โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ท่องเที่ยว ปี 2569 รัฐบาลปรับยุทธศาสตร์ใหม่ เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันนี้ (21 กรกฎาคม 2568) เวลา 17.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้การัรต้อนรับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารเอกชนภาคการท่องเที่ยว ที่มาร่วมงานการแถลงทิศทางการท่องเที่ยวไทย เครื่องยนต์หลักเศรษฐกิจไทย

ในโอกาสนี้ นายสรวงศ์ฯ ได้แถลงถึงการปรับนโยบายและแผนการฟื้นฟูเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแรง มุ่งดึงนักท่องเที่ยวด้วยเอกลักษณ์ ประสบการณ์การท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในโลก

แม้ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ ปัจจัยที่กระทบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรอบด้าน เช่น ภัยพิบัติ ภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งของสถานการณ์ในต่างประเทศ และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่ทั้งนี้ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไทยไม่เคยหยุดเดินหน้า แต่ติดตามเพื่อประเมินและมุ่งปรับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว เน้น 'คุณภาพมากกว่าปริมาณ'

ด้วยแนวทาง “ สะอาด สะดวก ปลอดภัย และทันสมัย” และการขับเคลื่อนด้วยแนวคิด 5 ปรากฏการณ์ใหม่ (5 New Paradigm) คือ New Customer, New Product, New Partnership ที่สำคัญทั้งเรื่อง เปิดเส้นทางการบิน

สรวงศ์ เทียนทอง

การถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย และความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้เที่ยวไทยอย่างมั่นใจด้วย บุคลากร เครื่องมือ และเทคโนโลยีทันสมัย, New Marketing Strategy และ New KPI ที่เน้น “คุณภาพ” มากกว่า “ปริมาณ” ทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม

สำหรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท รัฐบาลตั้งใจหนุนท่องเที่ยว-กีฬาเต็มสูบโดยแบ่งเป็น

  • การส่งเสริมการตลาดกว่า 3,800 ล้านบาท เช่น โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” และแผน “Thailand Summer Blast” ร่วมมือกับสายการบินและ OTA
  • การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวกว่า 6,000 ล้านบาท เช่น โครงการของกรมอุทยานฯ, กรมป่าไม้ และกรมศิลปากร ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ สิ่งอำนวยความสะดวก และแหล่งมรดกไทย

รวมทั้งใช้พลัง Soft Power และมหกรรมกีฬาเชื่อมกับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ “Amazing Thailand” โดยมีแคมเปญเด่น เช่น “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” งาน Maha Songkran World Water Festival 2025 และ Pride Festival “Love Wins” เดือนมิถุนายน

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ เช่น Muaythai Soft Power Championship Waterjet World Cup 2025 FIVB World Volleyball Series และที่สำคัญคือ SEA Games 2025 ระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 ณ กรุงเทพฯ ชลบุรี และสงขลาโดยคาดว่า SEA Games จะดึงดูดผู้ชมกว่า 500,000 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 17,000 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานมากกว่า 14,000 ตำแหน่ง

ในตอนท้าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ย้ำว่า “ที่สำคัญไปกว่านั้น รัฐบาลตั้งเป้าดึงมรดกไทยสู่ World Heritage เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้การท่องเที่ยวเพราะประเทศไทยมีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกแล้ว 6 รายการ และมรดกโลกทางวัฒนธรรม 5 แห่ง

พร้อมทั้งเดินหน้ายกระดับแหล่งมรดกไทยให้เป็นจุดหมายสำคัญด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เราต้องเปลี่ยนมรดกให้เป็นพลังเศรษฐกิจ สร้างความประทับใจให้คนทั้งโลกไม่เพียงแค่ ‘เห็น’ มรดกไทย แต่ต้อง ‘รู้จัก’ และ ‘จดจำ’ สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การกระจายรายได้และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศในทุกมิติโดย ให้มรดกเลี้ยงเมือง ให้การท่องเที่ยวเลี้ยงครัวเรือน”

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เผยว่า ปี 2569 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนกระบวนทัศน์การท่องเที่ยวไทยเป็น The New Thailand ซึ่งมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสู่การให้ความสำคัญเชิงคุณค่าอย่างแท้จริง (Value is the New Volume) ผ่านแนวคิดหลัก “Stay Focus” เดินหน้าอย่างมีเป้าหมาย ผ่านจุดเน้น 4 ประการ ได้แก่ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สู่ “การท่องเที่ยวคุณภาพ”, ปรับสมดุลด้วย “การกระจายโอกาสสู่ท้องถิ่น”, สร้างแรงดึงดูดใหม่ด้วยการออกแบบประสบการณ์ที่ตรงใจนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม และจับมือทุกภาคส่วนมุ่งหน้าสู่ความยั่งยืน

