โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สส.ปชน. จี้ถามเที่ยวไทยคนละครึ่ง “สรวงศ์” ลุกแจง

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 22.21 น. • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

รัฐสภา 17 ก.ค.- สส.ปชน. จี้ถาม “สรวงศ์” เที่ยวไทยคนละครึ่ง ใช้งบไปแล้วเท่าไหร่-ถ้าเกิดความเสียหายใครรับผิดชอบ อัดแอปมีปัญหาเยอะ เหตุรัฐบาลทำงานไม่เป็น ด้าน “สรวงศ์” แจงพยายามอุดรอยรั่วแล้ว ย้ำรัฐบาลเร่งเรียกความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวกลับไทย เผยเที่ยวไทยคนละครึ่ง สิทธิยังว่างกว่า 3 แสนสิทธิ ลงทะเบียนได้ถึง 31 ต.ค.นี้

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของว่าที่ ร.ต.สมชาติ เตชถาวรเจริญ สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ถามนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ว่า เนื่องจากสภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทยในปีนี้ซบเซาลงกว่าปีที่แล้ว เพราะนักท่องเที่ยวจีนไม่มั่นใจในความสามารถของรัฐบาลที่้บังคับใช้กฎหมายการค้ามนุษย์จนจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นตลาดหลักของเราลดลงไปเหลือไม่ถึงครึ่ง ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวจึงได้จัดสรรงบประมาณจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาทมาดำเนินโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง จำนวน 1.75 พันล้านบาท แต่จนถึงวันนี้มีการใช้สิทธิ์ห้องพักไปแล้ว 1.58 แสนสิทธิ์ ไม่ถึง 1 หมื่นสิทธิ์ต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาด เหตุเพราะรัฐบาลทำงานไม่เป็น ขาดความรู้ความสามารถ มีการออกแบบแอปพลิเคชั่นใหม่ทั้งที่โครงการนี้คล้ายกับโครงการเที่ยวคนละครึ่ง แต่หลังจากที่เปิดตัวแอปพลิเคชั่นออกมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งผู้ใช้บริการและผู้ประกอบการต่างประสบปัญหา เช่น การลงทะเบียนของประชาชนมีขั้นตอนเยอะ ลงทะเบียนยาก ระบบล่ม อีกทั้งการแก้ปัญหาเรื่องราคาห้องพักก็มีปัญหาและล่าช้า ทำให้ผู้ประกอบการเสียโอกาส รวมถึงการตั้งราคาที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่คุ้นค่าและเสียสิทธิ์ต่างๆ

ว่าที่ ร.ต.สมชาติ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลนี้่ขยันที่จะทำแอปพลิเคชั่นออกมาจำนวนมาก โดยมีการของบประมาณในการทำแอปพลิเคชั่นจากหน่วยงานต่างๆ จำนวนกว่า 4.2 พันล้านบาท แต่แอปพลิเคชั่นที่ประชาชนรู้จักมีไม่ถึงร้อยตัว แอปพลิเคชั่นบางตัวไม่มีคนรู้จักและไม่ได้ใช้งานจริงจนถูกทิ้งร้างเป็นแอปผี ฉะนั้น จึงขอถามนายสรวงศ์ว่าเหตุใดจึงไม่ใช้ธนาคารกรุงไทยทำโครงการนี้ต่อ เนื่องจากมีแอปพลิเคชั่นอยู่แล้ว รวมถึงประชาชนและผู้ประกอบการก็ต่างเคยติดตั้งแอปพลิเคชั่นเป๋าตังและถุงเงินในมือถือเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ตนได้ลองค้นข้อมูลเกี่ยวกับการทำแอปพลิเคชั่นนี้แล้วทั้งในเว็บไซต์และของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโครงการนี้ หรือเว็บไซต์ไม่ได้อัปเดต หรือเพราะใช้ชื่อโครงการเป็นอย่างอื่น หรือใช้หน่วยงานภาครัฐอื่นเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้าง หรือให้ผู้จัดซื้อจัดจ้างดำเนินการไปก่อนแล้วไปทำการจัดซื้อจัดจ้างทีหลังหรือไม่อย่างไร รวมถึงงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างในการทำโครงการดังกล่าวนี้เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่

