Pop Mart เผยกำไร 6 เดือนแรกโต 400% แตะ 2.3 หมื่นล้านบาท ส่วนราคาหุ้นพุ่ง 15 เท่า ในเวลาเพียง 1 ปีครึ่ง
Pop Mart International Group ผู้ผลิตอาร์ตทอย (Art Toy) เจ้าของคาแร็กเตอร์ ‘Labubu’ ที่สร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์ไปทั่วโลก ได้รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2025 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 396.5% แตะระดับ 4.57 พันล้านหยวน หรือราว 2.3 หมื่นล้านบาท สูงกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
สำหรับผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรก สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2025 Pop Mart มีรายได้รวม 1.388 หมื่นล้านหยวน หรือราว 7 หมื่นล้านบาท เติบโต 204.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิทะยานขึ้นเกือบ 4 เท่าตัว ส่วนสำคัญมาจากความสำเร็จของคาแรกเตอร์ Labubu ตุ๊กตาฟันแหลม หูใหญ่ ซึ่งกลายเป็นของสะสมยอดฮิตของคนดังระดับโลกอย่าง Rihanna และลิซ่า BLACKPINK จนจุดกระแสความต้องการไปทั่วโลก
ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนชัดในตัวเลขการเติบโตในต่างประเทศ โดยภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) กลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด มีรายได้เติบโต 257.8% ขณะที่ทวีปอเมริกาเติบโตอย่างร้อนแรงกว่า 1,000%
ราคาหุ้นพุ่ง 15 เท่า ในเวลา 1 ปีครึ่ง
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ราคาหุ้น Pop Mart ยังอยู่ที่ราว 20 หยวน ก่อนจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องราว 15 เท่าตัว มาทำสถิติสูงสุดใหม่ที่กว่า 300 หยวนเป็นครั้งแรก ในวันนี้ (20 สิงหาคม)
อย่างไรก็ตาม เจฟฟ์ จาง นักวิเคราะห์หุ้นจาก Morningstar ได้ให้ความเห็นว่า “ในมุมมองของเรา หุ้นน่าจะยังคงมีราคาสูงเกินไป เนื่องจากนักลงทุนกำลังมองข้ามความเสี่ยงทางธุรกิจที่สูงในระยะยาว”
จางกล่าวต่อว่า “เราคิดว่าความยั่งยืนของความนิยมสำหรับ IP (ทรัพย์สินทางปัญญา) หลักของ Pop Mart ยังคงไม่แน่นอน ไม่มีอะไรรับประกันว่าผู้บริโภคจะยังคงชื่นชอบพวกเขาต่อไปในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เพราะความชอบของพวกเขาอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก”
นอกจากความเสี่ยงเรื่องความนิยมที่อาจเป็นเพียงกระแสชั่วคราวแล้ว Pop Mart ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ (Regulatory Risk) ภายในประเทศจีน หลังจากที่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สื่อของรัฐบาลจีนได้ออกมาเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลธุรกิจกล่องสุ่ม (Blind Box) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจหลักของบริษัท ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการจำหน่ายให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี
Pop Mart ยืนยันในแถลงการณ์ว่า ทรัพย์สินทางปัญญาคือหัวใจหลักของธุรกิจ และจะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจไปทั่วโลกต่อไป
อ้างอิง: