รัฐบาล เร่งจัดชุด EOD ตรวจทำลายวัตถุระเบิดบริเวณชายแดน ยังเหลืออีก 63 พื้นที่
รัฐบาล เร่งจัดชุด EOD ตรวจทำลายวัตถุระเบิดบริเวณชายแดนต่อเนื่อง ขอประชาชนเช็กข้อมูลพื้นที่จากทางราชการก่อนกลับบ้าน แจ้งทันทีที่พบเห็น
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาลนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2568 ฝ่ายกัมพูชาได้ลอบวางทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน และมีเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบระเบิด และกัมพูชาได้ใช้อาวุธสงคราม หลายจุดตลอดแนวชายแดน
ส่งผลจนถึงปัจจุบัน ยังมีวัตถุอันตราย และวัตถุต้องสงสัย ตกหล่นอยู่ในพื้นที่สาธารณะใกล้บ้านเรือนประชาชน ขอให้ประชาชนชะลอการเดินทางกลับที่พัก โดยเฉพาะที่จ.สุรินทร์และศรีสะเกษ ขอให้ตรวจสอบกับนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่เพื่อความปลอดภัย
ทั้งนี้ หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ และทุกหน่วยที่มีหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และพบวัตถุต้องสงสัยหลายจุด โดยจะเข้าทำตรวจสอบ พิสูจน์ทราบ เก็บกู้ และเคลียร์พื้นที่จากวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด โดยย้ำความปลอดภัยของประชาชนคือภารกิจที่สำคัญที่สุด
นายจิรายุ กล่าวว่า EOD ได้เข้าตรวจสอบเพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง โดยได้ทำลายไปแล้ว 17 พื้นที่ คงเหลือ 63 พื้นที่ (ณ วันที่ 3 ส.ค. เวลา 14.00 น.) ขณะที่จ.ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ได้ออกคำสั่งด่วนที่สุดถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ พร้อมขอให้อำเภอ ยึดหลักปฏิบัติ “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ในระดับสูงสุดเมื่อเย็นวานนี้ (วันที่ 3 ส.ค. เวลา 18.00 น.) ดังนี้
1.ประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนงดกลับเข้าภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดนจนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ และขอให้ประชาชนติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก
2.ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ออกตรวจสอบพื้นที่ หากพบวัตถุระเบิดหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นใด จากเหตุที่มีการสู้รบในพื้นที่ ขอให้ใช้ความระมัดระวัง และให้รีบรายงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และหน่วยทหารในพื้นที่ เข้าตรวจสอบและทำลาย
3.กรณีมีเสียงดังคล้ายระเบิดในพื้นที่อำเภอชายแดน อย่าได้ตื่นตกใจ เนื่องจากเป็นการเก็บกู้และทำลายระเบิดที่ตกค้างในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่
4.กรณีพบเห็นอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินในพื้นที่ขอให้แจ้ง ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หรือแจ้งสายด่วนความมั่นคง 1374 ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ จ.จันทบุรี ได้ขอความร่วมมือจากเครือข่ายภาคเอกชนที่ใช้โดรน (ภาคเกษตร สันทนาการ) หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือมีอุปกรณ์ เทคโนโลยี หรือนวัตกรรมในการตรวจจับ ป้องกัน หรือต่อต้านการใช้งานโดรน (Anti-Drone) ให้ติดต่อหรือประสานข้อมูลกับ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจังหวัดจันทบุรี เพื่อการมีส่วนร่วมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในพื้นที่ด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : รัฐบาล เร่งจัดชุด EOD ตรวจทำลายวัตถุระเบิดบริเวณชายแดน ยังเหลืออีก 63 พื้นที่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th