ส่องคดี 2 พ่อลูกตระกูลชิน “ทักษิณ-อิ๊งค์” รอด?
สองคดีชี้ชะตา ทักษิณ–แพทองธาร อาจพลิกอนาคตรัฐบาล
"คดีการเมือง" ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงที่ส่งผลต่อทิศทางการเมืองไทย รวมทั้งเสถียรภาพรัฐบาล และเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ โดยในเดือนสิงหาคมและกันยายน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญ ใน "พรรคเพื่อไทย" และ "ตระกูลชินวัตร" ได้แก่ อดีตนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ" และ "น.ส.แพทองธาร" โดยมีรายละเอียดและวันนัดหมายของศาลดังนี้
วันที่ 22 สิงหาคม ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาคดี ม.112 ของอดีตนายกรัฐมนตรี "ทักษิณ ชินวัตร" กรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ ซึ่งถูกตีความว่าเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามมาตรา 112 ของ ประมวลกฎหมายอาญาไทย
และ 29 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร" สนทนากับสมเด็จฮุน เซน ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องจริยธรรมและผลประโยชน์ทับซ้อน
โดย คดี มาตรา 112 ของอดีตนายกฯทักษิณนั้น ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส มองแนวทางที่คาดการณ์ได้ คือ ไม่พบการกระทำผิดเข้าข่าย ม.112 ก็พ้นบ่วง แต่หากพบการกระทำผิด เข้าข่าย ม.112ก็ยื่นประกันตัว สู้ต่อศาลอุทธรณ์
ขณะที่คดีจริยธรรมร้ายแรงของนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ก็ได้เแนวทาง ที่คาดการณ์ไว้อย่างน่าสนใจว่า หากไม่เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง ก็ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อ แต่หากเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง ก็พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ซึ่งทางพรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯคนใหม่
ส่วนคดีชั้น 14 ของอดีตนายกฯทักษิณ มีข้อกล่าวหา คือ การเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจได้รับสิทธิ พิเศษเกินกว่าผู้ต้องขังทั่วไป โดยมีการตรวจสอบจากหลายฝ่ายว่าการรักษาดังกล่าวมีความจำเป็นทางการแพทย์จริงหรือไม่
โดยวันนัดศาลฎีกา คือ 9 กันยายน 2568 ซึ่งแนวทางที่คาดการณ์ได้ หากป่วยจริงและขั้นตอนถูกต้อง ก็พ้นผิด แต่หากป่วยจริงแต่ขั้นตอนไม่ถูกต้อง ก็อาจเอาผิดเฉพาะข้าราชการที่เกี่ยวข้อง หรืออาจให้เริ่มบังคับคดีใหม่ โดยอดีตนายกฯทักษิณกลับเข้าเรือนจำ
ทั้งนี้ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทางฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ชี้ว่า หากนายกฯแพทองธาร ถูกถอดถอนหรืออดีตนายกฯ ทักษิณถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล หรือ ยุบสภาได้ แต่หากศาลยกคำร้องทั้งหมด รัฐบาลชุดปัจจุบัน อาจได้ไปต่อในรูปแบบ "ครม.แพทองธาร 2"
อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่า ปัจจัยทางการเมือง และ คดีความของ "ตระกูลชินวัตร" นั้น ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนในตลาดหุ้นไทยซึ่งอาจเข้ามากดดันในเชิงจิตวิทยาด้วยเช่นกัน
ขณะที่นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) มองว่า การตัดสินคำร้องของนายกฯ โดยศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 29 สิงหาคมจะอีกหลายวัน แต่เนื่องจากจะมีผลต่อทิศทางการเมือง ซึ่งอาจเป็นบวกหรือลบต่อตลาดหุ้นได้ อาจทำให้บรรยากาศการลงทุน การซื้อขายของตลาดจากนี้ไป มีความผันผวนมากขึ้น
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาประเด็นคดีความทางการเมืองของ 2 พ่อลูก ตระกูลชินวัตรอย่างใกล้ชิด เพราะทุกแนวทางย่อมส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล เศรษฐกิจและการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews