทุกคน 3 กันยายน นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่นๆ

ZIGA เปิดข้อมูลลงทุนบิทคอยน์รวม 7 BTC ระบุเงินลงทุนจากสภาพคล่องส่วนเกินเท่านั้น

กรุงเทพธุรกิจ

ก.ล.ต. พักงาน 2 ผู้แนะนำการลงทุน บล.ดาโอ ปมใช้รหัสลูกค้าซื้อขายแทน

ประชาชาติธุรกิจ

หุ้นไทยวันนี้ (18 ส.ค.) ปิดร่วง 17.11 จุด นักลงทุนขายหุ้นใหญ่ลดเสี่ยงการเมือง

ประชาชาติธุรกิจ

ค่าเงินบาท ปิดวันนี้ 18 ส.ค. ที่ 32.46 บาท ตลาดรอปัจจัยใหม่

The Bangkok Insight

III เดินหน้าสายการบิน Cargo Airline หลังเพิ่มทุน 197 ลบ.ในบริษัทย่อย

กรุงเทพธุรกิจ

MTC "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" โอนหุ้นทั้งหมด 33.49% ให้สองทายาท"ปริทัศน์-ศึกษิต" ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่

ทันหุ้น

ฮ่องกงกดดันตลาด Stablecoin หวังสร้างตลาดที่โปร่งใส

ทันหุ้น

AWC จับมือ A49 สร้างสถาปัตยกรรมมาตรฐานระดับโลก ควบคู่ศิลปวัฒนธรรมไทย

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...