โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

รอบนี้เผาจริง

ไทยโพสต์

อัพเดต 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 4.30 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สงครามภาษีช่างน่ากลัวจริงๆ ครับ

น่ากลัวตรงท่าทีที่ก้าวร้าวของ “โดนัลด์ ทรัมป์”

และท่าทีการมองประเทศไทยของทรัมป์

ทุกชาติในโลกมองการเปิดสงครามภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ต่างจากมนุษย์ยุคหิน ตีหัวสาวลากเข้าถ้ำปล้ำทำเมีย ไม่มีใครกล้าหือกล้าอือ

ยกเว้นจีน!

แต่ก็สู้กันเลือดซิบๆ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างถอยรอดูท่าที

ส่วนประเทศเล็กๆ นอกจากเสียเปรียบแล้วยังถูกหยามเกียรติ

“ทรัมป์” ทำเหมือนไม่อยู่ในสายตา

หนังสือจาก “ทรัมป์” ถึงประเทศไทย ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวาง ว่าเป็นเจตนาหรือสะเพร่า บกพร่องทางการทูต

คุยกันเรื่องสงครามภาษี แต่ "ทรัมป์" ส่งถึง “ในหลวง”

อีกฉบับแทนที่จะส่งถึง “ภูมิธรรม” กลับส่งถึง “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ”

สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยทำอะไรอยู่

มีอะไรซ่อนอยู่มากกว่าที่คิดครับ!

โพสต์ของ ผศ. ดร.ธีรศานต์ สหัสสพาศน์ ผู้อำนวยการหลักสูตร DNA by SPU และอาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ ม.ศรีปทุม วิจารณ์ประเด็นนี้ได้ลึกซึ้งมาก

"…'ไทย-อเมริกา' ศึกนี้ไม่ใช่แค่เรื่องภาษี แต่มันคือเรื่องศักดิ์ศรี และสิทธิ์ในการ 'เปิดโต๊ะเจรจา'

จดหมายจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งตรงมาถึงประเทศไทย เนื้อหาที่ว่า 'You will never be disappointed with The United States of America.' เนื้อหาอาจจะไม่ได้อยู่ที่เนื้อใน แต่นัยที่ให้ความสำคัญอาจจะอยู่ที่คำขึ้นต้นและลงท้าย

ด้วยการส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพระเจ้าอยู่หัวด้วยตัวสะกดเช่นนี้Maha Vajiralongkorn Phra Vajiraklaochaoyuhua, King of Thailand แต่เซ็นชื่อ DONALD J. TRUMP ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ทุกตัวอักษร

ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านั้น จ.ม.อีกฉบับที่ส่งถึงActing Prime Minister of Thailand ลงวันที่ ๗ ก.ค. ๒๐๒๕ ยังเป็นชื่อท่านสุริยะ ทั้งที่ ณ เวลานั้น ได้มอบให้ท่านภูมิธรรมเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย

ตรงนี้ต้องเกิดคำถามแล้วว่าTrump ให้ความสำคัญกับประเทศไทยแค่ไหนกันเชียว

เพราะแค่พิธีทางการทูต เช่น การเขียนหัวจดหมายถึงประมุขของประเทศเช่นนั้น และใส่ชื่อรักษาการนายกฯ ผิด ก็สะท้อนได้ชัดอย่างไม่ต้องคิดอะไร ไม่นับว่าระดับภาษาที่ใช้ใน จ.ม.ทั้ง ๒ ฉบับ เหมือนกันชนิดที่เรียกว่าcopy and paste

ดังนั้น ในเชิงการทูต นี่ไม่ใช่แค่ 'การสื่อสาร' แต่มันกำหนดจุดยืนบนเวทีโลก นั่นคือ Statement of Power ว่า 'ข้าคือผู้นำประเทศที่เจรจาจากจุดที่เหนือกว่า'

และหากจะอ่านหมากนี้ในแบบนักยุทธศาสตร์ นี่ไม่ใช่แค่จดหมายทั่วไป แต่มันคือ 'Invitation to Surrender in Style.'

เจตนารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในอัตราภาษี ๓๖% ไม่ใช่กลไกทางเศรษฐศาสตร์ หรือการจัดระบบงบดุลของสหรัฐอเมริกา แต่คือการDowngrade ประเทศไทยผ่านวาทกรรมการต่อรองว่าให้ 'เปิดตลาด' ตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๐๒๕ สหรัฐจะเก็บภาษีสินค้าจากไทยทุกหมวดที่ส่งเข้าอเมริกาในอัตรา ๓๖%

ซึ่งแม้จะฟังดู 'เยอะ' เมื่อเทียบกับประเทศในตารางเดียวกัน แต่ถ้ามองให้ลึกจะเห็นว่าเขา 'ตั้งให้ต่ำกว่าที่ควร' ตามคำในจดหมายว่า 'Please understand that the 36% number is far less than what is needed to eliminate the Trade Deficit disparity we have with your Country.'

แปลว่า นี่ไม่ใช่ดีลที่ดีที่สุด แต่มันคือพาสเวิร์ด ที่จะพาเราเข้าไปนั่งที่โต๊ะเจรจา พร้อมนัยที่ซ่อนซ้อนกันไว้ว่า 'ถ้าจะคุย มาคุยตอนนี้' 'ถ้าจะเสนอ เสนอตอนนี้' 'ถ้ายังคิดว่าสหรัฐต้องพึ่งไทย คิดใหม่'

ในเกมนี้ ประเทศไทยไม่ได้แพ้เพราะตัวเลขภาษีที่เพิ่มขึ้น แต่แพ้เพราะ 'ไม่มีโต๊ะ' ให้เจรจา หรือต่อให้มีโต๊ะ ก็ไม่มีแม้แต่คนหรือเรื่องไปเจรจา

ลองดูเวียดนาม ประเทศคู่แข่งของไทยโดยตรงในตลาดส่งออกสหรัฐ ที่เจรจาจบแล้วภาษีอยู่แค่ ๒๐% หรือแม้แต่มาเลเซีย ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันยังถูกเก็บแค่ ๒๕% นี่ไม่ใช่เพราะเขาส่งออกเยอะน้อยกว่ากันมากนัก แต่มันคือเพราะเขามี 'ดีล' ที่ชัด และมีคน 'กล้าเดินเข้าห้องเจรจา' พร้อมของบางอย่างบนโต๊ะ

ขณะที่ไทย แม้จะมีความพยายามหลายรอบที่จะเจรจาอย่างเป็นกิจจะลักษณะในช่วงก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่มีสัญญาณใดจากสหรัฐว่า 'ข้อเสนอที่ไทยยื่นไป' ได้รับการตอบรับ ดังนั้น จดหมายฉบับนี้คือคำว่า 'ปฏิเสธ' ในรูปแบบสุภาพแต่เย็นชา และแฝงคำว่า 'เจอกันใหม่ ถ้ามีอะไรที่ดีกว่าเดิมมาเสนอ'

นี่ไม่ใช่การบังคับให้เปิดตลาด แต่คือการ 'เปิดจุดอ่อน' ของเราให้เราเห็น ทรัมป์ไม่เคยอ้อมค้อม เขาบอกตรงๆ ว่า 'ถ้าไทยขึ้นภาษีตอบโต้ เราก็จะบวกเพิ่มจาก ๓๖% ทันที' แต่ก็เปิดเงื่อนไขว่า 'หากไทยเปิดตลาดที่เคยปิดมาก่อนหน้านี้ และยกเลิกกำแพงภาษี นโยบายที่ไม่เป็นธรรม เราอาจพิจารณาปรับอัตรานี้ลง'

แปลว่าหากเรายังรักษา 'ตลาดปิด' บางอย่างไว้ (ทั้งที่รู้ว่าอีกฝั่งรอแค่จะเอามาใช้ในเกมเจรจา) เราจะถูก 'โยกจุดอ่อน' จนไม่มีไพ่เล่น และการเจรจาครั้งถัดไป เราอาจไม่มีสิทธิ์ 'ตั้งเงื่อนไข' ใดอีกเลย

