ตำรวจท่องเที่ยวไฮเทค ใช้กล้อง AI ล่าผู้ต้องหากว่า 3 เดือนจับแล้ว 147 ราย
ภายใต้คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรม กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว โดย พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้นำเทคโนโลยี "กล้อง AI" ที่เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มาใช้ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเพื่อเฝ้าระวังและจับกุมผู้กระทำผิด
กระทั่งวันที่ 20 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 18.28 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจท่องเที่ยว 5 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 2 ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย กล้อง AI ได้แจ้งเตือนการตรวจพบบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ462/2568 ซึ่งเป็น นายประยูร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดี “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น…และกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีฯ” เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวนายประยูรไว้ได้ในทันที และนำส่ง สภ.หนองขาม จ.ชลบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับคดีนี้ ผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.หนองขาม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 ก่อนที่ศาลจะอนุมัติหมายจับในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 และในที่สุดผู้ต้องหาก็ถูกจับกุมได้ในอีกเพียง 2 วันถัดมา ในขณะที่กำลังจะเดินทางหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีและมาตรการของตำรวจท่องเที่ยวในการป้องกันอาชญากรรมอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ที่สถานีขนส่งนครราชสีมา แห่งที่ 2 พ.ต.ท.เทพทัฬห์ ขจรเกียรติอาชา สารวัตรใหญ่ตำรวจท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา นำกำลังเข้าจับกุม นายสุภโชค อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ในคดีครอบครองยาเสพติดตั้งแต่ปี 2564 ขณะที่นายสุภโชคกำลังเดินทางโดยรถบัสโดยสารมาจากจังหวัดขอนแก่น และเตรียมมุ่งหน้าไปยังกรุงเทพฯ โดยมาจอดแวะพักที่ บขส.โคราช ระหว่างที่กำลังเดินเข้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่ได้ใช้กล้อง AI ตรวจจับใบหน้าและแจ้งเตือนการพบตัวผู้ต้องหา ซึ่งกำลังจะหมดอายุความในอีก 3 เดือนข้างหน้า
เมื่อกลับออกมาจากห้องน้ำ นายสุภโชคก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวทันที แม้จะมีการขัดขืนเล็กน้อยแต่ก็จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจได้ทำการตรวจค้นสัมภาระเพิ่มเติม และพบยาบ้า 5 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในขวดลูกอมสีเขียว สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับจริง ก่อนถูกส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดี
ทั้งนี้ปฏิบัติการนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.ศักดิ์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่นำนวัตกรรมกล้อง AI มาใช้ในแหล่งท่องเที่ยวและสถานีขนส่งเพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยกล้องชนิดนี้สามารถบันทึกใบหน้าผู้ต้องหาตามหมายจับ และแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ทันที ซึ่งตั้งแต่ติดตั้งกล้องเมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ได้มีการจับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วถึง 147 ราย