ตร.เผย 5 พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็น สายลับ ปชช.ร่วมกันเป็นหูเป็นตา
27 กรกฎาคม 2568 รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ เผยถึงความกังวลของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีเบาะแสว่าอาจมีผู้ไม่หวังดีลักลอบส่งข้อมูลลับของฝ่ายไทยให้กับต่างชาติ สร้างความเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ภาคสนามและกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
เพื่อรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าว ตำรวจจึงออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวัง 5 พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายเป็น สายลับ พร้อมขอความร่วมมือแจ้งเบาะแสหากพบสิ่งผิดปกติ
เปิด 5 สัญญาณเสี่ยง เข้าข่ายกิจกรรมสายลับ
1. แอบเก็บข้อมูลยุทธศาสตร์
การลักลอบถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอบริเวณฐานทัพ จุดส่งกำลัง หรือพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ถือเป็นพฤติกรรมผิดสังเกตที่ต้องจับตา
2. ติดตามความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่
มีพฤติกรรมสอดส่องความเคลื่อนไหว เช่น การเคลื่อนกำลัง การติดตั้งยุทโธปกรณ์ หรือการจัดวางกำลังพล
3. เดินทางเข้าออกพื้นที่โดยไม่ชัดเจน
พบบุคคลเข้าใกล้พื้นที่ปฏิบัติการบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน หรือแสดงพฤติกรรมที่ดูไม่ปกติ เช่น การวนเวียนสำรวจพื้นที่แบบไร้จุดหมาย
4. บุกรุกพื้นที่หวงห้าม
การปรากฏตัวในบริเวณที่ประกาศอพยพ หรือการเข้า-ออกพื้นที่ในเวลาผิดปกติ เช่น ยามวิกาล โดยไม่มีสิทธิ์หรือเหตุผลที่สมควร
5. ครอบครองอุปกรณ์ต้องสงสัย
เช่น กล้องซูมระยะไกล แผนที่ทางทหาร อุปกรณ์ระบุตำแหน่ง GPS หรือเอกสารที่มีลักษณะทางยุทธศาสตร์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติย้ำว่า การกระทำลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีบทลงโทษรุนแรงที่สุดถึงขั้นประหารชีวิต
หากประชาชนพบเห็นบุคคลหรือพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจารกรรมข้อมูลหรือกิจกรรมที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือโทรแจ้งที่สายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง