โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จากเสียงปืนสู่บาดแผลใจ วิกฤตสุขภาพจิตประชาชน-เจ้าหน้าที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา

THE STANDARD

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
จากเสียงปืนสู่บาดแผลใจ วิกฤตสุขภาพจิตประชาชน-เจ้าหน้าที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา

หัวข้อในเนื้อหานี้

  • PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder
  • ชายแดนเงียบสงบ แต่ไม่สงบในใจพลทหาร
  • การนอนเป็นหัวใจต่อความเสี่ยง PTSD ของทหาร
  • บาดแผลใจประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา
  • วิธีดูแลตนเองเบื้องต้น
  • ช่องทางการปรึกษาสุขภาพจิต

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ พลทหารนายหนึ่งเดินทางออกจากหน่วยที่ตั้งพร้อมอาวุธปืน หลังจากนั้นได้ก่อเหตุจนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์

หลังเหตุการณ์ดังกล่าว หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ทหารผู้ก่อเหตุมีภาวะความเครียดจากสถานการณ์ชายแดน ?

ขณะเดียวกันประชาชนที่เริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติแล้ว กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า การคัดกรองสุขภาพจิตผู้ได้รับผลกระทบ มีจำนวนผู้อยู่ในภาวะเครียดสูงคงที่ที่ 4,537 ราย และเสี่ยงจบชีวิตตัวเองกว่า 499 ราย

THE STANDARD ชวนทำความเข้าใจภาวะ PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดจากผลกระทบของเหตุการณ์รุนแรง

PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder

สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์กระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดความเครียด เช่น ภัยพิบัติ อุทกภัย แผ่นดินไหว การก่อการจลาจล ฆาตกรรม สงคราม การปล้นฆ่า และข่มขืน เป็นต้น ล้วนส่งผลต่อผู้ที่เผชิญเหตุการณ์นั้นและผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

ผู้ที่เสี่ยงเป็นภาวะ PTSD ในช่วงแรกมีความเครียดฉับพลันประมาณ 1 เดือน เรียกว่าระยะทำใจ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการทางประสาทขึ้นมาได้ ระยะที่สอง มีความเครียดระยะเวลานานกว่า 1 เดือน

ผู้ป่วยจะเห็นภาพเหตุการณ์ซ้ำๆ จนเกิดภาพหลอน ฝันร้าย และความวิตกกังวลรุนแรง อาจมีอาการตื่นกลัว ใจสั่น มือสั่น เหงื่อออกมาก รวมถึงมองโลกในแง่ลบ รู้สึกไม่มีความสุข หม่นหมอง ไม่สนใจสิ่งที่เคยชอบ ทำให้รู้สึกแปลกแยก และอาจรุนแรงถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ยังมีการหวาดกลัว พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญเหตุการณ์หรือสิ่งเร้าที่ทำให้นึกถึงเหตุการณ์นั้นๆ

ชายแดนเงียบสงบ แต่ไม่สงบในใจพลทหาร

ท่ามกลางภารกิจและการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัย พลทหารต้องเผชิญความเครียดสะสมจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด และความกดดันจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัย ซึ่งยิ่งทวีความรุนแรงเมื่อภารกิจยาวนานต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตของทหารอย่างชัดเจน

งานวิจัยศึกษาความเครียดของทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 11 ในพื้นที่อำเภอแว้งและอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ปี 2562 พบว่าการปฏิบัติภารกิจทำให้ทหารพรานเกิดความเครียดในระดับหนึ่งและส่งผลต่อสุขภาพจิตและประสิทธิภาพในการทำงาน

ขณะเดียวกัน งานวิจัยของอิศรา รักษ์กุล ปี 2554 เรื่อง ภาวะสุขภาพจิตและทัศนคติของกำลังพลกองทัพบกที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าพลทหารมีความรู้สึกเครียดถึง 61.5% มีภาวะเสี่ยงเกิดโรคซึมเศร้า 34.55% มีพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 19.67% และกำลังพลที่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องความเครียด 45.93%

นอกจากนี้ เอกสาร Specific Populations and Trauma Types: Military and ex-military personnel ระบุว่า ความเสี่ยงต่อการเกิด PTSD ในทหารและอดีตทหารไม่ได้จำกัดอยู่แค่ประสบการณ์การรบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฝึกที่ต้องเผชิญสภาวะกดดัน การล่วงละเมิดทางเพศ และการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยเรื้อรังที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิต รวมถึงการห่างไกลครอบครัวก็อาจก่อให้เกิดความโดดเดี่ยวและความวิตกกังวล

ทั้งนี้ การกลับสู่สังคมพลเรือนยังถือเป็นอุปสรรคสำคัญ เพราะทหารจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับความรู้สึกสูญเสียตัวตน ปัญหาการหางาน และการปรับตัวจากวิถีชีวิตที่มีระเบียบแบบแผนสูง ทำให้เกิดสภาวะเสี่ยงด้านสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้น

ผลวิจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ความเครียดจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยไม่เพียงส่งผลต่อร่างกาย แต่ยังกระทบต่อสุขภาพจิตของทหารอย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม เอกสารจิตเวชศาสตร์ทหาร ระบุว่า การป้องกันปัญหาสุขภาพจิตจากการรบขึ้นอยู่กับความยึดเหนี่ยวในหมู่ทหารที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกัน โดยต้องมีผู้นำที่ดี การฝึกใช้ชีวิต และเผชิญความเครียดร่วมกัน เพื่อสร้างความผูกพันและการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

ทั้งนี้ ความสามารถในการรวมกลุ่มและบรรยากาศภายในหน่วย มีผลอย่างยิ่งในการทนทานต่อบาดแผลจากการรบ ขณะที่ความล้มเหลวในการปรับตัวเข้ากับกลุ่มอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตได้

การนอนเป็นหัวใจต่อความเสี่ยง PTSD ของทหาร

ในการศึกษาของ Veterans Health Administration ปี 2013 กับอดีตทหารเกณฑ์รบกว่า 1,600 คน พบว่ามากกว่า 49% นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืน 23% นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมง และ 72% รายงานว่าคุณภาพการนอนแย่ ผลการศึกษาชี้ชัดว่า ทหารที่นอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืน มีความเสี่ยงเป็น โรค PTSD และภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้น 3 เท่า ส่วนกลุ่มที่มีคุณภาพการนอนแย่ พบความเสี่ยงต่อ PTSD สูงขึ้น 5 เท่า ภาวะซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 9 เท่า และมีความคิดฆ่าตัวตายสูงขึ้น 6 เท่า

บทความ Combat exposure, post-traumatic stress symptoms, and health-related behaviors: the role of sleep continuity and duration ย้ำว่า การนอนหลับคือกุญแจสำคัญในการจัดการ PTSD ในทหารผ่านศึก

นักวิจัย ระบุว่า การนอนสั้นและคุณภาพการนอนต่ำมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอาการ PTSD รวมถึงพฤติกรรมก้าวร้าว การดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้ชีวิตเสี่ยงต่อสุขภาพ แม้ว่าการนอนหลับในสนามรบจะทำได้ยาก แต่เมื่อปลดประจำการ การฟื้นฟูคุณภาพการนอนถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดความรุนแรงของ PTSD และป้องกันพฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพ

บาดแผลใจประชาชนชายแดนไทย-กัมพูชา

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนส่งผลให้ประชาชนจำนวนหนึ่งเผชิญแรงกดดันทั้งกายและใจ โดยเฉพาะผู้ที่ยังอาศัยอยู่ในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องพบกับความหวาดกลัว ความตระหนก การพลัดพรากจากครอบครัว อยู่ห่างบ้าน หรือการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และยังมีความหวาดระแวงในสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์กระทบจิตใจอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความเครียด ได้แก่ ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ การพลัดพราก การสูญเสีย รายได้ที่ลดลง ภาระค่าใช้จ่ายสะสม รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการฟื้นฟูจิตใจ เช่น ที่อยู่อาศัยชั่วคราว พื้นที่แออัด ขาดความเป็นส่วนตัว และการรับข่าวสารที่กระทบจิตใจหรือข่าวลือที่ไม่เป็นจริง ซึ่งล้วนเพิ่มความวิตกกังวล

นายแพทย์จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวเสริมว่า ประชาชนสามารถสังเกตสัญญาณความเครียดได้จากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหารหรือกินมากผิดปกติ หงุดหงิดง่าย ใจสั่น ร้องไห้บ่อย หรือถอนตัวจากสังคม ไม่อยากพูดคุยกับใคร

วิธีดูแลตนเองเบื้องต้น

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความตึงเครียด การดูแลสุขภาพจิตใจถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยแนวทางเบื้องต้นที่ช่วยให้รับมือกับความเครียดได้ มีดังนี้

ดูแลร่างกายและพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อฟื้นฟูสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ

เลือกรับข่าวสาร รับจากแหล่งที่เชื่อถือได้ พร้อมทั้งกำหนดเวลาเสพข่าว เพื่อลดความตึงเครียดจากข่าวสารที่กระทบจิตใจ

ผ่อนคลายจิตใจ ทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เปิดใจพูดคุยกับคนที่ไว้วางใจ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