ควบคู่กับการเร่งสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย เผยแพร่ Soft Power และจัดการสมดุลส่วนแบ่งตลาดเป็น ตลาดต่างประเทศ 58 % และ ตลาดในประเทศ 42 % โดยมีหัวใจของความสำเร็จอยู่ที่ “คุณค่าและประสบการณ์” ที่นักท่องเที่ยวได้รับ พร้อมทั้ง “ความพึงพอใจ” ของทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความสมดุลตัวชี้วัดทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีรายได้ทางการท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

สำหรับ ตลาดต่างประเทศ ททท. มุ่งทำการตลาดเชิงรุก โดยให้ความสำคัญใน 2 มิติหลัก ได้แก่ มิติกลุ่มตลาด (Market Segment) ที่มีศักยภาพสูงในการเดินทาง ได้แก่ Millennials, Gen Z, Luxury และ Health & Wellness และมิติกลุ่มพื้นที่ (Market Areas) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม เพื่อตอบโจทย์เชิงรายได้อย่างชัดเจน ได้แก่

1.กลุ่ม Priority ประกอบด้วย กลุ่มตลาดหลัก อาทิ จีน ฮ่องกง จะมุ่งสร้างภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย พร้อมขยายสู่เมืองท่องเที่ยวใหม่ กลุ่มตลาดระยะใกล้ ได้แก่ มาเลเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ สร้างภาพจำใหม่

ขยายตลาด Segment ใหม่ควบคู่กับกระตุ้นฐานตลาดเดิม กลุ่มตลาดระยะใกล้ที่เติบโตดี ได้แก่ อินเดีย ญี่ปุ่น เน้นเจาะกลุ่ม Quality Leisure และกลุ่มตลาดระยะไกลที่เติบโตดี ได้แก่ รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี มุ่งเจาะกลุ่ม High Value สร้าง New Million Market

2. กลุ่มตลาดขนาดกลาง-เล็ก ได้แก่ ตลาดระยะใกล้ อาทิ ไต้หวัน เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กระตุ้นและขยายตลาดใหม่ทั้งในเชิง Segment และพื้นที่ ตลาดระยะไกล อาทิ ออสเตรเลีย สแกนดิเนเวีย อิตาลี สเปน เร่งสร้างภาพไทยในฐานะ “Green Destination” และ Long Stay Paradise

3.กลุ่ม High Value Market ตลาดตะวันออกกลางศักยภาพสูง นำเสนอ Premium Leisure และ Health & Wellness พร้อมรักษาการเติบโตของอิสราเอล รวมถึงทำ Airline Focus เพิ่มที่นั่งและความถี่เที่ยวบิน

ขณะที่ ตลาดในประเทศ ไทยเที่ยวไทยยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่แข็งแกร่ง และนำพาสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน ททท. จึงเดินเกมด้วยกลยุทธ์การตลาดเชิงพื้นที่ (Area-Based Marketing) ผสมผสานกับการออกแบบสินค้าและบริการเชิงประสบการณ์ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายศักยภาพ Millennials, High End/ Ultra Wealth และ Multi-Generation Family

โดยนำเสนอกิจกรรม Exclusive Experience ในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก, กระตุ้นความถี่ในกลุ่มจังหวัดเมืองหลัก-น่าเที่ยว ให้เกิดการเดินทางตลอดทั้งปี ด้วยการเจาะตลาด Health and Wellness และส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวข้ามภาคด้วยสินค้าบริการที่นำเสนอเสน่ห์ไทยและเพิ่ม Event Marketing

