กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง หลังทหารพรานเหยียบกับระเบิดซ้ำอีก เตรียมประท้วงถึง UN-ทบทวนความช่วยเหลือ
กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรง หลังทหารพรานเหยียบกับระเบิดซ้ำอีก เตรียมประท้วงถึง UN-ทบทวนความช่วยเหลือ
วันนี้ (12 ส.ค. 68) รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุด หลังจากกำลังพลทหารพรานประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอีกครั้ง ขณะลาดตระเวนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
แถลงการณ์ เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ระบุว่า
1. ตามที่เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารพรานที่ 2610 รวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก จังหวัดสุรินทร์ ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นั้น รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตใจของฝ่ายกัมพูชา การกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งขัดต่อหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ และเป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างชัดเจน
2. เหตุการณ์ในครั้งนี้ และเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 สะท้อนความไม่จริงใจของกัมพูชา และเป็นการขัดต่อมาตรการหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในการนี้ ไทยจึงขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที
3. ไทยจะประท้วงไปยังกัมพูชา และประธานอนุสัญญาฯ รวมถึงเลขาธิการสหประชาชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด พิจารณาทบทวนการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ไทยจะพิจารณาดำเนินมาตรการอื่นๆ เพื่อตอบโต้กัมพูชาตามที่เห็นเหมาะสมต่อไป
4. ไทยยืนยันความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ และผิดหวังอย่างยิ่งที่กัมพูชา ซึ่งเคยผ่านเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และแสดงตนเป็นผู้ยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาฯ กลับใช้ทุ่นระเบิดเพื่อสังหารมนุษย์ด้วยกันอย่างไร้มนุษยธรรม และขอเรียกร้องให้ประชาคมอาเซียนซึ่งทำงานบนพื้นฐานของกฎกติกาสากล เรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างจริงจัง และให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นตามมติที่ประชุม GBC สมัยวิสามัญ ข้างต้น พิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนระหว่างการลงพื้นที่ในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองประเทศ