ปภ. เตือน สุโขทัย-แพร่ ยกของขึ้นที่สูง แม่น้ำยมล้นตลิ่ง
นอกจากเหตุการณ์ความวุ่นวาย ในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่มีท่าทีสงบลง ทาง “ภาคเหนือ” ของประเทศไทย ยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง เซ่นพายุ “วิภา”
วันนี้ (26 ก.ค. 68) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” นับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ถึงแม้ว่าปัจจุบันได้อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของพายุที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ และเลย รวม 50 จังหวัด 246 ตำบล 1,348 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,900 ครัวเรือน 115,858 คน ผู้สูญหาย 1 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง และแพร่ รวม 37 อำเภอ 201 ตำบล 917 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,241 ครัวเรือน 83,820 คน ภาพรวมสถานการณ์น้ำในทุกจังหวัดลดลง
นายภาสกร กล่าวว่า ถึงแม้ว่ามีหลายพื้นที่สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่การดำเนินการให้ความช่วยเหลือในทุกจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเร่งแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่เครื่องมืออุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยจากหน่วยงานทุกภาคส่วน เข้าปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยด้านชีวิตของประชาชนเป็นลำดับแรก รวมถึงเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
สำหรับการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้อพยพผู้ป่วยติดเตียงและกลุ่มเปราะบางไปยังพื้นที่ปลอดภัย และจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส. ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน ส่วนการดูแลและการดำรงชีวิต ได้มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน โรงครัวประกอบเลี้ยง เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกแก่ผู้ประสบภัย ตลอดจนทางด้านหน่วยแพทย์ ได้มีการบริการดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบภัย และมอบยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นกับผู้ประสบภัย ในส่วนของการดูแลอำนวยความสะดวก จัดดูแลความปลอดภัยด้านการสัญจรผ่านเส้นทางท่วมขังให้กับพี่น้องประชาขน และติดตั้งป้ายแจ้งเตือน เส้นทางเลี่ยง ตลอดจนเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง เพื่อให้ประชาชนได้สามารถสัญจรได้และประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน ปภ. ได้มีการส่งสัญญาณแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.00 น. ได้มีการแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast รวม 47 ครั้ง แยกเป็น อุทกภัย 38 ครั้ง และดินโคลนถล่ม 9 ครั้ง) นอกจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำยมในพื้นที่ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และจังหวัดสุโขทัย พบว่า ระดับน้ำได้เริ่มล้นตลิ่งแล้ว และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จึงได้แจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast 2 ครั้ง โดยแจ้งเตือนไปยังพื้นที่ริมแม่น้ำตำบลแม่เกิ๋ง ตำบลแม่ป้าก ตำบลวังชิ้น ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และพื้นที่ริมแม่น้ำที่ตำบลวังใหญ่ ตำบลวังทอง อำเภอศรีสำโรง และตำบลปากแคว ตำบลยางซ้าย ตำบลปากพระ ตำบลธานี อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ให้ยกของขึ้นที่สูงทันที รีบเคลื่อนย้ายรถไปในที่สูง อพยพไปยังศูนย์พักพิงในพื้นที่หากจำเป็น เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ไปยังที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
“อีจัน” ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องภาคเหนือทุกคนครับ