"งานสายดำ" ถึง "กระโดดตึกหนี" เปิดใจเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกเป็นคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
"หลุยส์" เหยื่อค้ามนุษย์ชายไทย ที่ไม่ประสงค์ออกนามจริง เปิดว่า ถูกบังคับให้ล่อลวงคนไทย ชวนลงทุน ถ้าเหยื่อไม่ติด ก็ไปต่อกับเหยื่อรายต่อ ๆ ไป ที่สำคัญ แก๊งมิจฉาชีพให้กำลัง ทุบตี ช็อตไฟฟ้า เพื่อบังคับให้พวกเขาทำงาน
ตอนที่เขารู้ตัวว่า ถูกหลอกให้ไปฉ้อโกงออนไลน์เพื่อนคนไทยด้วยกันเอง เขารู้สึกว่า "งานแบบนี้เป็นงานสีดำ งานสายดำ เป็นงานหลอกคน ผมก็รู้สึกว่าทำไงดี รู้สึกว่ากดดันตัวเองด้วยครับว่า น่าจะทำไม่ได้ เขาบอกว่าให้ลองงานอาทิตย์หนึ่ง แล้วถ้าทำไม่ได้ ก็จะพาไปที่อื่น เดี๋ยวลองไปส่งดูให้ไปทำที่อื่นดู สุดท้ายมา เขาก็ขายต่อ"
"ที่ทำงาน อบอ้าว กดดัน โดนกดขี่ โดนจับตามองตลอดเวลา มันเป็นงานที่ทำหนักมาก ตาล้า ตามัวหมดครับ ถ้าไม่ทำงานก็อาจจะมีคนฟ้อง มีคนดูตลอดเวลา มีหัวหน้าเขาคุย" เขาเล่าให้รอยเตอร์สฟัง
"ตอนแรก ๆ ยังไม่มีการทำร้ายร่างกาย ตอนหลัง ๆ มา เด็กใหม่เขาจะไม่ทำร้ายร่างกาย ช่วงหลัง ๆ มีการทุบตี ทำร้ายร่างกาย ช็อตร่างกาย ข่มขู่ว่าจะเอาไปสังหารบ้าง ก็จะเอาไปยัดยาบ้าง"
เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นกับมิจฉาชีพ เหยื่อที่ไร้ทางออก ทนไม่ได้กับการทารุณกรรม ก็ต้องเลือกหนีออกมา ด้วยวิธีการที่เสี่ยงชีวิต รวมถึงการกระโดดตึกลงมา
"ตอนนั้นผมอยู่ชั้น 8 ลงมาชั้น 5 โดดลงมาปุ๊บก็คางแตก เลือดกรอกปากเต็มเลย ฟันแตก ตอนนั้นสลบครับ มันกระด้างครับ ขากะเผลก รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่โรงพยาบาลครับ"
"โดดตึกไปก็มี โดดไปแล้วรอดก็มี ถือว่าบุญช่วย ผมโดดไปปุ๊บแล้วผมก็หมดสติ ไม่รู้สึกว่าจะรอดหรือจะตาย ผมโดดปุ๊บแล้วตื่นขึ้นมาก็อยู่โรงพยาบาล "
เขาอยากเตือนคนไทย ที่รู้สึกตัวว่ากำลังจะถูกหลอกว่า "ถ้ารู้สึกว่าอยากไปทำงานฝั่งนั้นจริง ๆ ผมแนะนำว่าอย่าไปดีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเรา ไม่แน่ว่า วันไหนเราเกิดพลาดจริง ๆ อาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "งานสายดำ" ถึง "กระโดดตึกหนี" เปิดใจเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกเป็นคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา
- ซีพีผนึกกำลังพันธมิตร เปิดม่าน "งิ้วแต้จิ๋ว" Soft Power ระดับโลก ขับขานสานสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี
- ฟังเสียงผู้ค้ากัญชา ในวันที่อาจไม่เสรี หวั่นกระทบร้านค้าหมื่นแห่ง
- รีสอร์ตหรู-กาสิโนร้าง สู่อาณาจักรสแกมเมอร์ หลอกคนไทยในกัมพูชา
- จาก เงินโบนัส สู่ ‘สินบนในคราบสิทธิ’ มองผ่านคดีเงินโบนัส อบต.หนองหาน