ว่าที่ ร.ต.สมชาติ กล่าวด้วยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ รวมถึงหน่วยงานในกำกับมีการสร้าง แอปพลิเคชั่นไปแล้วทั้งหมดกี่แอปพลิเคชั่น รวมงบประมาณทั้งหมดกี่บาท มีการใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ มีผู้ใช้งานมากขนาดไหน ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายกรณีแอปพลิเคชั่นทำงานผิดพลาดที่สามารถจองห้องพักได้มากกว่า 1 ห้องต่อคืน และลูกค้าได้ทำการเช็กอินเข้าห้องพักแล้ว อีกทั้งการให้ประชาชนโอนเงินแล้วอัปเดตสลิปโอนเงินเข้ายืนยันในระบบเว็บไซต์นั้น เราสามารถอัปเดตรูปภาพอะไรไปแทนสลิปโอนเงินก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดช่องว่างให้มีการทุจริตหรือฮั้วกันได้ เพื่อรับเงินอุดหนุนจากภาครัฐโดยที่ไม่มีการจองห้องพักจริง หากเกิดการทุจริตจริงใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น แอปพลิเคชั่นนี้จะใช้งานได้อย่างเสถียรภาพเมื่อไหร่ จะมีการขยายขีดความสามารถ Thai-D เพื่อให้สามารถรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากได้อย่างเพียงพอหรือไม่

ด้านนายสรวงศ์ กล่าวว่า ตนขอใช้เวทีนี้กราบขอโทษประชาชนอีกครั้งกับความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าการที่ว่าที่ ร.ต.สมชาตินำตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนมาผูกพันกับคำถามต้องขอชี้แจงว่า อย่างแรกคือเป็นคนละเรื่องกัน โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งเป็นนโยบายที่จะออกมากระตุ้นโครงการไทยเที่ยวไทย คนที่จะใช้สิทธิ์ได้ต้องมีบัตรประชาชนคนไทยเท่านั้น เป็นคนละเรื่องกับตลาดจีน ซึ่งต้องบอกว่าโครงการที่ผ่านมา ปัจจุบันการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังคงมีคดีค้างกับผู้ประกอบการ มีประชาชนได้รับหมายเรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้น กว่า 1,300 คดี โดยสิ่งที่พวกเราอยากทำและอยากให้เกิดคือฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทย เพื่อวางแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในอนาคตต่อไปอย่างยั่งยืน ส่วนคำถามที่ว่าเหตุใดจึงไม่ใช้แอปพลิเคชันเก่า หรือฐานข้อมูลจากธนาคารกรุงไทยนั้น ขอเรียนว่าจาก MOU ที่ผ่านมา ตนไม่ทราบว่ามีการทำอย่างไร แต่ในปัจจุบันธนาคารกรุงไทยไม่ได้มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจแล้ว ดังนั้น การที่จะไปผูกพันอะไรกับธนาคารธนาคารหนึ่ง จะเป็นการปิดกั้นธนาคารพาณิชย์ด้วยกันเอง ส่วนการเปิดให้ลงทะเบียนวันแรก แน่นอนว่าประชาชนยังคงสับสน ซึ่งตนได้มีการต่อว่าและตั้งคณะกรรมการสอบขึ้นมาแล้วว่าเหตุใดประชาชนจึงยังคงสับสน เพราะโครงการนี้ไม่เหมือนกับโครงการที่ผ่านมา เนื่องจากเราเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน 500,000 สิทธิ์ และมีการปิดลงทะเบียนทันที โดยต้องมีการจองภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้น จะถือว่าหมดสิทธิ์ แต่ครั้งนี้เราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ ต้องการให้คนที่มีแผน และพร้อมจะเที่ยวทันที ได้มีการซื้อ จอง และจ่ายเงิน นี่คือสิ่งที่แตกต่าง ซึ่งตนเคยบอกไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าหากใช้ระบบนี้ ประชาชนจะไม่ต้องลงทะเบียน เพื่อใช้สิทธิ์เลย จะได้ไปเน้นในส่วนปลายทาง หรือคือผู้ประกอบการ และการจ่ายเงินจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้กับผู้ประกอบการ

