โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ณัฐพงษ์ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ติดตามการเยียวยาประชาชน ชี้ขั้นตอนเยอะทำล่าช้า แนะรัฐจ่ายถ้วนหน้า

THE STANDARD

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
ณัฐพงษ์ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ติดตามการเยียวยาประชาชน ชี้ขั้นตอนเยอะทำล่าช้า แนะรัฐจ่ายถ้วนหน้า

วันนี้ (18 สิงหาคม) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส. พรรคประชาชน ร่วมลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากระบวนการชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ และข้อเรียกร้องจากผู้ได้รับผลกระทบ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์

โดยในช่วงเช้ามีการเปิดเวทีพบปะผู้ได้รับผลกระทบที่บ้านสายโท 10 ตำบลสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีจรวด BM-21 ตกใส่จนมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลัง หลังจากนั้นในช่วงบ่ายคณะผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์พร้อมติดตามกระบวนการฟื้นฟูซ่อมแซมโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตี ก่อนที่จะร่วมเปิดเวทีรับฟังประชาชน และติดตามกระบวนการเยียวยาประชาชนต่อที่บ้านเกษตรสมบูรณ์ ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

สำหรับสิ่งที่ส่วนราชการและประชาชนต่างสะท้อนมาในการพบปะครั้งนี้ มีทั้งเรื่องของความต้องการการสนับสนุนชุดเกราะ และค่าตอบแทนให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ความยากลำบากในการหาเลี้ยงชีพของประชาชน การขาดแคลนรายได้จากสถานการณ์ความไม่สงบ กระบวนการเยียวยาที่มีขั้นตอนซ้ำซ้อนยุ่งยาก ขั้นตอนรอการพิจารณาที่นานกว่าที่ควรเป็น เกณฑ์การพิจารณาที่สูง เป็นต้น

ด้านณัฐพงษ์ระบุว่า สถานการณ์ในวันนี้คนที่ลำบากที่สุดคือประชาชนและเจ้าหน้าที่หน้างานทุกท่าน สถานการณ์ตอนนี้เริ่มเข้าสู่อีกเฟสหนึ่งแล้ว ที่ผ่านมา สส. จากหลายพื้นที่ได้ช่วยกันรับประสานสิ่งของบริจาคจากจังหวัดต่างๆ มาสนับสนุนประชาชนที่ศูนย์พักพิงต่างๆ แต่ตอนนี้เมื่อประชาชนเริ่มย้ายกลับมาบ้าน สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้ก็คือมาตรการในการเยียวยา มีอีกหลายส่วนที่ต้องใช้มาตรการชดเชย ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีมาตรการในการลดค่าน้ำไฟ เงินชดเชยรายได้จากการสูญเสียรายได้ มาตรการลดหย่อนภาษีซ่อมบ้านซ่อมรถ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารรัฐเพื่อเข้าถึงเงินกู้ในการประกอบอาชีพ เป็นต้น

“ทุกมาตรการเป็นสิ่งดี แต่ที่สำคัญที่สุดคืออุปสรรคหน้างาน ทุกครั้งที่มีเหตุประสบภัย สิ่งสำคัญที่สุดคือการเสริมกำลังการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด วันนี้เราไม่ต้องการมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่เราต้องการรับฟังว่าปัญหาหน้างานมีอะไรที่เป็นอุปสรรคบ้าง โดยเฉพาะการรับเงินชดเชยเยียวยาที่มีขั้นตอนทางเอกสารเยอะ เอกสารหาไม่เจอหรือใช้ไม่ได้ คำถามก็คือรัฐมีอะไรที่จะสามารถดำเนินการเพื่อลดขั้นตอนได้บ้างหรือไม่”

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่า วันนี้ได้เห็นว่าข้าราชการผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ยังต้องการการสนับสนุนอีกหลายเรื่อง คนในพื้นที่ยังมีความเครียดและวิตกกังวล และได้เห็นปัญหาจากการชดเชยเยียวยา ยิ่งเมื่อได้เห็นแบบฟอร์มการเยียวยาแล้วก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมประชาชนถึงได้รับการเยียวยาล่าช้า เพราะทั้งหมดเป็นการใช้กลไกปกติของกระทรวง เช่น ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่พุ่งเป้าตามระเบียบราชการปกติที่เน้นเฉพาะกลุ่มเปราะบาง แต่การแก้ปัญหาจากเหตุปะทะชายแดนครั้งนี้ไม่ควรแก้ปัญหาด้วยวิธีคิดแบบรัฐสงเคราะห์ แต่ต้องพุ่งเป้าแบบถ้วนหน้า ทุกคนที่จังหวัดชายแดน ทั้งผู้ที่ต้องอพยพและผู้ที่ไม่ได้อพยพไม่มีใครไม่เดือดร้อน ประชาชนต่างมีความเดือดร้อนคนละแบบ ทั้งคนที่บ้านเรือนเสียหาย ปศุสัตว์ล้มตาย ออกกรีดยางไม่ได้ ฯลฯ จะให้กรอกแบบฟอร์มให้รัฐประเมินทุกคนก็ย่อมล่าช้า

