โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

TATG ครึ่งปีแรกกวาดรายได้ 1,376 ลบ.-มองครึ่งปีหลังดีมานด์โต

Manager Online

เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย โชว์ฟอร์มครึ่งปีแรก 68 แข็งแกร่ง รายได้เติบโตขึ้น อยู่ที่ 1,376 ล้านบาทและกำไร 42.5 ล้านบาท เติบโตสวนนอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว ตอบรับดีมานด์คำสั่งซื้อในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ขยับเพิ่มขึ้น 1.90% และบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสริมการเงินแกร่งจากการลดหนี้ สะท้อนความพร้อมรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมช่วงครึ่งปีหลัง มั่นใจรายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10%

ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 1,376.29 ล้านบาท เติบโต 2.71% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีแรงหนุนจากรายได้ตามสัญญากับลูกค้าที่เพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของทั้งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือ ซึ่งได้รับคำสั่งซื้อจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิ 42.54 ล้านบาท ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนขายและบริการที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง ต้นทุนพนักงาน และค่าบำรุงรักษาโรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้นตามปริมาณยอดขาย แต่บริษัทยังคงบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงความสามารถในการรักษาการเติบโตอย่างมั่นคงแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศ

ในส่วนของผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวม 699.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.92 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 29.22 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 56.03 ล้านบาท จากมูลค่างานที่แล้วเสร็จและยังรอการเรียกเก็บค่าบริการ ขณะเดียวกันหนี้สินรวมลดลงถึง 104.11 ล้านบาท จากการชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงิน ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากทั้งกำไรสุทธิและการเพิ่มทุนที่ได้ดำเนินการในช่วงก่อนหน้า

ภาพรวมของผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกสะท้อนถึงศักยภาพของบริษัทในการรักษาการเติบโต แม้เศรษฐกิจโดยรวมยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เชื่อว่าจะผ่านจุดต่ำสุดของปีได้ภายในปี 2568 และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป จากการที่ยอดการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศเติบโต 1.90% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงดีมานด์ภายในประเทศที่ฟื้นตัว แม้ว่ายอดการส่งออกรถยนต์ลดลง 7.98% ทำให้ยอดผลิตรถยนต์รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 724,715 คัน ลดลง 4.80% อย่างไรก็ดี เรายังต้องติดตามแนวโน้มการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ที่อาจส่งผลต่อกำลังซื้อและการแข่งขันด้านราคาของตลาดในประเทศในอนาคต

สำหรับกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังของปี บริษัทเดินหน้ารุก 2 กลุ่มธุรกิจหลักเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้แก่ ธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือ (Tooling) ซึ่งครอบคลุมถึงแม่พิมพ์ปั๊มโลหะ (Stamping Dies), อุปกรณ์จับยึดเพื่อการตรวจสอบ (Checking Fixtures), และอุปกรณ์จับยึดเพื่อการประกอบ (Assembly Jigs) ที่ยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์แบบปั๊มขึ้นรูปโลหะ (Automotive Press Parts) รวมถึงบริการชุบเคลือบสีผิวโลหะด้วยเทคโนโลยีทางไฟฟ้า (EDP) โดยล่าสุดบริษัทได้ลงทุนในเครื่องจักรอัตโนมัติที่ล้ำสมัย เพื่อรองรับดีมานด์ในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญของอุตสาหกรรมในยุคปัจจุบัน

อีกทั้ง ภาครัฐยังเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกระทรวงการคลังได้เห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์นั่งประหยัดพลังงานแบบ Plug-in Hybrid (PHEV) แยกจากกลุ่ม Hybrid (HEV) เพื่อผลักดันการพัฒนาและการผลิตรถยนต์ PHEV ตามมาตรฐานสากล ซึ่งนโยบายดังกล่าวถือเป็นอีกปัจจัยบวกที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรม และเป็นโอกาสสำคัญที่ TATG จะสามารถใช้ความเชี่ยวชาญรองรับการเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ

นอกจากนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย มองว่ายังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากทั้งนโยบายภาครัฐที่สนับสนุน และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผู้ผลิตเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และเปิดตัวโมเดลรถ EV เพิ่มขึ้นในตลาดไทย ขณะที่ประเทศไทยยังคงเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่มีศักยภาพส่งออกไปยังอาเซียน สหรัฐอเมริกา และยุโรป จากความได้เปรียบทั้งด้านต้นทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี

“วันนี้ TATG มีความพร้อมรอบด้าน ทั้งเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย มาตรฐานการผลิตระดับสากล และระบบบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก ทั้งจากญี่ปุ่นและเยอรมนีอย่างต่อเนื่อง บริษัทมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถรักษาโมเมนตัมการเติบโตต่อเนื่อง และบรรลุเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่ตั้งไว้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%” ดร.พยุง กล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

เปิดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เพิ่มโทษ จำคุก 26 ปี "ลุงพล"บ้านกกกอก ฆ่า"น้องชมพู่"ปมแค้นทะเลาะพ่อแม่เด็ก

30 นาทีที่แล้ว

ไทยพร้อมจัดว่ายน้ำมาราธอนอาเซียนมีกองทัพเรือดูแลความปลอดภัย

34 นาทีที่แล้ว

EM DISTRICT ชวน 15 หนุ่มสาว LA BELLE et LE BEAU รุ่น 2 ร่วมปลูกต้นกล้าเพื่อโลกสีเขียว

34 นาทีที่แล้ว

ลูกสาว “เบสท์ เอกวัฒน์” พูดครั้งสุดท้าย วอนหยุดด่าพ่อได้แล้ว ขอจบดรามาทิ้งลูก (คลิป)

40 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

GFC เปิดงบไตรมาส 2/68 รายได้แตะ 90 ล้าน ใส่เกียร์รุกขยายฐานต่างแดน

ฐานเศรษฐกิจ

SC Asset ฟอร์มแรง Q2/68 รายได้พุ่ง 95% ครึ่งปีหลังลุยเปิด 8 โครงการ

TNN ช่อง16

SKY ฟอร์มแรง H1/68 กำไร 405 ลบ. Backlog หนา 23,463 ลบ. หนุนโตต่อเนื่อง

TNN ช่อง16

สื่อกัมพูชาตีข่าวไทยเดือดร้อนคนงานเขมรไหลกลับ ยื้ออยู่ต่อซื้อเวลาหาคน

Amarin TV

BAFS กำไรสุทธิ 56 ล้านบาท เคาะจ่ายปันผล 0.11 บาท ขึ้น XD 28 ส.ค.นี้

Khaosod

“จีน-อาเซียน” คู่ค้ารายใหญ่กันและกัน เส้นทางรถไฟหนุน

TNN ช่อง16

EGCO กำไรครึ่งปีแรกพุ่ง 88% แตะ 5,700 ล้านบาท เล็งปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้า 2-3 โครงการ

การเงินธนาคาร

วีรันดา เปิดรายได้ครึ่งปี 741 ล. กำไรสุทธิ 55 ล. ครึ่งปีหลังรับอานิสงส์ เที่ยวไทยคนละครึ่ง

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

SINOบริหารต้นทุนหนุนกำไร 6 เดือนแรกโต

Manager Online

SUPERอวดEBITDA6เดือนแรกปีนี้สูง 81%

Manager Online

DEMCOคว้างานใหม่ 2 โปรเจค มูลค่า 192 ลบ.

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...