‘สมชาย’ โพสต์แฉ! เปิดไทม์ไลน์ ‘อุ๊งอิ๊ง-ฮุนเซน’ มี ‘ดีลลับ’ ก่อนการปะทะชายแดน
"สมชาย" โพสต์แฉ! "อุ๊งอิ๊ง-ฮุนเซน" มี "ดีลลับ" ก่อนการปะทะชายแดน ชี้เป็น "การผิดจริยธรรมร้ายแรง"
จากกรณีที่มีการเผบแพร่คลิปวิดีโอการไต่สวน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คดีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุนเซน นั้น วันนี้ (26 ส.ค.) นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญในคดีดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Somchai Swangkarn ว่า #หลักฐานสำคัญ #อุ๊งอิ๊ง #ฮุนเซน #ดีลลับ #ผิดจริยธรรมร้ายแรง
Timeline และเอกสารหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่า คลิปเสียงหลุดการเจรจาลับของแพทองธารชินวัตรที่โทรศัพท์คุยกับฮุนเซนแบบยอมจำนน รับปากที่จะดำเนินการตามที่ฮุนเซนเรียกร้องนั้น เป็นการดีลลับ ที่ผิดหลักการทูต ผิดกฎหมาย ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงทำให้เกิดการแก้ปัญหาไทยกัมพูชาผิดพลาด และเป็นชนวนเหตุนำไปสู่การที่ผู้นำกัมพูชาส่งกำลังทหารเข้าปะทะสู้รบกับทหารไทยที่ชายแดน การยิงจรวดและปืนใหญ่ใส่บ้านเรือน โรงพยาบาล ร้านค้า จนมีประชาชนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และทหารไทยต้องสูญเสียชีวิต และบาดเจ็บ จนถึงขณะนี้แม้หยุดยิง เจรจาแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจนในการยุติการสู้รบแท้จริงที่อาจเกิดขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้
โดยปรากฏข้อเท็จจริงสรุปตามห้วงเวลาดังนี้
- 6 มิ.ย.68สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) มีมติมอบหมายให้กองทัพบกและกองทัพเรือ ดำเนินการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ทั้งหมด
*เพื่อกดดันกัมพูชาที่ใช้กำลังทหารรุกล้ำอธิปไตยของไทย 14.45-18.30 (6 มิ.ย 68 ) ผบเหล่าทัพเรียกประชุมลับวาระพิเศษ หารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แสดงเจตนาร่วมปกป้องอธิปไตย และพิจารณานำเสนอมาตรการกดดันเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ
- 7 มิ.ย.68ผบทบ ออกคำสั่งมอบอำนาจให้ผบกองกำลังสุรนารี ผบกองกำลังบูรพา มีอำนาจควบคุมเปิดปิดจุดผ่านแดนไทยกัมพูชาทุกประเภท กองทัพเรือออกคำสั่งให้ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีตราดมีอำนาจควบคุมเปิดปิดด่านไทยกัมพูชาเช่นกัน
- 9 มิ.ย.68 เสนาธิการทหาร ทำการแทนผู้บัญชาการทหารสูงสุดส่งหนังสือถึงสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอมาตรการจากผบเหล่าทัพในทางสันติวิธีเพื่อดำเนินการกดดันกัมพูชาที่ใช้กำลังทหารรุกล้ำอธิปไตยของไทย ด้วยการตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญานอินเทอร์เน็ต การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ ฯลฯ ต่อเนื่องจากมาตรการปิดด่านตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชา เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติโดยเร่งด่วน โดยมีกำหนดนัดหมายเพื่อพิจารณาในวันที่ 16 มิ.ย.68
- 15 มิ.ย.68 แพทองธารโทรศัพท์คุยกับฮุนเซน สองต่อสองผ่านล่ามกัมพูชา(ยังไม่มีใครล่วงรู้คลิปหลุด)
- 16 มิ.ย.68 ไม่มีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อพิจารณาข้อเสนอจากผบเหล่าทัพ โดยเลี่ยงไปเรียกประชุมตัวแทนกองทัพ และจัดตั้งทีมไทยแลนด์ขึ้นมาทำหน้าที่แทน
- 18 มิ.ย.68 ฮุนเซนปล่อยคลิปลับการคุยโทรศัพท์กับแพทองธาร 17 นาที คนไทยทั้งประเทศ จึงทราบความลับที่แพทองธารรับปากฮุนเซนในการเปิดด่านไม่ตัดกระแสไฟฟ้า ไม่ตัดสัญญานอินเทอร์เน็ต ปิดกั้นควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ตามความต้องการและข้อเรียกร้องของฮุนเซน แต่ทางกองทัพยังคงมาตรการปิดด่านเพื่อกดดันกัมพูชาให้ถอนทหารออกจากแนวชายแดนต่อไป
คลิปหลุดดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นถึงการกระทำผิดมาตรฐานจริยธรรมในฐานะนายกรัฐมนตรี ในหลายประเด็น อาทิ การไม่ปกป้องอธิปไตย เอกราชของราขอาณาจักร การไม่รักษาเกียรติภูมิของประเทศและตำแหน่ง การไม่รักษาความลับราชการ การเปิดเผยข้อมูลให้ศัตรูได้เปรียบในการบ การกล่าวหาแม่ทัพเป็นฝ่ายตรงข้ามกับตน การยอมรับกระทำการใดๆทุกประการตามคำสั่งของข้าศึก การมีผลประโยชน์ส่วนตน ฯลฯ อันเป็นการกระทำผิดกฎหมายความมั่นคงตามหมวด3 เรื่องความผิดต่อความมั่นคงนอกราชอาณาจักร ผิดประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง อันเป็นความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี
พี่น้องประชาชนไทยได้ฟังคลิปลับที่หลุดออกมากันแล้ว และหากพิจารณาข้อเท็จจริงตามเอกสารและtimeline ที่เห็นชัดเจนเช่นนี้ คงวินิจฉัยได้เองแล้วครับ ว่า แพทองธาร ชินวัตร ได้กระทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไปส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่29 ส.ค. 68 จะออกมาเช่นนี้หรือไม่พวกเราที่เห็นพ้องตรงกันแล้ว คงต้องติดตามต่อไปครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
ติดตามเราได้ที่