โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ผลประชุม GBC "ไทย-กัมพูชา" เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

Thai PBS

อัพเดต 12 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Thai PBS
ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ผู้แทน 2 ชาติลงนามบันทึกผลการประชุม หวังคลี่คลาย สถานการณ์ชายแดน นำมาซึ่งสันติภาพ

วันนี้ (7 ส.ค.2568) ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย -กัมพูชา สมัยวิสามัญ ฝ่ายไทยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการแทน รมว.กลาโหม เป็นหัวหน้าคณะ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามี พล.อ.เตีย เซฮา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะ อีกทั้งยังมีผู้แทนของมาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย โดยไทยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนไทย และนำกัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจา 2 ฝ่าย ร่วมพิจารณาข้อปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.43 น.ตามเวลาประเทศไทย การประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของฝ่ายไทย ร่วมจัดทำกับฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ ฝ่ายกัมพูชา

จากนั้น พล.อ.ณัฐพล และ พล.อ.เตีย เซฮา รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ร่วมลงนามบันทึกผลการประชุม ซึ่งมีรายละเอียดตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายหารือและตกลงกันตลอด 3 วันที่ผ่านมา ด้วยความหวังให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลาย นำมาซึ่งสันติภาพและการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงไทยสนับสนุนการใช้กลไกทวิภาคี ระหว่างกันในการพูดคุยอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า จากการประชุม ฝ่ายระดับนโยบายของกัมพูชาแสดงความจริงใจต่อการหยุดยิง โดยสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นร่วมกัน ได้แก่

1. ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงยึดมั่นหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมอาวุธทุกประเภท โดยทั้ง 2 ฝ่ายคงกำลังในที่ตั้งเดิมและไม่มีการเสริมกำลังเข้าไปเพิ่มเติม

2. ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ประกอบด้วย ทูตฝ่ายทหารอาเซียนประจำประเทศไทยและกัมพูชา นำโดยทูตทหารจากมาเลเซีย เข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่มีการข้ามแดน

3. ทั้ง 2 ฝ่ายจะหลีกเลี่ยงการกระทำยั่วยุ ทั้งทางทหาร รวมทั้งข้อมูลบิดเบือนหรือข่าวเท็จ

4. ทั้ง 2 ฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหน้าจะเก็บร่างผู้เสียชีวิตคืนประเทศอย่างมีศักดิ์ศรี ส่งกลับเชลยศึกทันทีที่มีการยุติการใช้กำลังระหว่างกันอย่างสมบูรณ์

5. ทั้ง 2 ฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุยและใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่แก้ไขปัญหา หลังจากนี้จะมีการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ และจะมีการประชุม GBC ในอีก 1 เดือนข้างหน้า เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามที่ได้ประชุมในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 2 ประเด็นที่ไทยเสนอ แต่ทางกัมพูชายังไม่ตอบรับและขอนำไปหารือ โดยจะนำกลับมาพูดคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้า ได้แก่ ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยไทยพร้อมให้ความร่วมมือในพื้นที่ปะทะและตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของทั้ง 2 ฝ่าย และ 2.ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ออนไลน์สแกม ที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยและประเทศในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

สิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายหารือและเห็นพ้องร่วมกันจะเกิดผลเป็นรูปธรรมได้ ต้องอาศัยความจริงใจและร่วมมือ ยืนยันฝ่ายไทยจะยึดมั่นให้ความร่วมมืออย่างสุจริตใจและจริงใจบนพื้นฐานการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตามเช่นกัน ไทยและกัมพูชามีพรมแดนติดกันและย้ายหนีจากกันไม่ได้ เป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียน หาก 2 ประเทศแก้ปัญหาได้รวดเร็วจะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติอีกครั้ง

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า การประชุม GBC ในวันนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายได้ลงนามไปแล้ว โดยเป็นกรอบของการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นการลงรายละเอียดตามกรอบดังกล่าว จากนั้นอีก 1 เดือนจะมีการประชุม GBC แต่หากระหว่างนั้นเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ หรือเกิดการปะทะ ก็จะมีการประชุม GBC วิสามัญ เพื่อแก้ปัญหา

ส่วนประชาชนที่มีความประสงค์จะกลับภูมิลำเนา ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสาน ผบ.หน่วยทหารในพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่มีสถานการณ์แตกต่างกัน หากจังหวัดใดมีความพร้อมก็สามารถกลับได้

แต่สิ่งที่ห่วงใยคือ บางชุมชนอาจยังมีกระสุนและจรวดที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาหลงเหลืออยู่ จึงเร่งสำรวจ หากประชาชนพบเห็นขอให้แจ้งทหารและตำรวจในพื้นที่เพื่อทำการเก็บกู้

ทั้งนี้ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป สมัยวิสามัญ ระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชากับราชอาณาจักรไทย ในวันที่ 7 ส.ค.2568 มีทั้งหมด 13 ข้อ

สำหรับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพร้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมี สาระสำคัญ ดังนี้

1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี

2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย

3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา

4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน

5. ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี

6. การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ

7. กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์

8. เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้

8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่

8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์นับจากการประชุม GBC ใน 7 ส.ค. 68

8.3 ดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารโดยตรงระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ

9. งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม

ส่วนที่ 2 กลไกตรวจสอบการหยุดยิง

10. ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามผลหารือเมื่อ 28 ก.ค. 68 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน นำโดยมาเลเซีย

11. เห็นชอบให้ RBC ในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีโดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งนำโดยมาเลเซียเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ โดย RBC จะพบกันเป็นประจำ และส่งรายงานให้ GBC ตามสายการบังคับบัญชาของแต่ละฝ่าย

12. ในระหว่างการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่มีมาเลเซีย เป็นผู้นำ จะใช้กลไกคณะผู้สังเกตการณชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำประเทศไทย และกัมพูชา ทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว

ส่วนที่ 3 การประชุม GBC

13. ให้จัดการประชุม GBC ในหนึ่งเดือนหลัง 7 ส.ค.68 (สถานที่จะตกลงกันภายหลัง) หรือมิเช่นนั้นการประชุม GBC วิสามัญ จะถูกจัดขึ้นเพื่อเจรจาการหยุดยิง

Thailand and Cambodia agree to 13 points of the ceasefire implementation agreement to maintain peace

The Extraordinary Session of the General Border Committee (GBC) Meeting between Thailand and Cambodia has concluded with the two countries agreeing to a 13-point ceasefire implementation agreement.

The key points of the agreement are, as follows:
1. Cease use of all types of weapons, including attacks on civilians, civilian objects, and military objectives in all cases and all areas.

2. Maintain current status of troop deployments, as in effect since 28 July 2015, with no troop movements or patrols toward the other side’s position.

3. Refrain from increasing troops along the entire Thai-Cambodian border.

4. Refrain from provocative actions that may escalate tensions, including military activity entering the other’s airspace and territory or positions as of ceasefire since 28 July 2015, and refrain from constructing military infrastructure beyond their own side.

5. Refrain from using force against civilians or civilian objects in all circumstances.

6. Comply with the Geneva Conventions: Treatment of captured soldiers and transfer of injured persons to medical facilities of the other side, depending on the capacity of the medical facility. Captured soldiers shall be immediately released and repatriated after the cessation of active hostilities. Facilitate the dignified and timely return of the deceased individuals.

7. In the event of an armed conflict, both sides will discuss matters at the local level through existing bilateral mechanisms to prevent the situation from escalating.

8. Agreed to increase the following measures:

8.1 Maintain regular communications between all army areas and military regions and units along the border.

8.2 Convene an RBC meeting within two weeks of the Extraordinary Session of the GBC meeting on 7 August 2025.

8.3 Maintain regular and direct lines of communication between ministers and chiefs-of-defence forces levels.

9. Refrain from disseminating false information or fake news.

Part 2: Ceasefire Observation Arrangement
10. Both sides must implement the common understanding reached on 28 July 2025, including the ceasefire and formation of an ASEAN observer team led by Malaysia.

11. Agreed that RBCs in each area shall implement the ceasefire agreement, coordinated and observed by the ASEAN observer team led by Malaysia. The RBCs will meet regularly and submit reports to the GBC through their respective national chains of command.

12. Pending the establishment of the ASEAN observer team, led by Malaysia, an interim observer team, consisting of defence attaches from ASEAN member countries accredited to Thailand and Cambodia, will be used to observe the impolementation of the ceasefire on either side.

Section 3: GBC Meeting

13. A GBC meeting will be held one month after 7 August 2025 (at a venue to be discussed). Otherwise, an Extraordinary GBC Meeting should be called immediately to discuss the ceasefire.

อ่านข่าว

เริ่มแล้ว การประชุม GBC ไทย - กัมพูชา สมัยวิสามัญ

"พล.อ.ณัฐพล" ขอบคุณทีมไทยแลนด์ ก่อนประชุม GBC บ่ายนี้

"พล.อ.ณัฐพล" นำทีมชุดใหญ่ถก GBC "ไทย-กัมพูชา" ที่มาเลเซีย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thai PBS

วีรกรรม "นักรบชุดดำ" พรานพิฆาต รักษาอธิปไตย "ชายแดนไทย"

14 นาทีที่แล้ว

เปิด 13 ข้อตกลง GBC "ไทย-กัมพูชา" หยุดยิง เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

53 นาทีที่แล้ว

เปิดเกมรุก "ฟ้อง" กัมพูชา "รุกรานไทย" ก่ออาชญากรรมร้ายแรง

55 นาทีที่แล้ว

เติมรักให้กันและกัน "วันแม่แห่งชาติ 2568" ประวัติ-ความสำคัญ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว การเมือง อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ความคิดเห็นมากที่สุด

ดูเพิ่ม