“ดังนั้น เงินเยียวยาพื้นฐานรัฐควรต้องให้เลยโดยไม่ต้องพิสูจน์เพราะทุกคนเดือดร้อนด้วยกันหมด รัฐมีกลไกเครื่องมืออยู่แล้ว เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลที่เคยผ่านการแจกมาแล้วบางส่วน นำมาใช้เป็นเครื่องมือให้เกิดประสิทธิภาพ อย่างน้อยแก้ปัญหาให้คน 80-90% ก่อน ส่วนที่เหลือจากการเยียวยาพื้นฐาน ทั้งส่วนที่พิสูจน์ไม่ได้หรือต้องพิสูจน์เพิ่ม รัฐสามารถเยียวยาตามหลังได้”

ณัฐพงษ์กล่าวต่อไปว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งนี้กลไกราชการในพื้นที่ไม่มีอำนาจที่จะไปปรับได้ คนที่มีอำนาจและต้องไปปรับก็คือรัฐบาล ระเบียบกระทรวงต่างๆ ล้วนอยู่ที่ส่วนกลาง นี่คือสิ่งที่วันนี้ สส. สามารถช่วยได้ ในการผลักดันให้เกิดการปรับปรุงระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเยียวยา ซึ่งตนและเพื่อน สส. ที่มารับฟังประชาชนในวันนี้ พร้อมที่จะนำเสียงสะท้อนเหล่านี้ไปสะท้อนให้รัฐบาลรับฟังต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

CORTIS บอยกรุ๊ปใหม่ของ Big Hit Music เดบิวต์อย่างเป็นทางการกับซิงเกิล What You Want

26 นาทีที่แล้ว

Jin วง BTS ขึ้นแคมเปญล่าสุดของ FRED สำหรับไลน์เครื่องประดับ Force 10

36 นาทีที่แล้ว

สว. เดชา ค้านแก้นิยามกฎหมาย ‘คุกคามทางเพศ’ ชี้เป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ หวั่นตีความเกินจริง

46 นาทีที่แล้ว

รมช.กลาโหมยืนยันไม่มีรื้อรั้วลวดหนาม ชายแดนไทย-กัมพูชา

58 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘สมเด็จพระสังฆราช’ ทรงหกล้ม เข้าประทับ รพ.ศิริราช ตรวจพระอาการ-รักษา

The Bangkok Insight
วิดีโอ

ชาวเขมรไม่เชื่อ ภาพทหารไทยยึดภูมะเขือ อ้างใช้ AI สร้าง

สยามนิวส์

‘พล.อ.ณัฐพล’ ลั่นถ้าผมยังอยู่ ไม่รื้อรั้วลวดหนามเพื่อสันติภาพแน่นอน!!

The Bangkok Insight

ประธาน ICRC เรียกร้องนานาชาติ จัดสรรงบประมาณให้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

THE STANDARD
วิดีโอ

นายอำเภอ จ.สงขลา มีไว้รับ "รัฐมนตรี" ? | ทันข่าวเย็น | 18 ส.ค. 68 | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

เด็ดปีก! ทนายเขากระโดง | ทันข่าวเย็น | 18 ส.ค. 68 | NationTV22

NATIONTV
วิดีโอ

ลุย! กวาดล้าง "ทุ่นระเบิด" | ทันข่าวเย็น | 18 ส.ค. 68 | NationTV22

NATIONTV

2 ปี กรมลดโลกร้อน เดินหน้านโยบายสภาพภูมิอากาศสู่การปฏิบัติ รับมือวิกฤตโลกเดือด

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

กองทัพบกแจงปมปักรั้วลวดหนามชายแดน ยืนยัน บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เป็นดินแดนไทย

THE STANDARD

ภูมิธรรมพร้อมชี้แจง หลังถูกแจ้งความให้สัมภาษณ์ทำประเทศเสียหาย ชี้หารือดินแดนคุยครั้งเดียวไม่จบ ต้องรอวงประชุม GBC 7-8 ก.ย.นี้

THE STANDARD

กัมพูชาขอเลื่อนประชุม RBC กองทัพภาคที่ 2 เป็น 27 ส.ค.นี้

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...