รมช.คลัง เผยดึงเงินใหม่คริปโตต่างชาติเข้ามาใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจไทย
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.50 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 17 ก.ค. – รมช.คลัง เผยทีมไทยแลนด์ เจรจาภาษียึดประโยชน์ทุกกลุ่ม บางกลุ่มอาจได้รับผลกระทบ มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ดึงเงินใหม่คริปโตต่างชาติเข้ามาใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจไทย
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในเวทีสัมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ. อสมท ว่า ทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง มีกำหนดหารือกับผู้แทนการค้าสหรัฐในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อยื่นข้อเสนอรอบสองกับสหรัฐ หลังถูกจัดเก็บอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ร้อยละ 36 ยืนยันว่า ทีมไทยแลนด์ ดูแลผลกระทบทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบต่อผู้ส่งออก และผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม เอสเอ็มอีและเกษตรกร
“ทีมไทยแลนด์ ไม่ได้เพียงว่าไทยจะได้อัตราภาษีเท่าไหร่ ยอมรับว่า ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ ข้อเสนอครั้งนี้ ไทยต้องยอมแลกมากับการเปิดตลาด เพื่อให้สหรัฐส่งสินค้าเข้ามา ซี่งอาจทำให้ เอสเอ็มอีและเกษตรกรไทยได้รับความมีเดือดร้อน โจทย์ของรัฐบาล คือการเจรจาให้ได้ความสมดุล ขอย้ำว่า ผลการเจรจาไม่ใช่การได้อัตราภาษีที่ต่ำที่สุด แต่ผู้ชนะคือ รักษาประโยชน์ทุกฝ่ายให้ได้มากที่สุด เพราะต้องปกป้องสินค้ายุทธศาสตร์ของไทย แม้ไทยต้องพึ่งพาการส่งออก แต่รัฐบาลต้องดูแลทั้งประเทศ เพราะยังมีผู้ผลิตในประเทศ จำนวนมาก“ นายเผ่าภูมิ กล่าว
สำหรับข้อเสนอของไทยลดภาษีนำเข้า 0% หลายรายการนั้น ไทยไม่มีความจำเป็นต้องเปิดเสรีทั้งหมด 100% ให้กับสหรัฐ เพราะไทยต้องปกป้องผู้ผลิตในประเทศด้วย หากไทยเปิดมากเกินไป จะกระทบกับผู้ผลิตสินค้าในประเทศ สำหรับเวียดนามถูกเก็บภาษี 2 ประเภท คือ 20% และ 40% โดยใช้เกณฑ์สัดส่วนสินค้าที่มีส่วนประกอบในประเทศหรือภูมิภาค (Regional Value Content: RVC) เป็นตัวแบ่ง โดยหากสินค้ามีสัดส่วน RVC สูงก็จะได้อัตราภาษีที่ 20% และ หากสินค้ามี RVC ต่ำจะได้อัตราภาษีที่ 40% นับว่าเวียดนามยังถูกเก็บภาษีหลายอัตรา
นายเผ่าภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรองรับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐ กระทรวงการคลัง จัดเตรียมซอล์ฟโลนวงเงิน 2 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยใช้ทุนจากแบกง์รัฐ เช่น ธนาคารออมสิน เพื่อปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับแบงก์รัฐ และแบงก์พาณิชย์ นำไปปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอี และรายย่อย เช่น ธอส. ปล่อยกู้ด้านอสังหาฯ ให้เอสเอ็มอี รายย่อยแหล่งทุนประกอบอาชีพ ส่วน ธ.ก.ส. ให้เน้นช่วยเหลือภาคการเกษตร เอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ให้กับผู้ส่งออกเพื่อหาตลาดใหม่ๆ หากภาษีศุลกากรกระทบส่วนใดมากสุดจะเน้นช่วยเหลือกลุ่นเป้าหมายมากที่สุด
สำหรับนโบบายการคลัง มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านอัดงบกลาง 1.1 แสนล้านบาท โดยใช้เงินพัฒนาถนนในชนบท สะพาน ระบบชลประทาน หวังให้เกิดการจ้างงาน ในเร็วๆ นี้ กระทรวงคลัง เตรียมร่วมมือกับมหาดไทย แก้หนี้ก้อนใหญ่ให้กับประชาชน นอกเหนือจากโครงการ ”คุณสู้ เราช่วย“ ไทยยังเดินหน้าดึงเม็ดเงินใหม่ ผ่านคริปโตของนักลงทุน นักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อใช้เป็นกลไกใหม่ เข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ จึงไม่ต้องหวังเงินงบประมาณ 3-4 ล้านล้านบาท จากงบประมาณเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ยังต้องดึงศักยภาพของไทยที่ซ่อนอยู่จากพลังซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในประเทศ.-515-สำนักข่าวไทย