CPF ยัน! ภาษีสหรัฐ 36% ไม่กระทบธุรกิจ แนะรัฐหามาตรการช่วยเอกชนส่งออก
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า บริษัทขอยืนยันได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ไม่มากนัก เนื่องจาก CPF มีการส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯ มูลค่าเพียงแค่ปีละ 800 ล้านบาท อีกทั้ง CPF ได้มีการขยายการลงทุนไปในสหรัฐอเมริกามานานกว่า 10 ปีแล้ว มีฐานการผลิตในประเทศอยู่แล้ว แต่บริษัทต้องรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้าวัตถุดิบไปยังสหรัฐฯ บางรายการที่ปรับสูงขึ้น
ขณะที่มุมมองส่วนตัวต่อภาพรวมธุรกิจในไทยเกี่ยวกับภาษีสหรัฐฯ ดังกล่าว เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อธุรกิจเอกชนค่อนข้างมาก และเรื่องนี้คงมีความไม่แน่นอนต่อไปอีกระยะหนึ่ง รัฐบาลควรเข้ามาช่วยเหลือภาคเอกชนจากผลกระทบระยะสั้นของการปรับขึ้นภาษี เช่น ผลกระทบขั้นต่ำต่ออัตราภาษีที่เพิ่มขึ้น มีกี่เซกเตอร์ที่ได้รับผลกระทบ และรัฐควรมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือในระยะสั้นอย่างไร เช่น เงินกู้เพื่อช่วยเหลือเฉพาะกิจ ส่วนระยะยาวรัฐควรมาดูแลแนวทางในการลดต้นทุนการผลิตของภาคเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารให้สามารถแข่งขันได้ โดยอาจใช้กลไกการลงทุน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิต
นอกจากนี้ CPF ยังได้เสนอแนะว่าประเทศไทยควรส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงและขยายตลาด ซึ่งหลักการคือ ผู้ประกอบการไทยจะไปลงทุนสร้างประโยชน์อะไรในประเทศนั้น ตลาดนั้นใหญ่พอหรือไม่ และที่สำคัญควรมีพันธมิตรทางธุรกิจที่เข้มแข็งในประเทศปลายทาง โดยภาครัฐควรมีบทบาทในการช่วยเจรจาหาพันธมิตรที่เหมาะสม และสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาดต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ควรออกมาตรการส่งเสริมการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