จุดที่แสบที่สุดไม่ใช่ตัวเลข แต่คือ 'น้ำเสียงของผู้ชนะ' ข้อความที่ว่า 'You will never be disappointed with The United States of America.' ไม่ใช่คำปลอบ แต่มันคือคำประกาศว่า 'ถ้าเล่นตามเกมเรา จะได้สิ่งที่ดีที่สุด'

และถ้าอ่านจากโทนของทั้งสองหน้า (2 pages letter ทางจำนวน) นี่คือจดหมายสองหน้า (2 faced letter ทางการแสดงออก) ที่สื่อสารในเชิงข่ม แต่จบอย่างสุภาพ เพื่อไม่ให้เรามีข้ออ้าง มันคือการยื่นมือออกมา แล้วให้เรามีสิทธิ์เลือกแค่ว่าจะจับ หรือให้เขากำหมัดแล้วต่อย

ไทยต้องคิดใหม่ว่าเรามี 'อะไร' ไปเจรจา เพราะ

๑.ตลาดภายในบางกลุ่มยังไม่พร้อมส่งออกตามเงื่อนไขระหว่างประเทศ

๒.สิทธิพิเศษด้านการลงทุนดิจิทัล ที่ยังไม่เคยเปิดให้ใคร?

๓.ช่องว่างของความร่วมมือทางเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ที่เชื่อมกับความต้องการของสหรัฐ

คำถามไม่ใช่แค่ว่า 'เราจะยอมไหม' แต่คือ 'เรายอมแลกอะไร เพื่อรักษาโอกาสในตลาดใหญ่ที่สุดในโลก?' เพราะวันนี้สิ่งที่สหรัฐต้องการ ไม่ใช่แค่ให้ไทยลดภาษี แต่คือ 'การเคลื่อนตัวในเชิงโครงสร้าง' ที่จะสะท้อนว่าไทยไม่ใช่แค่ประเทศคู่ค้า แต่คือพันธมิตรที่รู้จักเล่นในเกมที่เปลี่ยนไป

สภาวะเช่นนี้ ไทยเสมือนไร้ทางเลือกขนาดที่คายก็ไม่ได้ แต่จะให้กลืนก็ไม่เข้า เกมนี้สหรัฐไม่เพียงขยับกระดานเจรจา แต่กลับเขียนกติกาใหม่ เพราะสิ่งที่ประเทศไทยได้รับ ไม่ใช่แค่ 'จดหมาย' แต่มันคือ หมากกลยุทธ์ที่สะท้อนว่า ใครคุมเกม และใครต้องรีบตัดสินใจ

ไทยจะยอมเสียภาษี ๓๖% หรือจะยอมเปิดบางส่วนของตลาดภายใน ทั้งสองทาง 'ต้องยอม' อะไรบางอย่าง

คำถามคือ จะยอมในจังหวะที่เรายังต่อรองได้ หรือจะยอมเมื่อหมดสิทธิ์แม้แต่จะนั่งโต๊ะ เกมนี้จบไปอีกยกแต่ยังเปิดกระดานให้เจรจาใหม่ ถ้าเรากล้า 'คิดใหม่ เล่นใหม่ แลกใหม่' "

ครับ…ไม่ทราบทีมไทยแลนด์ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ ตีเจตนาในจดหมายของ “ทรัมป์” แตกหรือเปล่า แต่ที่ไปเจรจามาถือว่าสอบตก

มันไม่ง่ายครับเพราะมีสิ่งต้องเอาไปแลก

แต่…รัฐบาลไทยยังง่วนอยู่กับการทะเลาะกับเขมร และต้องเอาตัวเองให้รอดอยู่

หนักใจครับ ประเทศต้องมาเจอวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่รัฐบาลมีปัญหาวิกฤตศรัทธา

เจรจารอบหน้าหากยังจบที่ ๓๖% ประชาชนคนไทยเตรียมรับแรงกระแทกครับ

รอบนี้เผาจริง.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ลูกสาวข้าต้องไม่ผิด?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ใช้คำไทยผิดชีวิต รมต.เปลี่ยน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความยอดนิยม