3 โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน
#ทันหุ้น-บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีต่างตอบแทน 1 ส.ค. นี้ อังกฤษได้รับอัตราภาษีที่ผ่อนปรนลง (ไม่เปิดเผยตัวเลข) และเวียดนามยอมไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ แต่ยังถูกเก็บภาษี 20% จากสหรัฐฯ และอาจเพิ่มเป็น 40% ในสินค้าที่ส่งผ่านจากจีน ฟากจีนลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าชั่วคราวสหรัฐฯ ลดภาษีสินค้าจีนจาก 145% เหลือ 30% จีนลดภาษีสินค้าสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10%ข้อตกลงนี้กำลังสิ้นสุด 9 ก.ค. นี้ หากทั่วโลกถูกใช้ภาษีต็มรูปแบบ GDP โลกอาจชะลอตัวลง 0.5–1.2%
-เมื่อคืนที่ผ่านมานายพิชัย รมว. คลัง ส่งข้อเสนอที่มีการปรับปรุงใหม่สำหรับเจรจาภาษีไปยังสหรัฐฯ แล้ว ลุ้นการขยายเส้นตายไปจนถึง 1 ส.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดช่องให้ประเทศที่แสดงความร่วมมือ เช่น อินเดีย ไทย และ EU อาจได้รับการผ่อนปรนเพิ่มเติม และไทยไม่น่าจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่สหรัฐฯ เตรียมส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีตอบโต้ 12 ประเทศ แม้คาดอัตราภาษีจะลดลงจากเดิมที่จะโดนเรียกเก็บ 36% แต่ตัวเลขจะได้ที่ 18% หรือไม่ ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา กรณีอิงเวียดนามที่สามารถตกลงได้ที่ 20% หากอัตราภาษีที่ไทยโดนสูงกว่า 18% จะกระทบต่อกลุ่มสินค้าที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เช่น หุ้น HANA และ KCE ที่มีสัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ สูง กลุ่มโลจิสติกส์และขนส่งได้แก่หุ้น AOT, PSL, RCL, WICE และ SJWD เกษตร-อาหารส่งออกได้แก่หุ้น COCOCO, CPF, GFPT, TU, TFG, CFRESH, ASIAN รวมทั้ง SCGP
-สนค. รายงานเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ลดลง -0.25%YoY ลดมากกว่าตลาดฯ คาดที่ -0.1% สาเหตุหลักจากการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า และราคาสินค้ากลุ่มอาหารสดลดลงแต่ Core CPI เพิ่มขึ้น 1.06%YoY ต่ำกว่ากรอบเงินเฟ้อเป้าหมายของ ธปท. ช่วง 1-3% เพิ่มแรงกดดันให้ กนง. พิจารณาปรับลดดอกเบี้ย บวกต่อ Non-bank อสังหาฯ ค้าปลีก Domestic Play
-SET INDEX บ่ายนี้คาดวิ่งระหว่าง 1,105-1,120 จุด
บล.เอเอสแอล ระบุว่าดัชนีช่วงเช้าปรับตัวลง รับปัจจัยลบจากการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ โดยในการเจรจารอบแรกไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ โดยหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันตามเส้นตาย 9 ก.ค.นี้ โดยอุตสาหกรรมส่งออกไทยอาจได้รับผลกระทบรุนแรง และหากถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้เกิน 20% ไทยจะเสียความสามารถในการแข่งขัน หลังเวียดนามบรรลุข้อตกลงภาษี 18%
นอกจากนี้สหรัฐวางแผนจำกัดการส่งออกชิป AI จาก Nvidia มาไทยเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกลอบนำส่งไปจีน ส่งผลลบต่อกลุ่มนิคม และอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงกว่า 1% มาอยู่ที่ระดับ 66.09 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าคาด ทำให้มีแรงขายกลุ่มพลังงานลงมา
กลยุทธ์การลงทุนดัชนีเปิดปรับตัวลงหลุด SMA 5 วันลงมาเป็นสัญญาณลบ ระยะสั้นทดสอบยืน 1,105-1,110 จุดไม่ควรต่ำกว่าเพื่อลดความเสี่ยงการปรับตัวลงต่อ
บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐยังไม่ชัดเจน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อไทยที่หดตัว -0.25% ทำให้ตลาด กังวลเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยช่วงบ่ายดัชนีมีแนวรับ 1,105จุด ส่วนแนวต้าน 1,120 จุด
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้าดัชนีปรับตัวลง เนื่องจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและไทยที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์เผยดัชนีเงินเฟ้อไทย หดตัวเดือนที่ 3 ติด เป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติม มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่ม Big-Capอาทิ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน และอสังหาฯ ส่งผลให้ดัชนีพักเที่ยงปิดตลาดที่ 1,111.46 จุด ลบ 8.48 จุด หรือ 0.76% มีมูลค่าการซื้อขาย 16,047.08 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้