โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

นักการเมืองไทย เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เวลาทำผิด ถูกจับโป๊ะ ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป ** แมวไล่จับหนูไม่เลิก คดีเขากระโดงถึง DSI "อ้วน" ย้ำไม่แค้นส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของชาติ

Manager Online

เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ นักการเมืองไทย เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ เวลาทำผิด ถูกจับโป๊ะ ไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป

ช่วงนี้ ในโซเชียลฯ มีการแชร์คำพูดของ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ “พี่โทนี่ วู้ดซั่ม” ที่พูดผ่านรายการ CARE Talk เมื่อปี 65 ในช่วงที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว เพื่อรอการพิจารณาว่า “ลุงตู่” เป็นนายกฯมาครบ 8 ปีหรือยัง

“ผมเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รอให้ศาลตัดสิน ถอยแล้วหล่อกว่า เมื่อไรศาลตัดสินแล้วกลับมาทำงาน จะไม่มีความสุข พูดฐานะรุ่นพี่ โดนมาก่อนทุกอย่าง การไม่กลับมาหล่อกว่า เดินบนถนนมีแต่คนทักทาย” นี่คือคำพูดของทักษิณ ในวันนั้น

วันนี้ถูกนำมาล้อ เมื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวสุดที่รัก โดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว ระหว่างการพิจารณา ว่า เป็นนายกฯ ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง

“ทักษิณ” เงียบกริบ ไม่โผล่หัว ชูหางมาให้เห็น แถมยังมีการวางแผนรักษาอำนาจไว้ล่วงหน้า โดยให้ “แพทองธาร” นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม อีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อจะได้มีที่นั่งในที่ประชุมครม. เข้าไปกำกับการทำงานของ “รักษาการนายกฯ” และรัฐมนตรี อีกทีหนึ่ง

และวันนี้ (3ก.ค.) เป็นวันที่ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ที่นั่งรักษาราชการแทนนายกฯ ก็จะพารัฐมนตรีชุดใหม่ รวมทั้ง “รัฐมนตรีอิ๊งค์” เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

มีเสียงคัดค้านอื้ออึงว่า ไม่ควรนำ “อิ๊งค์” เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ควรรอให้ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ออกมาก่อน เพราะที่ตรวจสอบนั้น เป็นเรื่อง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ต่างกับกรณี “ลุงตู่” ที่เป็นแค่เรื่องการตีความว่า นั่งนายกฯมาครบ 8 ปีหรือยัง

“สมชาย แสวงการ” อดีต สว. บอกว่า อย่าดันทุรัง! เพราะศาลรธน. สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ที่ถูกร้องในปัญหาคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง หรือไม่ ตามรธน. มาตรา170(4)และ มาตรา160(4)(5) จะตะแบงตีความว่า ให้หยุดเฉพาะนายกฯ ศาลฯไม่ได้สั่งให้หยุดในฐานะรัฐมนตรี ไม่ได้! ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายพิธีการต่างๆ ควรสะกิดเตือน อย่าสร้างปัญหากฎหมายเพิ่มอีก อย่าสร้างความมิบังควรครับ เตือนมาด้วยความหวังดี

“หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เตือน “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ว่า…หยุดการเมืองศรีธนญชัย!

เพราะการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯนั้น จะต้องกล่าวคำปฏิญาณว่า… ข้าพพระพุทธเจ้า (..ชื่อของรัฐมนตรี..) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”

แล้ว “อุ๊งอิ๊งค์” เพิ่งจะถูกศาลฯ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ด้วยข้อสงสัยว่า มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ รวมทั้ง มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ดังนั้น คนที่ยังมีมลทิน จึงไม่ควรนำเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ควรรอจนกว่าศาลฯตัดสินเสียก่อน ถ้ายังดื้อดึง เกิดอะไรขึ้นมา “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” จะรับผิดชอบไหวหรือ?!

“สุริยะใส กตะศิลา” คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต บอกว่า การที่ “อุ๊งอิ๊งค์” ถูกสั่งห้ามปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ยังจะไปต่อในฐานะ รมว.วัฒนธรรม นั้น ไม่ใช่ “นิติสงคราม” ไม่ใช่การใช้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้ง แต่มันคือการปะทะกันระหว่าง “อำนาจ” กับ “หลักการ”

เมื่อฝ่ายการเมืองพยายามรักษาเก้าอี้ ด้วยเทคนิคทางตำแหน่ง ขณะที่รัฐธรรมนูญ วางกรอบจริยธรรมไว้อย่างเข้มงวด

รัฐธรรมนูญ มาตรา 160(5) และ มาตรา 170 วรรคสาม ระบุชัดว่า ผู้ที่ ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง จะไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆได้เลย …ไม่ใช่แค่ “หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ”เท่านั้น

การที่ศาลฯ รับเรื่องไว้พิจารณา และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นั่นแสดงว่าข้อกล่าวหา “มีมูล” ดังนั้นตอนนี้ “อุ๊งอิ๊งค์” ไม่มีสิทธินั่งเก้าอี้ใดเลย แม้แต่ รมว.วัฒนธรรม