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า ทุกคนมีสิทธิ์ ทุกคนมีบัตรประชาชนอยู่แล้ว แต่ด้วยคดีที่ค้างอยู่ ทุกกระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานต่างๆ จึงต้องการปกป้องและป้องกันตัวเอง ไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องผ่านแอปพลิเคชันไทยไอดี ในวันลงทะเบียน เมื่อมีปัญหาตนก็ได้มีการสั่งการทันที ให้มีการบายพาส เพื่อให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้ โดยใช้การลงทะเบียนในภายหลัง เมื่อระยะเวลาผ่านไป ก็ยังมีปัญหาเรื่องการส่งโอทีพี สำหรับประชาชนที่ใช้จีเมล์ เนื่องจากเราไม่มีการแจ้งไว้ก่อนว่า จะมีทราฟฟิกเข้าไปจำนวนมากขนาดนี้ จึงทำให้เอไอของกูเกิลจับว่าเป็นสแกม ซึ่งมีการปิดระบบในเบื้องต้น ซึ่งเราก็ได้มีการประสานกับทางกูเกิลไปในทันที และสุดท้ายตนได้ลงไปสั่งการด้วยตัวเองว่าจะขอปิดระบบการลงทะเบียน ซึ่งในวันที่ปิดการลงทะเบียนนั้น มีจำนวนประชาชนลงทะเบียนแล้วกว่า 1.4 ล้านคน จากนั้นเราจึงมาแก้ปัญหาหลังบ้านของเราในการเพิ่มสเปซคลาวด์ และเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น จนถึงตอนนี้ ตัวเลขที่ถูกยืนยันแล้ว คือมีผู้ลงทะเบียนประสงค์จะใช้สิทธิ์ทั้งสิ้น 1.11 ล้านคน มีผู้ที่จองเรียบร้อยแล้ว และจ่ายเงินแล้ว 1.4 แสนคน ขณะที่ระยะเวลา เราเปิดให้ประชาชนสามารถเที่ยวได้ถึง 31 ตุลาคมนี้ แม้จากกำหนดการเดิมที่จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ด้วยเรื่องการของบประมาณ ทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งเมื่อมีการอนุมัติ เราก็มีการประกาศคิกออฟโครงการทันที

“ผมต้องขอกราบอภัยพี่น้องประชาชนอีกครั้งในความไม่สะดวก ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นขั้นตอนของการทำงาน และเราก็พยายามจะอุดรูรั่วนั้นแล้ว ส่วนในอนาคตจะมีเฟสสอง เฟสสามหรือไม่ ต้องขอดูอีกครั้ง เนื่องจากโครงการนี้ แต่เดิมทีมีการออกนโยบาย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงสถานการณ์โควิด-19 และขอใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า โครงการนี้ยังสามารถจองสิทธิ์เข้ามาเพิ่มได้” นายสรวงศ์ กล่าว

ทำให้ว่าที่ ร.ต.สมชาติ กล่าวว่า นายสรวงศ์ ยังตอบคำถามตนไม่ครบข อให้ช่วยตอบด้วยว่าการจัดซื้อจัดจ้างไปอยู่ที่เล่มไหน ไปสอดใส้อยู่ในโครงการอะไรหรือไม่ รวมถึงที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบประมาณไปแล้วเท่าไหร่ และหากเกิดความเสียหายขึ้นมาใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เราจะโยนความผิดให้ประชาชนและผู้ประกอบการที่อาจจะมีบางส่วนที่ทุจริตอย่างเดียวนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะมีตัวอย่างจากโครงการจำนำข้าวที่พรรคของท่านเคยโดน ผู้มีอำนาจเพิกเฉยไม่ป้องกันการช่องโหว่การทุจริต ซึ่งถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน และสุดท้ายขอฝากไปยังรัฐบาลว่าให้นำคำแนะนำของตนไปปรับปรุงแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับความสะดวก ซึ่งหากปรับปรุงไม่ทันเฟสนี้ก็ขอให้นำไปปรับปรุงในเฟสหน้าก็ได้

