อัปเดตยาน Starliner ต้องหยุดบินจนถึงปี 2026 และอาจไม่มีนักบินบนภารกิจหน้า

นาซาอัปเดตล่าสุด ยานอวกาศ Starliner ของบริษัทโบอิ้งจะไม่กลับมาปฏิบัติภารกิจอีกจนกว่าจะถึงปี 2026 หลังจากที่เกิดปัญหาในการเดินทางครั้งแรกของภารกิจCrew Flight Test (CFT) เมื่อกลางปี 2024 ส่งผลให้ NASA และ Boeing ต้องชะลอการใช้ยานลำนี้ชั่วคราวเพื่อปรับปรุงระบบ

ในระหว่างนี้ NASA เปิดเผยว่า มีโอกาสสูงที่เที่ยวบินถัดไปของยาน Starliner อาจไม่มีมนุษย์อวกาศอยู่บนยาน โดยจะเป็นเที่ยวบินบรรทุกสัมภาระแทน เพื่อทดสอบระบบและประเมินความปลอดภัยก่อนกลับมาใช้บรรทุกนักบินอีกครั้งในปีต่อ ๆ ไป

สาเหตุของการหยุดบินปัญหาระบบขับดันและการรั่วของฮีเลียม

ปัญหาหลักที่ทำให้ยาน Starliner ต้องหยุดบินคือความล้มเหลวของเครื่องขับดันระบบควบคุมทิศทาง (RCS) และการรั่วไหลของก๊าซฮีเลียมในโมดูลบริการ โดยเกิดขึ้นในช่วงที่ยานเข้าสู่วงโคจร ทำให้เครื่องยนต์ 5 จาก 28 ตัวไม่สามารถทำงานได้

NASA และบริษัท Boeing ได้ตรวจพบว่าต้นเหตุของการรั่วมาจากซีลที่ไม่สามารถทนต่อสารออกซิไดเซอร์ ซึ่งทำให้ก๊าซซึมเข้าสู่ระบบขับดันได้ ในการแถลงข่าวเมื่อ 10 กรกฎาคม สตีฟ สติช ผู้จัดการโครงการลูกเรือพาณิชย์ของ NASA ระบุว่า ขณะนี้กำลังเร่งพัฒนาวัสดุใหม่เพื่อป้องกันการรั่วไหล และปรับปรุงฉนวนในบริเวณที่เรียกว่า "บ้านสุนัข" ซึ่งเป็นโครงป้องกันรอบชุดขับดัน

ภารกิจ CFT ส่งนักบินสู่วงโคจรได้สำเร็จ

ภารกิจ CFT ในเดือนมิถุนายน 2024 ถือเป็นเที่ยวบินแรกของ Starliner ที่บรรทุกมนุษย์ คือ สุนิตา วิลเลียมส์ และบุทช์ วิลมอร์ ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัญหาด้านขับดัน ทำให้ลูกเรือต้องอยู่ในอวกาศนานกว่าที่คาดไว้

สุดท้าย NASA ตัดสินใจให้นำยาน Starliner กลับสู่โลกโดยไม่มีนักบิน เพื่อความปลอดภัย และให้ลูกเรือเดินทางกลับโดยใช้ Crew Dragon ของ SpaceX แทน ซึ่งการเดินทางกลับของพวกเขาล่าช้ากว่ากำหนดเดิมถึง 8 เดือน

แผนการทดสอบระบบใหม่

ขณะนี้ NASA กำลังเตรียมดำเนินการทดสอบแบบละเอียดที่ศูนย์ทดสอบ White Sands โดยเน้นการศึกษาผลกระทบจากความร้อนในโครงสร้าง “ด็อกเฮาส์” ซึ่งเป็นจุดรวมของระบบขับดันทั้งหมด

หนึ่งในการทดสอบหลักคือ "พัลส์เทรน" ที่จำลองรอบการเผาไหม้ของเครื่องขับดันในระดับความถี่ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิที่สะสม สติชกล่าวว่า “เรากำลังเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างเชื้อเพลิงและสารออกซิไดเซอร์” ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะใช้ในการออกแบบระบบป้องกันใหม่สำหรับเที่ยวบินในอนาคต

Starliner อาจกลับมาบินในภารกิจขนส่งก่อนมีมนุษย์

แม้ NASA ตั้งเป้าว่ายาน Starliner จะกลับมาบินอีกครั้งในช่วงต้นปี 2026 แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีนักบินบนยานหรือไม่ สตีฟ สติช ผู้จัดการโครงการลูกเรือพาณิชย์ของ NASA ระบุว่า “มีโอกาสสูงที่เที่ยวบินแรกจะเป็นภารกิจขนส่งแบบไร้คนขับ เพื่อทดสอบระบบใหม่ก่อน”

การกลับมาให้บริการของ Starliner จะต้องได้รับการรับรองความปลอดภัยสำหรับภารกิจที่มีมนุษย์อยู่บนยาน และจากความล่าช้าที่เกิดขึ้น ทำให้กำหนดการเดิมอาจเลื่อนไปจนถึงปลายปี 2026 หรือหลังจากนั้น

ยานสำรองสำหรับ LEO และการหมุนเวียนนักบิน

ยาน Starliner ได้รับเลือกพร้อมกับยาน Crew Dragon ของ SpaceX ตั้งแต่ปี 2014 ให้เป็นยานอวกาศในโครงการขนส่งลูกเรือเชิงพาณิชย์ของ NASA เพื่อสร้างระบบขนส่งสำรองไปยังวงโคจรระดับต่ำของโลก (LEO) ก่อนที่สถานีอวกาศนานาชาติจะปลดประจำการในปี 2030

แม้ SpaceX จะทำภารกิจได้ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2020 แต่ NASA ยังคงต้องการให้ Starliner เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำรองเพื่อความมั่นคงของโครงการอวกาศของสหรัฐฯ

แม้จะเจออุปสรรคมากมาย แต่ NASA ยังเชื่อมั่นว่ายาน Starliner จะเป็นอีกหนึ่งเสาหลักในการเดินทางสู่อวกาศของมนุษย์ในอนาคต ควบคู่กับยาน Crew Dragon ของ SpaceX เพราะยิ่งมีทางเลือกมากเท่าไร ความมั่นคงในการเข้าถึงอวกาศของสหรัฐฯ ก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• นักวิทยาศาสตร์ชี้ ทางช้างเผือกอาจถูกล้อมด้วย "กาแล็กซีกำพร้า" ที่ยังไม่ถูกค้นพบอีกนับร้อย
• นักวิจัยพบดาวยูเรนัสมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นเปิดทางสู่ภารกิจสำรวจดาวดวงใหม่
• ทรัมป์ผลักดันร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ทุ่ม 3 หมื่นล้าน สนับสนุนเครื่องบินอวกาศลับ X-37B
• ยาน Parker Solar Probe จับภาพดวงอาทิตย์ใกล้สุดเป็นประวัติศาสตร์ ช่วยไขปริศนาอวกาศ
• นักดาราศาสตร์คาดว่า 3I/ATLAS ดาวหางจากนอกระบบสุริยะอาจเก่าแก่ที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยเห็น