MUFG-กรุงศรีฯ ชี้ภาษีสหรัฐไม่กระทบการลงทุน FDI แนะไทยใช้โอกาสนี้ปรับตัว
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และบริษัทแม่ MUFG เผยไทยยังเป็นตลาดหลักและสำคัญ ระบุรายได้ 45% ของเอเชีย ครึ่งหนึ่งมาจากไทย ชี้นโยบายภาษีสหรัฐไม่กระทบการตัดสินใจลงทุน-FDI เชื่อไทยมีอุตสาหกรรมหลากหลาย เร่งใช้จังหวะนี้ปรับตัว ด้านกรุงศรีฯ เดินหน้าปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน หลังตั้งเป้าปล่อยกู้ 2.5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 ย้ำธุรกิจให้ความสนใจแห่กู้แล้ว 2.2 แสนล้านบาท
นายคาเนทสุกุ มิเกะ ประธานกรรมการ MUFG กล่าวว่า แผนกลยุทธ์การเติบโตในระยะกลางของ MUFG ยังคงยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงเป็นตลาดหลักและเป็นประเทศสำคัญของการเติบโตผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะเห็นว่าการเติบโตประมาณ 60% ของ MUFG มาจากนอกประเทศ
ซึ่งในจำนวนดังกล่าวราว 45% มาจากอาเซียน และในสัดส่วน 45% ประมาณครึ่งหนึ่งมาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดังนั้น ไทยยังคงเป็นตลาดสำคัญของการเติบโต แม้ว่าจะมีปัจจัยความท้าทาย ทั้งเรื่องหนี้ครัวเรือน ปัญหาสังคมสูงวัย (Aging Society) และการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว
ดังนั้น ภายใต้การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว กลยุทธ์ของ MUFG จะไม่ได้เน้นแค่เพียงเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับธุรกิจที่ปล่อยก๊าชเรือนกระจก แต่จะเน้นการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นไปสู่การปล่อยก๊าชเรือนกระจกเป็นศูนย์ เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ (Climate Change) ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน ดังนั้น นโยบายจะต้องปรับเปลี่ยนไปให้สอดคล้องแต่ละประเทศ เพื่อสนับสนุนลูกค้าไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว
นอกจากนี้ ยังมีคนอีกจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นโอกาสในการนำ Digital Transformation มาช่วยและพร้อมสนับสนุนสินเชื่อโครงการในการลงทุนระยะยาว (Project Finance) เช่น การลงทุน Data Center หรือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI)
อย่างไรก็ดี ส่วนผลกระทบจากนโยบายภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐ (Reciprocal Tariffs) มองว่าภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่จะมีผบค่อโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยมองเห็นโอกาสดังกล่าวที่ MUFG จะใช้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ และจุดแข็งทางด้านเครือข่ายสาขาในการช่วยลูกค้ามองหาโอกาสในการควบรวมกิจกิจการ (M&A) หรือจับคู่ธุรกิจ โดยช่วยเหลือลูกค้าในด้านข้อมูล เพื่อเปิดโอกาสสู่ธุรกิจใหม่ ๆ แม้ว่าจะมีความท้าทายในเรื่องของนโนบายภาษีก็ตาม
ขณะที่ผลต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) นั้น มองว่านักลงทุนจะพิจารณาจากนโยบายอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในการตัดสินใจที่จะลงทุนมากกว่านโยบายภาษีของสหรัฐ ประกอบกับอัตราที่ 19% ของไทย จะเห็นว่าไม่ได้แตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศคู่ค้ามาก จึงไม่ได้เสียเปรียบ และปัจจัยการตัดสินใจลงทุนจะเป็นเรื่องของนโนบายจากภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก
“เศรษฐกิจไทยแม้ว่าตัวเลขจะดูแย่ แต่เรามีจุดแข็งในเรื่องของอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย ไทยจึงควรใช้จังหวะนี้ในการปรับโครงสร้างการผลิต โครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศไทยในตอนนี้”
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน (ESG) โดยเปรียบเหมือน DNA ของธนาคาร ซึ่งธนาคารตั้งเป้า “ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์“ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2573 ซึ่งในปี 2567 ธนาคารสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 9-10% จากความร่วมมือทางด้านต่าง ๆ เช่น การใช้รถยนต์อีวี การติดตั้งโซลาร์ที่สาขาธนาคาร เป็นต้น
ส่วนทางด้านการปล่อยสินเชื่อ ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยื่นภายในปี 2573 จำนวน 2.5 แสนล้านบาท แต่ปัจจุบันสามารถปล่อยไปได้แล้วกว่า 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับผลตอบรับจากลูกค้าและธุรกิจค่อนข้างดี เช่น กลุ่มยานยนต์ พลังงาน ขนส่ง เคมีภัณฑ์ และประมง ซึ่งปล่อยผ่านสินเชื่อสีนำเงิน (Blue Loan) อย่างไรก็ดี ธนาคารยังไม่ได้มีการปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
“เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กรุงศรีมุ่งเน้นการเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจหลัก (Core Banking) เร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล สนับสนุนวัฒนธรรมเชิงนวัตกรรม และดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน“
นายเคนอิจิกล่าวอีกว่า ธนาคารมุ่งมั่นที่จะเป็นธนาคารพันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจ พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงผ่านการดำเนินงานใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1.การเชื่อมโยงกลยุทธ์และความร่วมมือ: ขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายสำคัญของประเทศไทย พร้อมใช้ประโยชน์จากเครือข่ายระดับโลกของ MUFG เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาโซลูชั่นทางการเงิน ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการขยายความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับลูกค้าทั่วทั้งอาเซียน
2.นวัตกรรมดิจิทัล: ยกระดับขีดความสามารถให้เหนือกว่าการให้บริการทางการเงินแบบดั้งเดิม ด้วยการลงทุนในโซลูชันดิจิทัล และเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ควบคู่กับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบด้าน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านและการเติบโตของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
3.พันธกิจด้านความยั่งยืน: บูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจพร้อมส่งเสริมสังคมที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของประชาชน
“ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของธนาคารกรุงศรีสะท้อนถึงเส้นทางการเติบโตของเราตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายสู่การเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย และให้บริการลูกค้ากว่า 19 ล้านรายทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : MUFG-กรุงศรีฯ ชี้ภาษีสหรัฐไม่กระทบการลงทุน FDI แนะไทยใช้โอกาสนี้ปรับตัว
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net