ทรัมป์สั่งซีอีโอ Intel ต้องลาออกทันที! อ้างมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้ “ลิป-บู ตัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัท Intel ผู้ผลิตชิปซีพียู “ลาออกทันที” โดยอ้างว่ามี “ผลประโยชน์ทับซ้อน” กับรัฐบาลจีน ซึ่งสร้างความปั่นป่วนครั้งใหม่ให้กับบริษัทที่กำลังดิ้นรน เพื่อหยุดยั้งการขาดทุน และรักษาที่นั่งของตนในยุคปัญญาประดิษฐ์
“ซีอีโอของอินเทลมีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างมาก และต้องลาออกทันที” ทรัมป์เขียนใน Truth Social เมื่อวันพฤหัสบดี “ไม่มีทางออกอื่นใดสำหรับปัญหานี้ ขอบคุณที่ให้ความสนใจต่อปัญหานี้!”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ให้หลักฐานหรือรายละเอียดเพิ่มเติมว่า ซีอีโอของอินเทล อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องใดบ้าง
โพสต์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากทอม คอตตอน วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ขอให้ประธานคณะกรรมการบริษัทอินเทลในสัปดาห์นี้ชี้แจงเกี่ยวกับความเชื่อมโยงของตันกับจีน ซึ่งรวมถึงการลงทุนในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีน และบริษัทอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน
ในจดหมายถึงแฟรงก์ เยียรี ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลคณะกรรมการบริหารของผู้ผลิตชิปรายนี้ คอตตอนได้สอบถามเกี่ยวกับการลงทุนที่ตันเคยทำในจีน ก่อนที่จะได้รับเลือกให้มาบริหารอินเทล
นอกจากนี้ คอตตอนยังแสดงความกังวลถึงความเชื่อมโยงของตันกับบริษัท “Cadence Design Systems” ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชิปที่ตันเคยบริหารมากว่าทศวรรษ และเคยขายผลิตภัณฑ์ให้กับมหาวิทยาลัยการทหารของจีน โดยบริษัทดังกล่าวได้ “ยอมรับผิด” ในเดือนกรกฎาคม ต่อข้อหาละเมิดกฎควบคุมการส่งออกของสหรัฐ จากการขายฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ให้กับมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศแห่งชาติจีน
ด้านอินเทลชี้แจงว่า ตัน และคณะกรรมการ “มุ่งมั่นอย่างยิ่งในการส่งเสริมผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ และเศรษฐกิจของสหรัฐ และกำลังลงทุนอย่างมีนัยสำคัญให้สอดคล้องกับนโยบาย America First ของประธานาธิบดี”
“อินเทลได้ผลิตในสหรัฐมาเป็นเวลา 56 ปี” บริษัทระบุ “เรายังคงลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ รวมถึงโรงงานแห่งใหม่ในรัฐแอริโซนา ที่จะใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตขั้นสูงที่สุดในประเทศ และเราเป็นบริษัทเดียวที่ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีโหนดผลิตชิปตรรกะชั้นนำในสหรัฐ เราหวังว่าจะได้สานต่อการทำงานร่วมกับรัฐบาลต่อไป”
หลังจากโพสต์ทรัมป์ออกมา หุ้นอินเทล ก็ร่วงลง 3.1% สู่ระดับ 19.77 ดอลลาร์ในนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี ลบกำไรเล็กน้อยที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2025
“เรื่องนี้เป็นการเติมเชื้อไฟทางการเมือง ให้กับการพลิกฟื้นของ Intel ที่เปราะบางอยู่แล้ว” ออสการ์ เฮอร์นันเดซ เทจาดา นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าว “การเรียกร้องให้เขาลาออก ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอน ซึ่งอาจทำให้การดำเนินแผนพลิกฟื้น Intel ยุ่งยากมากขึ้น”
อ้างอิง: bloomberg
พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์