ศึกนอก-ศึกใน วิบากกรรม “แพทองธาร”
ศึกรอบด้าน วิบากกรรม "แพทองธาร"
เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ยังไม่ถึงขวบปีแพทองธาร ชินวัตร ก็ต้องเจอกับวิกฤตครั้งใหญ่ ซึ่งถาโถมเข้ามาในเวลาเดียวกัน จะเรียกว่าเป็นทั้งศึกนอกและศึกใดก็ว่าได้ ที่นายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ อย่างแพทองธาร จะต้องรับมือ และฝ่าฟันมันไปให้ได้
สำหรับศึกภายนอก ก็คือปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งดูเหมือนจะไม่จบเอาง่ายง่ายๆ
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างกัมพูชา ก็ดูเหมือนจะคุมเกมเหนือกว่าผู้นำรัฐบาลไทย โดยเฉพาะสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลังจากที่เปิดคลิปเสียงการสนทนากับแพทองธาร ก็เล่นเอานายกรัฐมนตรีของไทย อยู่ในสถานการณ์ตกที่นั่งลำบากไปเลยทีเดียว
เพราะคลิปดังกล่าวนั้น นอกจากจะสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวไทยแล้วยังสร้างความหวาดระแวงให้กับกองทัพด้วย ซึ่งบางคนอาจมองไปถึงขั้นการปฏิวัติรัฐประหาร
ปัญหานี้ดูเหมือนศึกในจะเดิมพันด้วยชีวิตและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีเลยก็ว่าได้ เพราะในขณะที่ทางกัมพูชากำลังเล่นสงครามประสาทกับรัฐบาลไทยนั้น ก็เป็นเวลาเดียวกับที่การเมืองบนท้องถนนในประเทศไทยกำลังเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชานำไปสู่การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นำโดยสนธิ ลิ้มทองกุล จตุพร พรหมพันธุ์ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ ฯลฯ
ว่ากันว่าการชุมนุมครั้งนี้ จะเป็นเพียงการประเมินกระแสของมวลชนเท่านั้น ซึ่งหากมีประชาชนมาร่วมการชุมนุมเป็นจำนวนมาก ก็จะถือว่ากระแสแบบนั้นจุดติด แต่หากการชุมนุมยังมีคนน้อยดูอยู่ จะต้องรอจังหวะในโอกาสต่อไป
ส่วนศึกใน ก็คือการจัดตั้งรัฐบาล และความอยู่รอดของรัฐบาลแพทองธาร หลังจากที่พรรคภูมิใจไทย เลือกที่จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เมื่ออพรรคเพื่อไทยยึดกระทรวงมหาดไทย มาเป็นของตัวเอง
นั่นทำให้เสียงของรัฐบาลต้องหายไปกว่า 70 เสียง
และที่เซอร์ไพรซ์ไปกว่านั้นก็คือพรรคภูมิใจไทยเตรียม ที่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ทันทีที่เปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
การเปิดอภิปรายของพรรคภูมิใจไทยนั้น ถือว่าน่ากลัวกว่าพรรคประชาชนอย่างมาก เพราะพรรคภูมิใจไทยเคยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ย่อมรู้ตื้นลึกหนาบางของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี เป็นอย่างดี
แน่นอนหากพรรคภูมิใจไทย ต้องการที่จะโค่นล้มนายกแพทองธารจริงๆ ก็จะต้องงัดหมัดเด็ดขึ้นมาอภิปราย
นี่ยังไม่รวมถึงการปรับเปลี่ยนตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีที่ยังไม่เกิดความลงตัว เนื่องจากมีการต่อรองตำแหน่งกันจ้าละหวั่น
ด้วยสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ทำให้หลายคน คาดการณ์ว่ารัฐบาลแพรทองธารอาจอายุไม่ยืด ดีไม่ดีอาจยุบสภาภายในปีนี้ก็เป็นได้