ส่องภารกิจ ผู้ว่าแบงก์ชาติ แบกภาระเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย หนี้ และโลกดิจิทัล
แม้ชื่อของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่จะยังไม่ถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวและการคาดการณ์ในแวดวงเศรษฐกิจต่างพุ่งเป้าไปที่ตัวเต็งสองรายคือ นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.
การแต่งตั้งผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่กำลังกลายเป็นเรื่องที่จับตาอย่างยิ่ง เนื่องจากตำแหน่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงหัวเรือของนโยบายการเงิน หากแต่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจไทยทั้งระบบในช่วงเวลาที่โลกกำลังหมุนเข้าสู่ยุคแห่งความผันผวนสูงสุด
ในขณะที่กระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างการกลั่นกรองชื่อเพื่อเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณา การสำรวจ “ภารกิจรออยู่ข้างหน้า” จึงไม่ใช่แค่การคาดเดาทิศทางของบุคคล แต่เป็นการประเมินความท้าทายเชิงระบบที่ผู้ว่าฯ คนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องเผชิญตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง
บทความนี้จึงชวนไปสำรวจว่าผู้ว่าฯ แบงก์ชาติคนใหม่ต้องเจอกับอะไรบ้างในวันที่เศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน การเงินในประเทศยังเปราะบาง และความคาดหวังของสังคมกำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้นทุกวัน
ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่กับภารกิจประคองเศรษฐกิจไทยในยุคที่ความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติ
การเข้ารับตำแหน่งของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับแรงเสียดทานรอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ และปัญหาเชิงโครงสร้างที่สั่งสมมานานภายในประเทศ ภายใต้บริบทโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวนและซับซ้อน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติในยุคนี้จึงไม่ได้มีบทบาทแค่ “ผู้กำกับนโยบายการเงิน” เท่านั้น แต่ยังต้องเป็นผู้วางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจไทยในทุกระดับ
เมื่อภายนอกปั่นป่วน ภายในก็ต้องมั่นคง
ในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกเดินหน้าเข้าสู่ยุคใหม่ของการแข่งขันและความขัดแย้งทางการค้าอย่างเต็มรูปแบบ มาตรการภาษีจากประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลักของระบบเศรษฐกิจ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่คือความสามารถในการประคับประคองความมั่นใจของภาคธุรกิจและประชาชน ซึ่งกำลังเผชิญความไม่แน่นอนสูงเป็นประวัติการณ์
เมื่อเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้นโยบายการคลังในการกระตุ้นการใช้จ่าย ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องวางตัวให้เหมาะสมในการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อไม่ให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การประสานนโยบายระหว่างสองฝ่ายจึงต้องมากกว่าแค่การสื่อสารเชิงเทคนิค แต่หมายถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเข้าใจ และเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกัน เพื่อให้ทุกนโยบายขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันโดยไม่ถ่วงน้ำหนักกันเอง
ในช่วงเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงินได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 1.75 เปอร์เซ็นต์ เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การดำเนินนโยบายในระยะต่อไปจะซับซ้อนมากขึ้น เพราะต้องคำนึงถึงผลกระทบทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่จึงต้องมีวิจารณญาณที่เฉียบคมในการกำหนดทิศทางดอกเบี้ยที่ไม่เพียงรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังต้องป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน
เมื่อหนี้ครัวเรือนล้นเพดาน ความมั่นคงทางการเงินของทั้งประเทศจึงสั่นคลอน ?
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า หนี้ครัวเรือนของไทยยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่เปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ หากไม่มีมาตรการเชิงรุกและเครื่องมือทางนโยบายที่เหมาะสม ปัญหานี้อาจขยายตัวเป็นความเสี่ยงเชิงระบบในอนาคต ผู้ว่าแบงก์ชาติจึงควรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมวินัยการเงิน สนับสนุนองค์ความรู้ทางการเงินในระดับฐานราก และควบคู่กับการออกมาตรการบรรเทาภาระหนี้ที่เหมาะสม
โลกใหม่ของระบบการเงิน ไม่รอให้ใครพร้อมก่อน
ในขณะที่ความท้าทายด้านดั้งเดิมยังไม่หมดไป โลกการเงินก็ได้เดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว ทั้งเงินดิจิทัลภาครัฐ (CBDC) การเติบโตของฟินเทค การขยายตัวของระบบ Open Banking และกระแส ESG ที่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการลงทุน ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่จึงจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ก้าวไกล พร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานและกรอบกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น เพื่อไม่ให้ระบบการเงินไทยล้าหลัง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมั่นคงพอจะรับมือกับความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี
เมื่อบทบาทของผู้ว่าแบงก์ชาติไม่ใช่แค่ผู้รักษาเสถียรภาพ แต่คือผู้ออกแบบอนาคต
ภารกิจของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่จึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่คือการเตรียมประเทศไทยให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ ความสามารถในการเชื่อมโยงนโยบาย เฝ้าระวังความเสี่ยง และขับเคลื่อนนวัตกรรม จะเป็นกุญแจสำคัญที่กำหนดว่าเศรษฐกิจไทยจะสามารถยืนหยัดในยุคโลกเปลี่ยนผ่านได้หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่! เข้าครม. สัปดาห์หน้า รมว.คลัง ย้ำไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ
- ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่! รมว.คลัง เผยเซ็นแล้ว เตรียมเสนอครม.พรุ่งนี้
- ทุนเสมอภาค หรือ ยาแก้เฉพาะหน้า? เมื่อภาระทางการศึกษาเกี่ยวพันกับหนี้ครัวเรือน
- "ออมสิน" ช่วยปลดล็อก "NPLs"เฟสแรก 2 แสนบัญชี
- ค่าแรงขั้นต่ำคนไทย 400 บาทต่อวัน มากหรือน้อยเทียบกับชาติอาเซียน ในวันที่ค่าครองชีพทะลุรายได้