ราคาน้ำมันดิบ (15 ส.ค.) ปรับเพิ่ม หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐส่งสัญญาณเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ตลาดยังจับตาการประชุมระหว่างสหรัฐ และรัสเซียอย่างใกล้ชิด
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรัฐมนตรีคลังของสหรัฐกล่าวว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีโอกาสสูงที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึงระดับ 0.5% หลังตัวเลขในภาคแรงงานยังคงอ่อนแอ
อย่างไรก็ดี ยังคงต้องจับตาท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังวานนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเดือน ก.ค. 68 อยู่ที่ระดับ 3.3% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 2.5% เช่นเดียวกับดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.7% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 2.9%
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 14 ส.ค. 2568 อยู่ที่ 63.96 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.31 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 66.84 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.21 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ตลาดจับตาการประชุมระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำของสหรัฐ และนายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นในค่ำคืนนี้อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่าง ๆ ได้ตั้งข้อสังเกต ว่าการเจรจาในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการปูทางไปสู่การเจรจาไตรภาคีอันประกอบด้วย สหรัฐ รัสเซีย และยูเครนในอนาคต
ล่าสุดผู้นำสหรัฐยังคงกล่าวว่ารัสเซียจะต้องพบกับผลกระทบที่ตามมา หากยังคงขัดขวางสันติภาพในยูเครน โดยคำขู่ของผู้นำสหรัฐดังกล่าวคาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการออกมาตรการภาษีกับประเทศซึ่งนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มเติม
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ราคาน้ำมันดิบ (15 ส.ค.) ปรับเพิ่ม หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net