วันเดียวจบ งบ 35,000 สาวรีวิวงานศพแม่ ปี 2025 ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน

กลายเป็นกระแสไวรัลในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก Napatcha Bualoeng โพสต์แชร์ประสบการณ์จัดงานศพแบบวันเดียวเผา เป็นแนวทางสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากเป็นภาระญาติและไม่แคร์สายตาชาวบ้าน พร้อมทิ้งท้ายประโยคเด็ด ระบุว่า “รีวิวงานศพแบบวันเดียวเผา ใครไม่กล้า กูกล้า ใครขี้เกียจอ่าน ลงไปอ่านสรุปข้างล่างเลย เพื่อเป็นแนวทางให้คนรุ่นนี้ จัดแบบรุ่นใหม่ 2025 ไม่แคร์สายตาชาวบ้าน คนออกความเห็น ทำไมไม่ 3 วัน ทำไมไม่นั่นนี่ ออกความเห็นแต่ไม่ออกเงิน 555+ ถามตัวเองก่อน ว่าเราศาสนาอะไร ‘พุทธ’ จะพยายามให้เป็นพุทธเถรวาทให้มากที่สุดนาทีนั้น อยากปรึกษา อ.ดนัย มากๆ (ติดตามมาจากช่อง Salmon Podcast)”

เริ่มจากโพสต์ก่อนหน้าเรื่องทำประกันไว้ด้วย ปี 67 แม่วูบ เป็นลม เข้ารพ. ผลเลือดไม่ปกติมาก ถูกส่งตรวจละเอียด

• รพ.รัฐ สิทธิ 30 บาท สรุปเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ช่วงต้นปี 68 แม่เริ่มนอนรพ.หลายวันด้วยอาการเหนื่อย ไม่มีแรง บางครั้งนอนยาว 7 วัน แล้วออก รพ. รอบล่าสุด 17 วัน

ระหว่างเยี่ยมแม่ เจอญาติหลายคน จึงเปิดประเด็นว่า หากแม่เสียจริง ๆ ขอจัด งานศพวันเดียวเผา ทุกคนเห็นด้วย เพราะประหยัดและญาติไม่เหนื่อย ไม่ต้องหยุดงานหลายวัน

ผู้เขียนบินไปเยี่ยมแม่ทุกเดือน 3 เดือนติด เนื่องจากแม่อาการหนัก และทุกครั้งที่จัดกระเป๋าเดินทาง จะเตรียมชุดดำไปด้วยเสมอ เพื่อเตรียมตัวและมีสติ พอถึงรอบสุดท้าย เตรียมของชำร่วยงานศพไปด้วย ลงเครื่องที่ขอนแก่นประมาณทุ่มนึง เสียงโทรศัพท์จากรพ.เข้ามาเวลา 17.36 น.

• “ญาติคนไข้ชื่อ … ใช่มั้ยคะ คนไข้เสียชีวิตแล้วนะคะ อยากให้ไปเสียที่บ้านหรือที่รพ.คะ?”

ผู้เขียนงง ๆ แต่สุดท้ายตามคำแนะนำพยาบาลคือ ที่บ้าน แม้ใจอยากจบที่รพ.เพราะเอกสารน่าจะง่ายกว่า

โทรปรึกษาพี่ชายเรื่องบ้าน* ปกติบ้านแม่อยู่กับญาติ แม่ไม่มีทรัพย์สินอะไร ใช้ชีวิตเรียบง่าย ทานข้าว ดูหนัง ไปเล่นกับเพื่อนแถวบ้าน และสั่งของออนไลน์ตลอด เช่น นมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง prosure ขวดละเกือบ 200 บาท วันละขวด

แม่เสียที่ รพ. วันนั้นนอนกับน้ำหวาน CEO บ้านขนมจีบ (ปกติรับจัดเบรก) หลังวางสาย จึงบอกให้น้ำหวานจัดเบรก 100 ชุด พร้อมออกบิล น้ำหวานช่วยแนะนำเรื่องเอกสาร รพ. เพราะพ่อผู้เขียนเสียไป 4-5 ปีแล้ว ต่อมาก็บอก น้องน้อย มือขวาในงานให้ช่วยดูแลเรื่องแม่ โทรดีลพี่ชายเพื่อเอาศพออกจากรพ. ส่วนไปดีลกับวัดจัดที่วัดป่าแถวบ้าน น้า ๆ ผู้ใหญ่บ้าน และคนในชุมชนช่วยแจ้งข่าว ขอบคุณมากที่คนมางานเยอะกว่าที่คิด

ไอเดียคือ คนอยากมาร่วมงานก็มา ด่วนแค่ไหนก็มา คนไม่สะดวกก็โอนเงินร่วมบุญได้ ขอบคุณทุกคน และบอกผู้ไม่สะดวกว่า ตื่นเช้ามาตักบาตรอุทิศให้แม่ก็พอ

น้า ๆ ช่วยดีลน้ำแข็ง น้ำแจกแขก น้ำหวานเอาเบรกมาส่ง ค่าเบรกเป็นการร่วมบุญ น้าจัดอาหารเลี้ยงพระสวดอภิธรรมเย็นวันนั้น และตักบาตรเช้าเรียบร้อย

กำหนดการ

• ศพมาถึงประมาณเที่ยง
• สวดอภิธรรมและเผาประมาณบ่าย 3
• วันถัดมา 6.00 เก็บกระดูก
• 10.00 ลอยอังคาร จุดธูป ลอยเอง ไม่มีพระนำสวด ใช้จิตสื่อให้มากที่สุด

“แม่ไปเลยนะ ไม่ต้องห่วงใคร ทุกคนมีกรรมของตัวเอง แม่ไปตามแสงสว่าง ไม่มีสังขารให้ทรมานแล้ว ยินดีด้วยยยย” หลังจากแม่เสีย ไม่เคยคิดไปหาหมอดู ร่างทรง หรือขอเทพเจ้า เพราะที่ผ่านมาได้ตั้งใจอย่างดีที่สุดแล้ว

สรุป

• แม่เสีย 05.36 น.
• เผา 15.00 น.
• เก็บกระดูกวันถัดมา ลอยอังคารประมาณ 11.00 น.
• งบประมาณไม่เกิน 35,000 บาท

ขอบคุณเพื่อน ๆ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน: น้องน้อย, น้องแคท, น้องโบว์ และญาติ ๆ

งานศพมีจุดประสงค์เพื่อสอนผู้ร่วมงานเรื่อง ‘มรณานุสติ’ ตายเป็นเรื่องปกติ ต้องไม่แคร์สายตาชาวบ้าน ทำตามงบที่ตัวเองจ่ายได้ ไม่กู้เงิน ไม่มีใครช่วยใช้หนี้
แม่มาเข้าฝันสภาพดี แปลว่าทำดีที่สุดแล้ว จบ

• “ต่อให้จัดงานศพหมดเป็นล้าน แต่ตอนแม่มีชีวิตไม่เคยดูแล มันก็ไม่ได้สร้างความชอบธรรมเรื่องความกตัญญู ถ้ามีจิตสำนึก ไม่ต้องงัดมันออกมา มันอัตโนมัติ”

ขอบคุณข้อมูลจาก Napatcha Bualoeng