DTPHREIT รับอานิสงส์รร.หรูฟื้นตัว ไตรมาส 2/68 ปันผล 0.1750 บาท/หน่วย
DTPHREIT รับอานิสงสธุรกิจโรงแรม–เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ระดับลักซัวรีฟื้นตัว เดินหน้าสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง โดยไตรมาส2/2568 จ่ายในอัตรา0.1750 บาทต่อหน่วยทรัสต์
13 ส.ค. 2568 น.ส.วนิดา สุขสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีทีพี โกลบอล รีทส์ แมเนจเม้นท์จำกัด(DTPRM) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ธุรกิจโรงแรมและสิทธิการเช่าดีทีพี ฮอสพิทอลลิตี้(DTPHREIT)เปิดเผยว่าด้วยแนวโน้มเชิงบวกของธุรกิจโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ในประเทศไทย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากกระแสใหม่ในตลาดลักชัวรี มีการขับเคลื่อนโดยกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และการเติบโตของตลาดกลุ่มที่พักอาศัยแบรนด์หรู หรือ แบรนเด็ด เรสซิเดนส์(Branded Residence) ปัจจุบันมีขนาดตลาดใหญ่เป็นที่น่าจับตาในเอเชียสะท้อนให้เห็นความต้องการของลูกค้าที่ชื่นชอบแบรนด์เนมด้านอสังหาริมทรัพย์
โดยเฉพาะแนวโน้มของธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งถือได้ว่าประเทศไทยกำลังเป็นผู้นำตลาดรวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตกลางแจ้ง และการจัดกิจกรรมสร้างไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมสุขภาพอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะอยู่ต่อนานขึ้น และปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยแนวคิดเรื่องการดูแลสุขภาพเพื่ออายุยืนกำลังก้าวขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดลักชัวรียุคใหม่ โดยเฉพาะในทำเลที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งยังคงได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักธุรกิจ และผู้พำนักระยะยาว ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารสินทรัพย์และการรักษาคุณภาพการให้บริการ ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่ากองทรัสต์จะสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับกองทรัสต์DTPHREIT ลงทุนในทรัพย์สินคุณภาพสูง3 แห่ง ได้แก่
1. โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯเป็นแบรนด์ระดับตำนานเป็นหนึ่งในแบรนด์หรูที่สุดของเครือHILTON Worldwide อยู่ในทำเลทองย่านราชประสงค์ใจกลางกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยศูนย์การค้าระดับโลก เดินทางสะดวก และมีวิวจากมุมสูงมองเห็นสวนลุมและราชกรีฑาสโมสร และสกายไลน์เมืองออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิกระดับโลกAndre’ Fu มีห้องอาหารและบาร์ที่มีชื่อเสียง เช่นBull & Bear, Peacock Alley มีบริการButler และConcierge ส่วนตัวเป็นหนึ่งในโรงแรมที่สามารถตั้งราคาห้องสูงที่สุดในกรุงเทพฯ มีจำนวนห้อง171 ห้อง บริหารโดยHILTON Worldwide มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในปี2567 อยู่ที่64%
2. โรงแรมยู เขาใหญ่ รีสอร์ตหรูที่มีเอกลักษณ์ทั้งรูปลักษณ์และบรรยากาศในสไตล์ชาโตว์ฝรั่งเศสผสมกับความอบอุ่นแบบไทยมีทะเลสาบส่วนตัว และใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของกลุ่มครอบครัวและ คู่รัก สามารถเข้าถึงตลาดนักท่องเที่ยวไทยรายได้สูงและกลุ่มStaycation มีห้องพักและห้องสวีทจำนวน63 ห้อง ซึ่งออกแบบให้โปร่ง โล่ง สบาย ให้ประสบการณ์การพักผ่อนแบบรีสอร์ตแท้จริง บริหารโดยAbsolute Hotel Services ผู้เชี่ยวชาญการบริหารโรงแรมระดับสากล นำเสนอแนวคิด“24-hour room use” มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี2567 อยู่ที่77% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
3. เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด(MRB) อพาร์ทเมนท์ระดับลักซัวรีมีจำนวนจำกัดในทำเลที่หาได้ยากถือเป็นRare Asset เพราะตั้งอยู่ในทำเลใจกลางราชประสงค์ติดถนนราชดำริ ฝั่งตรงข้ามราชกรีฑาสโมสร ใกล้BTS ราชดำริ รายล้อมด้วยศูนย์การค้าไฮเอนด์ เช่น เซ็นทรัลเวิลด์ เกษรพลาซ่า สยามพารากอน และสวนลุมพินี ถือเป็นคุณภาพสินทรัพย์ระดับแฟลกชิพ
ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกับโรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงแรมลักชัวรีระดับโลก การตกแต่งภายใน พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่าโรงแรม5 ดาวแขกผู้พักสามารถเข้าถึงฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องประชุม และพื้นที่พักผ่อนมาตรฐานโรงแรมบริหารโดยCompass Hospitality บริษัทบริหารโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ชั้นนำ มีประสบการณ์บริหารสินทรัพย์ระดับบนทั่วเอเชีย โดยเน้นการดูแลระยะยาว และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มต่างชาติที่ทำงานในไทย(Expat), ข้าราชการระดับสูง, นักการทูต และผู้บริหารจากบริษัทยักษ์ใหญ่
เหมาะสำหรับผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และทำเลที่สะดวกในการเดินทาง มีความต้องการเช่าอย่างสม่ำเสมอแม้ในช่วงเศรษฐกิจผันผวนมีห้องพักทั้งหมด99 ห้อง และ มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยปี2567 ที่91%
น.ส.วนิดา กล่าวด้วยว่าการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในไตรมาส2 ครั้งนี้สะท้อนความมั่นคงของกระแสรายได้จากสินทรัพย์ที่กองทรัสต์ลงทุน ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินระดับลักชัวรีในทำเลศักยภาพสูง และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะบริหารกองทรัสต์อย่างมืออาชีพ คำนึงถึงความยั่งยืนและการสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในระยะยาว
สำหรับนักลงทุนDTPRM ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทนในวันที่13 มิ.ย.ที่ผ่านมา และดำเนินการจ่ายประโยชน์ตอบแทนในวันที่30 มิ.ย ที่ผ่านมาเช่นกัน โดยกองทรัสต์ได้จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนประจำไตรมาส2/2568 ในอัตรา0.1750 บาทต่อหน่วยทรัสต์ โดยสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.dtprm.com/th/news-center/press-release
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : DTPHREIT รับอานิสงส์รร.หรูฟื้นตัว ไตรมาส 2/68 ปันผล 0.1750 บาท/หน่วย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th