“ณัฐวุฒิ”ลุยดันนิรโทษกรรม-ป้อง”อิ๊งค์”คุย”ฮุน เซน”ไม่ใช่ขายชาติ
"ณัฐวุฒิ" ดันนิรโทษกรรมปี 48-ถึงวันบังคับใช้ กางแผนเพิ่มฐานความผิด-เยียวยาครบทุกกลุ่ม ขณะ ป้อง "แพทองธาร" คุย "ฮุน เซน" ไม่ใช่ขายชาติ ชี้ กัมพูชาอาจเดินเกมหวังปะทะ เตือนคนไทยต้องสามัคคี
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการฯ มีข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับ ช่วงเวลาการนิรโทษกรรม โดยกำหนดให้ครอบคลุมตั้งแต่ปี 2548 จนถึงวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้จริง พร้อมเสนอ ขยายบัญชีแนบท้ายเพิ่มเป็น 25 ฐานความผิด จากเดิม 12 ข้อ เพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยตั้งเป้าพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน
ในวันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน พร้อมทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อเพิ่มเติม ได้แก่ 1.ให้ช่วงเวลานิรโทษกรรมครอบคลุมจนถึงปี 2568 2.เพิ่มฐานความผิดให้ครอบคลุมคดีทางการเมือง 3.รวมคดีเยาวชนตั้งแต่ปี 63 ที่มีผู้ถูกดำเนินคดีกว่า 280 ราย 4.ปรับโครงสร้างคณะกรรมการให้มีตัวแทนภาคประชาชนร่วมด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า หลายข้อเสนอเป็นแนวทางที่ กมธ. เห็นด้วยในหลักการ โดยเฉพาะกรณีเยาวชนและความหลากหลายของกรรมการ ซึ่งจะนำไปพิจารณาเพิ่มเติม พร้อมย้ำว่า กมธ.ชุดนี้มีเป้าหมายชัดเจนในการใช้กฎหมาย นี้เป็นเครื่องมือ คลายความขัดแย้งทางการเมือง และสร้างโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างเท่าเทียม
ส่วนกรณีกลุ่มชายชุดดำปี 53 มองว่า ถึงแม้ศาลจะยกฟ้อง แต่ไม่ได้รับการเยียวยาตามหลักเกณฑ์รัฐบาลในอดีต ถือเป็นอีกประเด็นที่ กมธ.จะนำมาหารือเพื่อแก้ไขให้รอบด้านและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
“เราจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เพื่อให้กฎหมายนี้เป็นจุดเปลี่ยนสู่สังคมที่ยอมรับความแตกต่าง และก้าวข้ามความขัดแย้งได้อย่างแท้จริง”
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ในฐานะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นต่อกรณีคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ตนเชื่อมั่นอย่างบริสุทธิ์ใจว่า ไม่มีเจตนาทำลายชาติหรือยกอธิปไตยให้ต่างชาติ และเนื้อหาการพูดคุยนั้นอยู่บนพื้นฐานของการทูต ไม่ได้ผิดเจตนา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ท่าทีของผู้นำกัมพูชาอาจมีเจตนาสร้างความขัดแย้งตั้งแต่ต้นปี
เช่น การจัดมวลชนร้องเพลงชาติ วางทุ่นระเบิด ฉีกข้อตกลงต่างๆ และมีการเรียกแรงงานกลับล่วงหน้า โดยที่ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เป็นสัญญาณว่าอาจเตรียมการไว้แล้ว
นายณัฐวุฒิ เน้นว่า ความสามัคคีของคนไทยคือหัวใจสำคัญ ในภาวะที่สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด พร้อมเตือนว่า ข่าวลือ ความแตกแยก และการบั่นทอนความน่าเชื่อถือจากภายในประเทศ อาจเป็นเครื่องมือ ที่อีกฝ่ายนำไปใช้โจมตีไทยในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไม่ต้องเชียร์รัฐบาลก็ได้ แต่ต้องร่วมกันเป็นทีมประเทศไทย รัฐบาลและกองทัพแยกกันไม่ได้ เพราะร่วมทำงานภายใต้ ศบ.ทก. อย่างเป็นเอกภาพตั้งแต่ต้น
ในส่วนประเด็นทางจริยธรรม หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า น.ส.แพทองธารมีความผิด แม้ไม่มีเจตนายกอธิปไตย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนเห็นว่า “จริยธรรม” เป็นเรื่องกว้าง และไม่น่าจะเป็นเรื่อง ที่กระบวนการตุลาการมาตัดสินได้โดยตรง แต่ก็เคารพดุลยพินิจของศาล และจะรอผลการพิจารณาโดยไม่ก้าวก่าย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews