ส่งออกไทยพุ่ง 11% กลุ่มอิเล็กฯเด่นมาก- เช็ก!
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 17.45 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวรีบาวด์ขึ้นตามที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ จากการ Price in ข่าวดีที่เกิดขึ้นจากการประชุมที่เมือง Jackson Hole ซึ่งทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ย Fed ที่มากขึ้น การปรับตัวขึ้นของดัชนีเมื่อวานนี้ถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond yield ขาลง เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มหุ้นที่เราแนะนำ Overweight ต่อไป จากระดับ Dividend yield gap ที่ยังคงทรงตัวสูง และเป็นกลุ่มที่มีคุณลักษณะ Defensive โดยธรรมชาติ
Trump:
มองต่อมายังวันนี้ คาดว่าดัชนี SET อาจมีการพักตัวบ้าง จากความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างประเทศเป็นสำคัญ ไล่ตั้งแต่การออกมาประกาศขู่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมและออกข้อจำกัดด้านการส่งออกในเทคโนโลยีขั้นสูงและเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อตอบโต้ภาษีบริการดิจิทัลที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกา
Fed:
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ปธน.ทรัมป์ปลดนาง Lisa Cook ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยให้เหตุผลถึงความไม่น่าเชื่อถือที่เธอถูกกล่าวหาว่าอาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงจำนอง (Mortgage) ปัจจัยนี้อาจทำให้นักลงทุนกังวลกับความเป็นอิสระของ Fed แต่ในขณะเดียวกัน อาจเพิ่มโอกาสการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed ในช่วงถัดไป ซึ่งจะทำให้ Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวต่ำต่อไปได้
MSCI:
สำหรับในช่วงเย็นวันนี้ ระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงท้ายตลาด โดยเฉพาะช่วง ATC ที่จะมีการปรับน้ำหนักหุ้นในตะกร้าดัชนี MSCI ซึ่งในรอบนี้คาดว่าจะมี Fund flow ไหลออกประมาณ 6 พันล้านบาท ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์มองเป็นโอกาสในการ Buy on fact สำหรับหุ้นที่ถูกถอดออกจากดัชนี Standard Index ในรอบนี้ ได้แก่ HMPRO และ OR
Trade data:
กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าประจำเดือนกรกฎาคม ดังนี้:
การส่งออกรวมขยายตัว 11.0% สูงกว่าที่ตลาดคาด ส่วนการนำเข้ารวมขยายตัว 5.1% สูงกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน โดยมียอดดุลการค้า 322 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าที่ตลาดคาด
ยอดการส่งออกที่หักทองคำออกแล้ว ยังคงแข็งแกร่ง ขยายตัว 12.3% บ่งชี้ถึงปรากฏการณ์เร่งส่งออก (Front-load) ต่อเนื่อง โดยหลักเกิดจากการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมที่ขยายตัวสูง 21.5% ได้แรงหนุนจากผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง
สินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 14% ได้แรงหนุนจากการส่งออกเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ (+35%) โดยกลุ่มที่ทำได้ดี ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า และฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์
การนำเข้ามีแรงหนุนสำคัญจากทองคำ (+108%) หากหักหมวดนี้ออกไป การนำเข้าจะขยายตัวเพียง 2.2% โดยได้รับผลกระทบหลักจากสินค้าพลังงานที่ลดลง 35% YoY จากราคาน้ำมันที่ต่ำ
การนำเข้าสินค้าหมวดอื่นยังดี นำโดยสินค้าทุนขยายตัว 23% เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและเครื่องจักรกล
Our take:
มองตัวเลขส่งออกไทยเดือนก.ค.ที่ออกมาดีเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เนื่องจากเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของการเร่งส่งออก ก่อนที่สหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม (ส่งออกหลังวันที่ 7 ส.ค. จะโดนภาษี 19%) และอาจเป็น Sentiment เชิงบวกระยะสั้นต่อกลุ่มสินค้าที่มียอดส่งออกดี เช่น อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, HANA, CCET) อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าการเก็บภาษีตั้งแต่เดือนสิงหาคมอาจทำให้ภาพการส่งออกชะลอตัว สอดคล้องกับสัญญาณจากกระทรวงพาณิชย์