กกต.ยื่นศาลฎีกาสั่งถอนสิทธิสมัคร-สิทธิเลือกตั้ง ‘หมอเกศ’ ใช้ ‘ศาสตราจารย์’ หลอกลงคะแนนเลือกเป็นสว.
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. มีรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ไปยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกาขอให้พิจารณาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของน.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 62 ประกอบมาตรา 77 (4) และรัฐธรรมนูญ มาตรา 226 กรณีใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” ในการยื่นสมัครและแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แล้ว
โดยกรณีดังกล่าว กกต.มีมติตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2568 และใช้เวลาเกือบ 3 เดือนจึงจะจัดทำคำวินิจฉัยแล้วเสร็จและเผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล่าช้าและประสิทธิภาพในการทำงาน
อย่างไรก็ตาม หากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัย น.ส.เกศกมล จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.ไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และหากศาลมีคำพิพากษายืนตามที่ กกต.เสนอ จะมีโทษตาม มาตรา 77 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำการ (4) หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี.