"ทวี" อ้าง MOA ปชน.-ภท.ทำลายประชาธิปไตย โหวตนายกฯ ขัด รธน.
วันนี้ (5 ก.ย.2568) เวลา 09.40 น.การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในการประชุมนัดพิเศษ
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.พรรคภูมิใจไทยเสนอญัตติ ให้เลื่อนวาระการโหวตให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ขึ้นมาพิจารณาก่อน
แต่นายวัชรพล ขาวขำ สส. พรรคเพื่อไทยเห็นแย้งเนื่องจากมีระเบียบวาระสำคัญที่จะต้องพิจารณา และอ้างอิงว่าการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่สำคัญจึงต้องมีเวลาให้สมาชิกได้ตัดสินใจ
จากนั้นประธานสภาฯ ได้เรียกให้สมาชิกโหวตว่าจะเห็นด้วยให้เลื่อนระเบียบวาระ หรือจะให้พิจารณาตามระเบียบวาระ
ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกระทรวงการ ลุกขึ้นเสนอว่าจะจำเป็นต้องให้มีสมาชิกได้อภิปรายหารือถึงการเลื่อนวาระ ก่อนที่จะหลุดพูดว่า "ทางฝ่ายค้าน" เป็นฝั่งนี้มี สส.เตรียมความพร้อมอภิปรายญัตติของนายวัชรพล ขาวขำ ซึ่งมี สส.หลายคนขึ้นมาสนับสนุนความเห็นของนายจุลพันธ์ จากนั้นมี สส.จากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม มาร่วมอภิปรายเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเลื่อนญัตติ เช่น นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา
ขณะที่ ช่วงหนึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปราย หยิบยกว่ารัฐสภาจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าการที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นข้อตกลงทางการเมืองที่กร่อนเซาะระบอบประชาธิปไตยและทำลายรัฐธรรมนูญ เป็นการสกัดการตั้งรัฐบาลโดยเสรี
"เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวมีในข้อ 4 เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องดำเนินการด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้รัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อย เพื่อไม่ให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และลงชื่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีถือเป็นเสาหลักนายอนุทินอาจจะมาด้วยพรรคการเมือง เมื่อมีข้อตกลงดังกล่าว จะทำให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในมาตรา 49"
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่าหากมีการพูดถึงเรื่องคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะอภิปรายต่อไป ว่าเป็นอาชญากรรมหรืออาชญากรทางประชาธิปไตยทางการเมืองอย่างไร ชี้ว่าหากจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขอให้มีการพิจารณาข้อตกลงที่ได้อภิปรายไว้ โดยพรรคประชาชาติเห็นว่าควรจะยื่นเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ข้อตกลงของทั้ง 2 พรรคการเมือง เนื่องจากอ้างว่าข้อตกลงจะนำไปสู่เหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง
โดยเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้สมาชิกถูกครอบงำ โดยการลง MOA ดังกล่าวเป็นการครอบงำและเป็นผลประโยชน์ของสองพรรคการเมือง ฝ่ายหนึ่งได้เป็นรัฐบาลอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นฝ่ายค้านแต่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการไม่เห็นหัวประชาชน จึงเห็นควรว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องมีการวินิจฉัยให้ถ่องแท้ เพราะเริ่มต้นก็เป็นการกระทำที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญเป็นการทำลายประชาธิปไตย และเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศว่าพรรคตัวเองยึดมั่นในประชาธิปไตย
อ่านข่าว :
"อนุทิน" รับตื่นเต้นโหวตนายกฯ เชื่อทุกอย่างจะเรียบร้อย
โฆษกภูมิใจไทยยก รธน.ชี้โหวตนายกฯ เป็นวาระด่วนที่สุด
"สรวงศ์" เดินหน้าเสนอชื่อ "ชัยเกษม" โหวตนายกฯ โยน กก.บห. ขับ 8 สส.งูเห่า