ขณะเดียวกัน ก็ยังคงมุ่งส่งเสริมเมืองน่าเที่ยวด้วยสินค้าและบริการตามอัตลักษณ์พื้นที่ โดยมีไฮไลต์ตามภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ชวนสัมผัสเสน่ห์ดินแดนลุ่มแม่น้ำ กับคอนเซปต์ “เที่ยวกลาง เที่ยวใกล้ เที่ยวได้เลย” ภาคตะวันออก สนุกกับ “สีสันตะวันออก” ด้วยกีฬา กิจกรรมกลางแจ้ง อิ่มอร่อยกับผลไม้ และอาหารถิ่น ภาคเหนือ “Season of North สุขทันที…ฤดูนี้ ฤดูเหนือ” ชูเสน่ห์อัตลักษณ์ภาคเหนือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสวัฒนธรรมและเรื่องราววิถีชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชวนตกหลุมรัก “ISAN Muaniverse สุขไม่ซ้ำกับประเพณีสีอีสาน” และภาคใต้ “Go South สัมผัสเสน่ห์ใต้ หลากหลายวัฒนธรรม” ลงใต้ไปสัมผัสเสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ ควบคู่กิจกรรม Responsible Tourism

นอกจากนี้ ททท. จะร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และ องค์การบริหารพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์ ของ UNESCO 3 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เพชรบุรี และสุพรรณบุรี พร้อมจะต่อยอดความสำเร็จ “Grand Moment” ผ่านแนวคิดหลัก 3 โมเมนต์ ที่เชื่อมโยง อารมณ์ ความทรงจำ และความมหัศจรรย์ของการเดินทาง ให้ทุกทริป…กลายเป็น “ช่วงเวลาแห่งความรู้สึก” ที่ไม่อาจลืม

ททท. เตรียมสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ภายใต้แบรนด์ “Amazing Thailand” ผ่านแนวคิดหลัก “Unforgettable Experience – ประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม” ด้วยเป้าหมายให้ทุกการเดินทางมีความหมายลึกซึ้งและทรงคุณค่ายิ่งขึ้น

สำหรับ ตลาดต่างประเทศ ททท. มุ่งสื่อสารภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็น “จุดหมายปลายทางแห่งประสบการณ์ที่เปี่ยมคุณค่าและยั่งยืน” ผ่าน key message “Healing is the New Luxury” สะท้อนบทบาทของประเทศไทยในฐานะดินแดนแห่งการเยียวยา การพักใจ และการเชื่อมโยงคุณค่าระหว่างผู้คนกับสถานที่ ที่จะเติมเต็มพลังชีวิตให้กับทุกคนที่มาเยือน

ด้านตลาดในประเทศ ต่อยอดแคมเปญ “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ด้วยแนวคิด “Change Unknown to Unforgettable” ชวนคนไทยออกไปเที่ยวเมืองไทย ไปสร้างโมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเก็บเกี่ยวเป็นความทรงจำดีๆ ที่ไม่อาจลืมเลือน

สำหรับ Highlight Products ของปี 2569 ททท. จะคัดสรรประสบการณ์ทางการท่องเที่ยวที่มีอัตลักษณ์ คุณภาพและความพร้อม มาแปรรูปเป็นสินค้าท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์มัดใจนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยให้น้ำหนักกับ Creative Products Focus การค้นหาจุดเน้นใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงกับอัตลักษณ์ของพื้นที่ ได้แก่ สินค้ากลุ่มแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เพื่อนำเสนอเป็น UNSEEN Destination – Unforgettable Experience สินค้ากลุ่มสุขภาพ (Wellness และ Meditation) สินค้ากลุ่มมูเตลู ศรัทธา และความเชื่อ

สินค้าตามพฤติกรรมนักท่องเที่ยวยุคใหม่ เช่น เส้นทางคนโสด เส้นทาง LGBTQ เส้นทางตามรอย Series หนัง-ละคร และภาพยนตร์ สินค้ากลุ่ม Arts & Craft Fashion กลุ่ม Sport Tourism กลุ่ม Night Tourism และกลุ่ม Thailand Soft Power สู่ 5 Must Do in Thailand Transportation & Connectivity Focus ร่วมกับสายการบินพันธมิตรขยายเครือข่ายความเชื่อมโยงทางการบินด้วย Airline Focus ทั้ง Commercial Flight และ Charter Flight การจัดทำเส้นทางเชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว

รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเส้นทางทางบก ทางน้ำ เช่น เรือยอช์ต เรือสำราญ (Cruise) เส้นทางเที่ยวแม่น้ำโขงเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ทางอากาศ เช่น Private Jet และ Helicopter ทางราง (รถไฟ) เช่น รถไฟ Kiha (กีฮะ), Royal Blossom, STR Prestige, Blue Jasmin และ Thailand Standard Focus สร้างเครือข่ายและผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการบริการสู่มาตรฐานยั่งยืนในระดับสากลพร้อมไปกับการพัฒนา Sustainable Model

