เสื้อผ้าแต่ละแบบ ใส่ได้กี่ครั้ง? คู่มือการใช้เสื้อผ้าอย่างคุ้มค่า
การซักผ้าบ่อยเกินไปไม่เพียงแต่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำและพลังงาน แต่ยังทำให้อายุการใช้งานของเสื้อผ้าสั้นลงอีกด้วย การทำความเข้าใจว่าเสื้อผ้าแต่ละประเภทควรซักบ่อยแค่ไหน จะช่วยให้คุณดูแลเสื้อผ้าได้อย่างถูกวิธี ประหยัดค่าใช้จ่าย และยังช่วยรักษ์โลกอีกด้วย
มาส่องเสื้อผ้าแต่ละแบบ ใส่ได้กี่ครั้ง?
เสื้อผ้าที่ควรซักทุกครั้งที่ใส่
เสื้อผ้าเหล่านี้สัมผัสกับเหงื่อและสิ่งสกปรกโดยตรง จึงควรซักทุกครั้งที่สวมใส่เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์
- ชุดออกกำลังกาย: ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง หรือบราสำหรับออกกำลังกาย ควรซักทันทีหลังการใช้งาน เพราะเต็มไปด้วยเหงื่อและแบคทีเรีย
- ชุดว่ายน้ำ: ควรสักด้วยมือเบาๆ และตากในที่ร่มทุกครั้งหลังใช้ เพื่อล้างคลอรีนหรือน้ำเค็ม
- ถุงเท้าและชุดชั้นใน: สัมผัสกับผิวหนังโดยตรงและมีเหงื่อออกมาก ควรซักทุกครั้งที่ใส่เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
- เสื้อผ้าสีขาว: เสื้อผ้าสีขาวมีโอกาสเกิดคราบเหลืองได้ง่าย จึงควรซักบ่อยกว่าเสื้อผ้าสีอื่นๆ
เสื้อผ้าที่ใส่ได้ 2-3 ครั้งก่อนซัก
เสื้อผ้ากลุ่มนี้ไม่ได้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรง หรือเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ในระยะเวลาสั้นๆ
- กางเกงยีนส์: ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำให้ใส่กางเกงยีนส์ได้ถึง 3-10 ครั้งก่อนซัก เพื่อรักษาสีและรูปทรง แต่ถ้าใส่แล้วรู้สึกสกปรกหรือมีคราบก็ควรซัก
- เสื้อยืดและเสื้อเชิ้ต: หากไม่ได้มีเหงื่อออกมากหรือเปื้อน สามารถใส่ได้ 2 ครั้งก่อนซัก แต่ถ้าเป็นวันที่มีอากาศร้อนควรซักทันที
- ชุดเดรสและกระโปรง: สามารถใส่ได้ 2-3 ครั้งหากไม่มีคราบเปื้อน
- เสื้อกันหนาวแบบสวม (Sweater): หากทำจากผ้าฝ้ายหรือเส้นใยสังเคราะห์ สามารถใส่ได้ 2-3 ครั้ง แต่ถ้าเป็นผ้าขนสัตว์อาจใส่ได้บ่อยกว่านั้น
เสื้อผ้าที่ใส่ได้หลายครั้งก่อนซัก
เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่ค่อยสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง หรือทำจากวัสดุที่ทนทานต่อการซักน้อย
- แจ็กเกตและเสื้อคลุม: สามารถใส่ได้ 5-6 ครั้ง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
- เสื้อโค้ท: สามารถใส่ได้ทั้งฤดูกาลโดยไม่ต้องซักบ่อยนัก หากไม่มีคราบเปื้อนชัดเจน
- กางเกงขาสั้นและกระโปรงที่ไม่ใช่ผ้าเดนิม: สามารถใส่ได้ 3-4 ครั้ง
- ชุดนอน: สามารถใส่ได้ 3-4 คืนก่อนซัก หากไม่มีเหงื่อออกมาก
คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ใช้เครื่องอบผ้าน้อยลง: ความร้อนจากเครื่องอบผ้าทำให้เส้นใยผ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรเลือกตากผ้าในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทแทน
- ซักด้วยน้ำเย็น: น้ำเย็นช่วยป้องกันผ้าหดตัวและรักษาสีของเสื้อผ้า
- ซักเสื้อผ้าที่คล้ายกันรวมกัน: ซักผ้าสีอ่อนกับสีอ่อน และผ้าสีเข้มกับสีเข้ม เพื่อป้องกันสีตก
- ทำความสะอาดเฉพาะจุด: หากมีคราบเปื้อนเล็กน้อย ให้ทำความสะอาดเฉพาะจุดแทนที่จะนำไปซักทั้งตัว
การใส่ใจกับจำนวนครั้งในการซักผ้าของเสื้อผ้าแต่ละชนิดจะช่วยให้คุณประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย และที่สำคัญที่สุดคือช่วยยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้าที่คุณรักให้ยาวนานขึ้น
อ่านเพิ่ม