สร้างกิจวัตรประจำวันที่มีความหมายวางแผนทำสิ่งเล็กๆ ที่สามารถสำเร็จได้ในแต่ละวัน เพื่อสร้างกำลังใจและความรู้สึกเชิงบวก

การดูแลตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงช่วยลดระดับความเครียด แต่ยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ ทำให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ช่องทางการปรึกษาสุขภาพจิต

ความเครียดและปัญหาสุขภาพจิตอาจใกล้ตัวกว่าที่คิด การมีพื้นที่สำหรับขอความช่วยเหลือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ปัจจุบันมีหลายช่องทางที่พร้อมให้คำปรึกษาและรับฟังโดยไม่ตัดสิน ได้แก่

  • เว็บไซต์ วัดใจ.com สำหรับประเมินสุขภาพจิตด้วยตนเอง
  • สายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง
  • Sati แอปพลิเคชัน พื้นที่ปลอดภัยสำหรับการพูดคุย มีผู้รับฟังโดยไม่ตัดสิน
  • Samaritans of Thailand บริการรับฟังอย่างไม่ตัดสิน

อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์ชายแดนจะสงบลง แต่ในใจทหารและประชาชนยังเต็มไปด้วยบาดแผลที่ยากจะลบเลือน การเยียวยาสุขภาพจิตจึงไม่ควรถูกมองข้าม ภาครัฐต้องก้าวเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง เพราะความมั่นคงไม่ได้วัดเพียงเสียงปืนที่เงียบลง แต่หมายถึงความสงบที่เกิดขึ้นทั้งภายนอกและภายในจิตใจของผู้คน

อ้างอิง:

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

LONGCHAMP AT CENTRAL EMBASSY ร้านใหม่ขนาด 150 ตรม. พร้อมบริการแสตมป์ชื่อบนสินค้า

47 นาทีที่แล้ว

Big Transfer 2025 ทำไมลีกอังกฤษจ่อทุบสถิติใช้เงินทะลุ 2.5 พันล้านปอนด์

53 นาทีที่แล้ว

MINGYU ขึ้นแคมเปญใหม่ของ Calvin Klein คอลเล็กชันเดนิม Fall 2025

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทอ. เผย ครม. เห็นชอบเดินหน้าจัดซื้อกริพเพน E/F 12 เครื่อง พร้อมรับชดเชยทางเศรษฐกิจ 1 แสนล้าน จ่อลงนามจัดซื้อที่สวีเดน 25 ส.ค.นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ธปท. เผยสินเชื่อแบงก์พาณิชย์ไตรมาส 2/68 หดตัวต่อเนื่องเหลือ 0.9%

สำนักข่าวไทย Online

สว. เห็นชอบท่วมท้นร่างกฎหมายยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ล้าสมัย ชี้ผลกระทบจาก ม. 44 ก่อนตั้ง กมธ. ศึกษาในรายละเอียดต่อไป

THE STANDARD

มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น' ยื่นหนังสื่อถึง 'รมว. - ปลัดฯ แรงงาน' ปมบุคคลอ้างเป็นทีมงาน รมต.หาผลประโยชน์

Manager Online

เพิ่งรู้ก็วันนี้!! ปลาดอรี่ที่เราชอบกิน แต่จริงๆแล้วมันคือปลาที่คาดไม่ถึง

มุมข่าว

กองทัพไทย พา IOT เยี่ยมช่องอานม้า เจอทหารกัมพูชาโวย : 19 สิงหาคม 2568

สวพ.FM91

ครม.ไฟเขียว นำเข้าแรงงาน"ศรีลังกา" ทดแทนคนงาน"กัมพูชา"

ฐานเศรษฐกิจ

หลักฐานมัด! ทร.เจอมือถือแถว ภูมะเขือ เปิดพบทหารเขมร ลอบวางทุ่นระเบิด PMN-2

Khaosod
วิดีโอ

ล้มสมการ "แดง" จับมือ "น้ำเงิน" ! - ไฮไลท์ประเด็นร้อน

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไทยล้าหลัง หวั่นเวียดนามทิ้งห่าง! ‘ส.อ.ท.’ ชี้เหตุปะทะไทย-กัมพูชา ฉุดเชื่อมั่นอุตฯ ดิ่งต่ำสุดในรอบ 3 ปี

THE STANDARD

แม่ทัพภาค 2 ชี้ทหารกัมพูชายั่วยุคณะ IOT เป็นการประท้วง จ่อนำวาระจีนเสนอเป็นคนกลางเจรจาเก็บทุ่นระเบิดถกใน RBC

THE STANDARD

แม่ทัพภาค 2 เผยสถานการณ์ชายแดนยัง 50-50 กองทัพพร้อมทั้งเจรจาและตอบโต้

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...