อาทิ โครงการ Thailand Tourism Awards (TTA), CF Hotels, STGs STAR, Sustainable Product Prototype ภายใต้ Krabi Prototype พร้อมกันนี้ จะเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นผ่านโครงการ Trusted Thailand (Safe Travel Stamp) เพื่อการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน และสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแรงของประเทศไทย

ไม่เพียงเท่านั้น ททท. จะเติมเต็มประสบการณ์ด้วยอีเวนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ให้เทศกาล ประเพณี กิจกรรมระดับนานาชาติเป็แม่เหล็ก ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เริ่มกันที่ World Events ได้แก่ Maha Loy Krathong จ.สุโขทัย, VIJIT Chao Phraya, Amazing Thailand Marathon 2025 Amazing Thailand Countdown และ Maha Songkran World water Festival ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของ TOMORROWLAND THAILAND 2026 ครั้งแรกในเอเชียในเดือนธันวาคม 2569

ต่อด้วย International Events อาทิ SEA GAMES Sport & Tourism ไหว้ครูมวยไทยโลก เทศกาลตรุษจีน เทศกาลดนตรีนานาชาติ Rolling Loud Thailand Wonderfruit และ Big Moutain Music Festival นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา Thailand Marathon และฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์

กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ Thailand Illumination International Balloon Feasta เทศกาลพลุพัทยา และ Amazing Thailand Grand Diwali 2025

พร้อมทั้งชวนดื่มด่ำเทศกาลอัตลักษณ์ถิ่นที่เป็น Signature Thailand ในพื้นที่เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ ซึ่งจะเดินหน้าส่งเสริมยกระดับเทศกาลและประเพณีท้องถิ่นที่มีศักยภาพ สู่ International หรือ World Events ระดับโลก โดยมี 3 บิ๊กอีเวนต์สำคัญ ได้แก่ ประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี และประเพณีแห่ดาวคริสต์มาส จ.นครพนม

ททท. เชื่อมั่นว่า ปี 2569 จะเป็นปีแห่งความตั้งใจของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในการยกระดับ ปรับสมดุล และเดินหน้าสู่คุณภาพอย่างแท้จริง เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน

สะท้อนความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยที่จะก้าวข้ามจากการเป็นเพียง “จุดหมายปลายทางที่น่าเที่ยว” สู่การเป็น “จุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่า” ในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม บนเส้นทางแห่งความยั่งยืนที่มั่นคงยิ่งขึ้น ภายใต้พลังความร่วมมือที่เข้มแข็งกว่าที่เคย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

เช็กพิกัด จุดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี 22-31 ก.ค.นี้ จำนวนจำกัด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สภาพอากาศวันนี้ -27 ก.ค.ไทยฝนตกต่อเนื่อง ลมแรง เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

น่าน เตรียมพร้อมรับ"พายุวิภา"เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เกาหลีใต้เผยสาเหตุเครื่องบิน ‘เจจูแอร์’ ตกปลายปีที่แล้ว หลังชนนก

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

บาร์บีคิวพลาซ่า สู้ศึกตลาดปิ้งย่าง ลุยโมเดลใหม่ ไซซ์จิ๋ว-กินด่วน-ปิดดึก

MATICHON ONLINE

Broker ranking 21 Jul 2025

Manager Online

ไทยยืนหนึ่ง! ชุมชนท่องเที่ยวคว้า 6 รางวัลใหญ่ระดับเอเชียแปซิฟิก ตอกย้ำความยั่งยืนสู่สากล

VoiceTV

กยศ. ทยอยคืนเงิน “ผู้กู้” ที่ถูกหักหนี้อัตโนมัติ

อีจัน

กรุงไทย ฟันกำไรสุทธิ ไตรมาส 2 ปีนี้ 11,122 ล้านบาท เร่งช่วยลูกค้าแก้หนี้-ปรับตัวยั่งยืน

MATICHON ONLINE

ททท.ผนึก 20 พันธมิตรขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่หัวใจแห่งความยั่งยืนตามเป้าหมาย STGs ภายในปี 2030

สยามรัฐ

ทราย สก๊อต สร้างแรงบันดาลใจ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กับบุคลากรรพ.เจริญกรุงประชารักษ์

MATICHON ONLINE

เดือดต่อเนื่อง! เอ็มเคอัปเกรดโปร คุ้ม คุ้ม อิ่มไม่อั้น จัดเต็มหมี่หยกฟรีไม่อั้น

SMART SME

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...