นายสรวงศ์ ชี้แจงว่า นักท่องเที่ยวจีนหายจากทุกประเทศทั่วโลกไม่ใช่เฉพาะแค่ที่ประเทศไทย แต่เรื่องความเชื่อมั่นและเรื่องความปลอดภัยที่ถูกถาม รัฐบาลจะรับไปดำเนินการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้เร็วที่สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศไทย สำหรับงบประมาณที่เราขอในการดำเนินการทำแอปพลิเคชันนี้ อยู่ในงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท และเราได้มีการขอคืนเงินในส่วนการแอปพลิเคชัน 10 ล้านบาทที่ขอไป เนื่องจากงบประมาณที่ได้รับไม่ทันการต่อการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหา เพราะเราไม่ได้จ้างคนที่มีประสบการณ์ แต่มีการแก้ไขแล้ว ยืนยันว่า งบประมาณในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงงบประมาณของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ไม่ได้ถูกใช้ในการทำแอปพลิเคชันไปเป็นจำนวนเยอะ

นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่มีทางที่ตนจะปฏิเสธความรับผิดชอบ ย้ำว่าตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กราบขออภัยประชาชนอีกครั้งในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น จะทำให้ดียิ่งขึ้นและทำให้ประชาชนได้รับความลำบากน้อยที่สุด และจะดำเนินการให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

”มนพร“ ชู ”รถไฟฟ้า 20 บ.-แลนด์บริดจ์“ ปลดล็อกศก.ไทยเติบโตต่อเนื่อง

16 นาทีที่แล้ว

รมช.คลัง เผยดึงเงินใหม่คริปโตต่างชาติเข้ามาใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

25 นาทีที่แล้ว

9 ทันโลก : ไต้หวันเตรียมรับมือจีนบุก

35 นาทีที่แล้ว

รมว.ท่องเที่ยว ย้ำใช้ กีฬา และ ภาพยนต์ สร้างรายได้ร่วมภาคท่องเที่ยว

40 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูร’ ปัดข่าวค้นกุฏิเจ้าอาวาส ยัน ‘ปปป.’ ตรวจบัญชีเงินวัดโปร่งใส

เดลินิวส์

เพนกวิน ลั่น ขอให้สมน้ำสมเนื้อหน่อย!! ยกเลิกนิรโทษกรรมคณะรัฐประหารเถอะ

TOJO NEWS

”มนพร“ ชู ”รถไฟฟ้า 20 บ.-แลนด์บริดจ์“ ปลดล็อกศก.ไทยเติบโตต่อเนื่อง

สำนักข่าวไทย Online

สตรีศรีน่าน ประกาศหยุดเรียน 18 ก.ค. หลังน้ำท่วม ครู-นักเรียน เดินทางมาโรงเรียนไม่ได้

Khaosod

จับตา คดีฮั้ว สว. เสนอ กกต. เอาผิดกว่า 229 ราย โทษสูงสุดยุบพรรค

คมชัดลึกออนไลน์

หัวหินเตรียมจัดใหญ่! เทศกาลอาหารริมหาด "Hua Hin Food Fest on the beach 2025" สิงหาคมนี้

Manager Online

อมรัตน์ ฉะเดือด! ดร.หญิง วิสัยทัศน์รัฐมนตรี อ้าปากก็เห็นไปถึงสมอง!!

TOJO NEWS

ฉาวสะเทือนโลก สื่อดังจากอังกฤษยังรายงานเรื่องสีกากอล์ฟ

TeeNee.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

กมธ.ท่องเที่ยวกีฬา สว. ซัดรัฐบาล “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” สะดุด

สำนักข่าวไทย Online

ตม.สนามบิน จัดช่องรับปิดเทอมจีน หวังกระตุ้นท่องเที่ยวไทย

สำนักข่าวไทย Online

เที่ยวไทยคนละครึ่ง เปิดระบบให้ลงทะเบียนแล้ว

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...