‘พิชัย’ รับเศรษฐกิจเสี่ยงรอบด้าน เร่งแก้ปัญหา ดันจีดีพีโตกว่า 2%
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สภาพัฒน์ประมาณการการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ ไว้ที่ 2% นั้น ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีความท้าทายหลายด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ การย้ายฐานการผลิต รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐ
“มาตรการของสหรัฐ อาจไม่ได้ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่าเดิม แต่ปัญหาที่มีอยู่ก็ทำให้การขยายตัวของเศรษฐกิจลดลง”
อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยสามารถปรับปรุงและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ก็เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะภาคการส่งออก การท่องเที่ยว ภาคการผลิต และภาคเกษตรกรรม
ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนปรับปรุงในหลายมิติ ทั้งการยกระดับภาคเกษตรกรรม การส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ และการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานการผลิตในประเทศ ซึ่งหากดำเนินการได้สำเร็จ ประเทศไทยก็มีโอกาสที่จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า 2%
ส่วนเรื่องการขนส่งสินค้าผ่านแดนหรือ Transshipment มีความกังวลน้อยมาก ในกรณีที่เป็นสินค้าส่งผ่านที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูปในไทย เพราะประเทศไทยเองก็ไม่ได้ประโยชน์หรือมูลค่าเพิ่มใดๆ จากการส่งออกลักษณะนี้และไม่มีนโยบายสนับสนุนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ รัฐบาลจะตรวจสอบอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับแหล่งที่มาของสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ ซึ่งการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) จะพิจารณาอย่างรอบคอบ หากสินค้าใดไม่ได้ผลิตในประเทศไทยและถูกส่งออกไป รัฐบาลจะไม่ออกใบรับรองให้ ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าเหล่านั้นไม่สามารถส่งออกไปได้ในที่สุด