ถ้าฝืนดันเรื่องนี้ต่อไป จะไม่ใช่แค่ “ผิดเทคนิค” แต่คือ การท้าทายหลักนิติธรรม และอาจนำไปสู่ สุญญากาศทางการเมือง เพราะระบบตรวจสอบไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ความเชื่อมันของประชาชนก็จะพังทลาย

จึงถึงเวลาถามกลับฝ่ายการเมืองว่า จะเลือกยึด“ตำแหน่ง” หรือ “หลักการ

ขณะที่ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายของรัฐบาลอิ๊งค์ ออกมาตั้งท่า สวนเต็มที่ ว่า หากตีความอย่างนักวิชาการ ที่ว่ามานั้น ก็เท่ากับวินิจฉัยว่า “แพทองธาร” มีความผิดไปแล้ว ทั้งที่ศาลฯ ยังไม่ได้วินิจฉัยเลย ว่าขาดคุณสมบัติอะไร หรือไม่ เพียงแต่รับคำร้องไว้ และให้ชี้แจงเท่านั้น

จึงถือว่า “แพทองธาร” ยังคงมีคุณสมบัติเต็มที่ ในการทำหน้าที่รัฐมนตรี เพราะศาลฯยังไม่ได้วินิจฉัยให้รวมไปถึงตำแหน่งอื่น ซึ่งหากจะวินิจฉัยเช่นนั้น ก็ไม่ได้ เพราะมันเกินคำร้อง

เมื่อเป็นเช่นนี้ เชื่อว่า การนำครม.ใหม่ รวมทั้ง “รัฐมนตรีอิ๊งค์” เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ก็จะยังคงเป็นไปตามกำหนดการที่ได้วางเอาไว้

ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีการร้องเรียนตามมาหรือไม่ “ชูศักดิ์” ทำตาโต บอกว่า… ร้องอะไร ตอนนี้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนถวายสัตย์ฯ เท่านั้น คิดว่าไม่มีอะไรห้าม

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า หลังจากนั้น จะมีผู้นำเรื่องนี้ไปยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่นอน ถือว่าข้อขัดแย้งได้เกิดขึ้นแล้ว

เพราะนักวิชาการ นักกฎหมายทั่วไป เห็นว่า เป็นเรื่องมิบังควร ทำไม่ได้ มีแต่นักกฎหมายของรัฐบาลเท่านั้น ที่เห็นว่า “แพทองธาร” เป็นรัฐมนตรีต่อไปได้ และเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯได้

นักการเมืองบ้านอื่น เมืองอื่น ที่เขาเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชนจริงๆ เวลามีปัญหา ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม เขาจะแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกทันที

แต่นักการเมืองบ้านเรา เมืองเรา เข้ามาเพื่อแสวงอำนาจ หาผลประโยชน์ ต่อให้ทำผิด ถูกจับได้คาหนัง คาเขา ก็ยังตะแบงต่อไป อย่าหวังว่าจะลาออกเอง ไล่ก็ยังไม่ไป สุดท้ายเมื่อถูกกฎหมายบังคับ ยังบอกว่ากฎหมายไม่มีความยุติธรรมอีกต่างหาก

++ แมวไล่จับหนูไม่เลิก คดีเขากระโดงถึง DSI "อ้วน" ย้ำไม่แค้นส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของชาติ

“เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต สส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดมหาสารคาม และอดีตผู้สมัคร สว. ที่เป็นคู่กรณีเปิดศึกฟาดกันในคดี “ฮั้วสว.” กับ พรรคภูมิใจไทย และ “หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล มาก่อนหน้านี้ ยังคงปฏิบัติการ “แมวไล่จับหนู” ชนิดที่หนูต้องจดจำแมวไปจนกว่าจะตายจากกันไปข้าง !

คราวนี้ “เจ๊แมว” เดินทางไปยื่นหนังสือถึง “พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบ กรณีปัญหาการถือครองที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีพื้นที่กว่า 174 ไร่ โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลในตระกูล “ชิดชอบ” และบริษัทในเครือ รวมถึงบทบาทของ “หนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีอำนาจกำกับดูแลกรมที่ดิน ในช่วงเวลาที่มีข้อพิพาทดังกล่าว

ฟังว่า “พ.ต.ท.วรณัน ศรีล้ำ” ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และโฆษก DSI เป็นผู้รับเรื่อง แล้วส่งต่อให้กองคดีคุ้มครองผู้บริโภคดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ต้องบอกว่า คดีเขากระโดงนี้ เป็น“แผลใหญ่” ของค่ายบุรีรัมย์ ที่สังคมให้ความสนใจแบบ “ค้างคาใจ” ที่ผ่านมาถือว่า พรรคภูมิใจไทยพยายามซุกปัญหาไว้ ใช้อำนาจรัฐกลบเกลื่อน ซื้อเวลามาเรื่อยๆ แต่เมื่อภูมิใจไทยพ้นจากรัฐบาล “เจ๊แมว”จึงเห็นเป็นโอกาสไล่จับ “หนู”

