หุ่นยนต์สี่ขา “แรดขาว” ของจีน ทุบสถิติโลก วิ่งเร็ว 100 เมตรใน 16.33 วินาที
สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่า ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นการสร้างสถิติกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ (Guinness World Records) ครั้งใหม่ในด้านการวิ่ง 100 เมตร ซึ่งเร็วที่สุดของหุ่นยนต์สี่ขา
ขณะที่สถิติโลกการวิ่ง 100 เมตร เร็วที่สุดของมนุษย์ในปัจจุบัน เป็นของ ยูเซน โบลต์ ที่ทำเวลา 9.58 วินาที ที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี เมื่อปี 2552
สำหรับหุ่นยนต์สี่ขาไวต์ ไรโน พัฒนาโดยศูนย์เอ็กซ์-เมคานิกส์ (X-Mechanics) คณะการบินและอวกาศ ร่วมกับศูนย์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลกแห่งหางโจวของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง และทำสถิติที่สนามทดสอบในเมืองหางโจว ของมณฑลเจ้อเจียง
หวังหงเทา อาจารย์และหัวหน้าโครงการ อธิบายว่า การวิ่ง 100 เมตร ไม่เพียงทดสอบพลังระเบิดและความเร็วของหุ่นยนต์ แต่ยังทดสอบการควบคุมความมั่นคงและความแม่นยำในการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งสำคัญกว่านั้นคือช่วยให้รู้ว่าการวิจัยเดินถูกทางหรือไม่
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลักของหุ่นยนต์สี่ขาไวต์ ไรโน อยู่ที่กระบวนการปรับปรุงประสิทธิภาพรอบด้าน ซึ่งเป็นการจำลองพลวัตของข้อต่อและตัวแอคชูเอเตอร์ (actuator) ทั้งหมดภายใต้บริบทที่หลากหลาย เพื่อหาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าการทำซ้ำ ๆ ปรับแก้การออกแบบโครงสร้างแบบปะติดปะต่อ
ทีมวิจัยได้สร้างแบบจำลองพลวัตที่แม่นยำ และใช้อัลกอริทึมปรับปรุงประสิทธิภาพแบบหลายวัตถุประสงค์ เพื่อปรับแก้สัดส่วนทางเรขาคณิตของหุ่นยนต์ สเปกของตัวมอเตอร์ และระบบลดอย่างสอดประสานกัน
การอ้างอิงแนวคิด “ออกแบบเพื่อสมรรถนะ” ตั้งแต่เริ่มต้น ทำให้หุ่นยนต์สี่ขาไวต์ ไรโน มีฮาร์ดแวร์ที่แข็งแกร่ง และศูนย์เอ็กซ์-เมคานิกส์ ได้พัฒนาชุดตัวแอคชูเอเตอร์ข้อต่อกำลังสูงที่ให้แรงบิดสูง และตอบสนองว่องไว เสมือนติดตั้งระบบกล้ามเนื้อ “ระดับนักแข่ง” ให้หุ่นยนต์ ขณะที่กลยุทธ์ควบคุมแบบมีพลวัตจากการเรียนรู้แบบเสริมกำลังช่วยให้เกิดความสามารถเคลื่อนไหวเชิงอัจฉริยะ
ดร.เฉิงเซ่าเหวิน หนึ่งในสมาชิกทีมวิจัย กล่าวว่า สิ่งที่น่าทึ่งคือหุ่นยนต์สี่ขาไวต์ ไรโน มีความสามารถบรรทุกสูงสุดถึง 100 กิโลกรัม ทำให้เป็นหุ่นยนต์สี่ขาที่ทั้งวิ่งเร็วมากและบรรทุกหนักได้ โดยมีการคาดการณ์ ว่าหุ่นยนต์นี้จะถูกใช้งานหลากหลายในอนาคต ตั้งแต่กู้ภัยจนถึงขนส่งในพื้นที่ภูมิประเทศขรุขระ ขยายขีดความสามารถจาก “วิ่งเร็ว” ไปสู่ “วิ่งแล้วมีประโยชน์”.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA