พรรคลุง vs พรรคผู้กอง
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ ผู้เขียน : ณัฐวุฒิ ประชาชาติ
คณะรัฐมนตรี (ครม.) แพทองธาร 1/1 จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ เพราะต้องรีบปิดเกมเร็ว ลดแรงกระเพื่อม
หลังจากนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร เดินหน้าไปต่อ และตกลงกับพรรคร่วมรัฐบาลลงตัว เมื่อ 22 มิถุนายน ที่ รร.โรสวูด แม้เกิดเหตุการณ์คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง สมเด็จฮุน เซน
แกนนำรัฐบาลหลายคน การันตีเสียงของรัฐบาลแพทองธาร จะไปได้ต่อจนครบวาระ แม้ไม่มีเสียงของพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกเขี่ยไปเป็นฝ่ายค้าน
แต่คนในพรรคเพื่อไทยหลายคน แทบจะเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ขณะนี้ เดินไปสู่การ “นับถอยหลัง” เลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569 มิใช่ตามวาระอายุของสภา ที่จะครบ 4 ปี เดือนพฤษภาคม 2570
แต่เลือกตั้งไม่ใช่ในปีนี้ เว้นแต่จะมีอุบัติเหตุใหญ่ เช่น กรณีที่องค์กรอิสระชี้ชะตาให้นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง หลังจาก สว.สีน้ำเงิน ยื่นเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ
ถามว่า พรรคเพื่อไทย นาทีนี้พร้อมเลือกตั้งขนาดไหน ?
คำตอบคือ ไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่ถามนักเลือกตั้งค่ายไหนในฝ่ายรัฐบาล ก็บอกเหมือนกันว่า ยังไม่พร้อมเลือกตั้ง
ยิ่งในช่วงที่การเมืองฝุ่นตลบ กระแสรัฐบาลยังไม่เป็นบวก ซมพิษเศรษฐกิจติดลบ การแก้ปัญหาปากท้องประชาชนยังไม่ตรงเป้า นโยบายเรือธงก็ไม่บรรลุเป้าหมาย โดยเฉพาะนโยบายแจกเงินหมื่น ค่าแรง 400 ไม่ไปถึงไหน
แม้ไม่มีกรณีคลิปเสียงมรณะ รัฐบาลก็เดินหน้าแบบหืดขึ้นคอ พรรคเพื่อไทย เคยเป็นพรรคขายกระแส+กระสุน แต่ปัจจุบัน กระแสก็ยังไม่ไป-หัวจ่ายกระสุนก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ไม่แปลกที่เกิดความเคลื่อนไหวของนักเลือกตั้งแถว 2 (สอบตก) ของพรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้รับการดูแลจากพรรค หันไปหาพรรคที่หัวจ่าย จ่ายได้มากกว่า ทำให้นักเลือกตั้งดูแลพื้นที่ได้ดีกว่า
ความเคลื่อนไหวของอดีต สส. ที่สอบตกในการเลือกตั้งปี’66 กว่า 30-40 ชีวิต ไหลไปขอทรัพยากรทางการเมืองกับพรรคเก่า-ทหารแก่ ที่ยังไม่ตาย แถมมีทรัพยากรจำนวนมาก เปิดหัวจ่ายแบบ “สัญญาลูกผู้ชาย” และมีรายเดือนสนับสนุน ให้ไปช่วยทำพื้นที่
ต้องไม่ลืมว่า อดีต สส.เพื่อไทย เหนือ-อีสาน แม้สอบตกแต่ก็ได้คะแนนอันดับสองเป็นส่วนใหญ่ แถมคะแนนดิบติดตัวระดับ 2 หมื่นคะแนนอัพ
นักเลือกตั้งจำนวนนี้ หากไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ แม้เป็นพรรคเก่า-ทหารแก่ ก็ยังถือว่ามีเขี้ยวเล็บ โดยเฉพาะจังหวะที่พรรคเพื่อไทยไม่สามารถปั่นเรตติ้งตัวเองให้ดีเหมือนยุคพรรคเพื่อไทยในอดีต หรือในยุคพรรคไทยรักไทย
และว่ากันว่า ไม่ได้มีแค่ สส.สอบตก ที่เตรียมจะย้ายพรรค ย้ายขั้วไปอยู่บ้านป่า แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ “กล้าเลือก” กล้าธรรม ในความใจถึง-พึ่งได้ ไม่ทิ้งลูกน้องของผู้กองธรรมนัส
แถมทรัพยากรก็ยังมีไม่เบา อย่างน้อยก็มี สส.ในสภาปัจจุบันเล็งเป้าไปที่กล้าธรรม ยังไม่นับ พรรคโอกาสใหม่ ที่มีทุนใหญ่สนับสนุน จึงมีคนวิเคราะห์ว่า นายใหญ่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยไม่อาจประสบความสำเร็จแบบเดิม
จึงทำการเมืองให้มีตัวช่วยในการจ่ายทรัพยากร แม้แลกด้วยการที่พรรคเพื่อไทย จะมีขนาดเล็กลง-ต่ำร้อย ต่างจาก 2 พรรคข้างต้นที่สนับสนุนนักเลือกตั้งเต็มที่
วันนี้เท่ากับ พรรคบิ๊กป้อม VS พรรคธรรมนัส
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พรรคลุง vs พรรคผู้กอง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net