“กุสุมาลวตี” กล่าวว่า การยื่นหนังสือในครั้งนี้ มีเป้าหมายให้ DSI ตรวจสอบ และเอาผิด “อนุทิน ชาญวีรกูล” และผู้เกี่ยวข้อง กรณีการออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยย้ำว่า ตามข้อเท็จจริง พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ ที่ไม่สามารถออกโฉนดให้เอกชนได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 60

อย่างไรก็ตาม กลับพบว่า มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาช่องว่างทางกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบุคคลใกล้ชิดทางการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มของ “เนวิน ชิดชอบ” เจ้าของพรรคภูมิใจไทยตัวจริง ซึ่งมีโฉนดถือครองจำนวนมาก ในพื้นที่ดังกล่าว

“เจ๊แมว” ยังว่า สิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงการเอื้อประโยชน์ระหว่างข้าราชการ และนักการเมือง โดยเฉพาะการใช้อำนาจของกรมที่ดิน ในการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับกลุ่มบุคคลโดยมิชอบ ทั้งที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว แต่กลับยังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือเป็นการเพิกเฉยต่อคำพิพากษาของศาล และเข้าข่ายการใช้อำนาจโดยมิชอบ

“เจ๊แมว-กุสุมาลวตี” ยืนยันไม่เกรงกลัวต่ออำนาจใดๆ และพร้อมจะต่อสู้เพื่อทวงคืนที่ดินเขากระโดงให้กับแผ่นดิน แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรค หรืออันตรายใดๆ ก็ตาม หากคำร้องของถูกยก ก็เตรียมจะดำเนินการถวายฎีกา ต่อไป

ขณะที่ “อ้วน”ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการรับตำแหน่งมท.1 ซึ่งมีการเชื่อมโยงว่า จะเป็นการเอาคืนพรรคภูมิใจไทย คดีเขากระโดงหรือไม่ ?

“ภูมิธรรม” ไม่ได้ตอบตรงๆ แต่ย้อนถามว่า หากไม่กระทำผิด ก็ไม่มีใครไปทำอะไรได้ โดยยังเชื่อในกระบวนการ ไม่น่าจะมีปัญหา ปัญหาเขากระโดง ก็ต้องไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ ไม่ใช่เรื่องความแค้นส่วนตัว!

งานนี้ เนวิน ชิดชอบ- อนุทิน ชาญวีรกูล และพรรคภูมิใจไทย โปรดทราบ

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

สมัครได้แล้ววันนี้กับ BEM พาน้องพิชิต TCAS ปีที่ 17 ติวเข้ม TGAT ครบทุกพาร์ต พร้อมกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ

26 นาทีที่แล้ว

"พี่ศรี" ยื่น กมธ.ป.ป.ช.สภาผู้แทนฯ สอบโครงการเช่าแท็บเล็ต สพฐ.ส่อวางแผนหลังบ้านกับบริษัทเอกชน

27 นาทีที่แล้ว

“รมว.นฤมล“เผยหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมทำหน้าที่เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน

30 นาทีที่แล้ว

คำตอบจาก “ขาใหญ่”..ทำไมหุ้นเล็กตายสนิท / สุนันท์ ศรีจันทรา

31 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

จีนเฝ้าระวังหลังฝนตกหนักกระหน่ำจนน้ำท่วมฉับพลัน

สำนักข่าวไทย Online

ด่วน!ดีเอสไอเตรียมขอหมายจับขบวนการทุจริตต่อใบอนุญาตทำงานต่างด้าวเชื่อมโยงจนท.ไทย-กัมพูชาผ่านบัญชีม้า

สยามรัฐ

อเล็กซ์ อัลบอน เปิดตัวหมวกพิเศษลุยศึกบริติชกรังด์ปรีซ์

THE STANDARD

20 วัตถุโบราณ"ไทย" ส่งคืนให้ "กัมพูชา" มีที่มาอย่างไร คมจบให้

คมชัดลึกออนไลน์
วิดีโอ

"บิ๊กเต่า" ลั่น อยากคุยกับเจ้าอาวาสวัดม่วง เคลียร์ที่มา "เงิน 10 ล้าน"

สวพ.FM91

ชาวเกาะญี่ปุ่นผวาหนัก หลังเกิดแผ่นดินไหว 900 ครั้งใน 2 สัปดาห์

SpringNews

2 ผัวเมียครูวัยเกษียณ ติดตัวการ์ตูนรอบกระบะ ขับไปไหนมีแต่คนมอง เผยชื่นชอบ

Khaosod

ไม่มี "สึนามิ" ฝั่งอันดามัน 5 ก.ค.นี้ "กรมทรัพยากรธรณี" แจงข่าวลือหลังเกิดแผ่นดินไหว "เกาะนิโคบาร์" หลายครั้ง

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

บ่วง“จริยธรรม”รัดคอ “อุ๊งอิ๊ง”ไปต่อลำบาก!?

Manager Online

"พิชัย" นำทีมไทยแลนด์พบภาคเอกชนมะกัน กระชับความร่วมมือศก. หวังข้อตกลง win-win ทุกฝ่าย

Manager Online

“ชัยเกษม” พร้อมเป็นนายกฯ หากพรรคให้มาช่วยแก้วิกฤติ ยันสุขภาพไร้ปัญหา

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...