ชวนโหวตสุดยอดเมนู ‘อาหารถิ่น’ 77 จังหวัด
เปิดให้โหวตแล้ว “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ประจำปี 2568 มีเมนูอาหารถิ่นมากกว่า 231 เมนูจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยผ่านเข้ารอบสุดท้ายให้คนไทยลงคะแนนโหวตทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ ร่วมเฟ้นหาเมนูเด็ด เมนูในดวงใจ เมนูเด่นประจำถิ่น เมนูลับๆ ที่จะเป็นอันดับหนึ่งของแต่ละจังหวัด จัดโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ซึ่งปีที่ผ่านมา สุดยอดเมนูอาหารถิ่นได้รับความสนใจจากนักชิม ผู้หลงใหลในอาหารท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวตามรอยไปลิ้มลองอาหารถิ่น อาหารแปลกเมนูเด็ดจากภูมิปัญญาชาวบ้านของจังหวัดต่างๆ อย่างคึกคัก
นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ขับเคลื่อน “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว เพราะว่าอาหารเป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญอย่างหนึ่งของคน สะท้อนความคิด วิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ รวมถึงอาหารไทยถิ่นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น อาหารไทยเป็นยา เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะมีวัตถุดิบสมุนไพรต่างๆ แฝงอยู่ทั้งในสำรับและวิถีการกิน ดังนั้น จึงสามารถชูอัตลักษณ์วัฒนธรรมผ่านอาหารท้องถิ่นได้อย่างทรงคุณค่า นำไปสู่การสร้างโอกาส ให้เกิดการส่งเสริมอาหารถิ่นที่กำลังจะเลือนหายไป เกิดการสร้างสรรค์ ผลักดันและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ด้วย
“ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น สวธ.ได้ติดตามผลการดำเนินการและได้รับทราบเสียงสะท้อนจากจังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องว่า เมนูอาหารถิ่นที่ได้ประกาศเป็นรสชาติที่หายไปได้รับความสนใจและความนิยมมาก สร้างรายได้ให้ระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด มีคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเดินทางตามไปชิม ไปซื้อ บางเมนูสามารถต่อยอดไปสู่การทำธุรกิจแล้ว เช่น ก๊กซิมบี้ อาหารพื้นถิ่นโบราณ ของ จ.ระนอง ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเมนูประจำจังหวัดระนอง ปี 2566 มีลักษณะเป็นซุปร้อนๆ คล้ายกระเพาะปลา มีสมุนไพรจีนดีต่อสุขภาพ มีการพัฒนาต่อยอดเป็นอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งจำหน่ายในห้าง สร้างงาน สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการด้านอาหาร ถือเป็นโมเดลให้กับจังหวัดอื่นๆ ด้านสังคมตื่นตัวรักษาอาหารถิ่น เห็นได้จากการทำคอนเทนท์ของอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย รายการโทรทัศน์ที่เสนอเมนูอาหารถิ่นหาทานยากมีผู้ชมสนใจติดตามชม ทางจังหวัดเองได้รับการติดต่อให้ไปออกร้านจำหน่ายอาหารถิ่นทั้งในห้างและงานอีเว้นท์ต่างๆ รวมถึงประชาชนสอบถามถึงการโหวตอาหารถิ่นในปีนี้เข้ามามากมาย “ นางยุถิกาเผยกระแสตอบรับดี
ปีนี้ 1 จังหวัด 1 เมนู กระบวนการสรรหาเมนู “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” มีขั้นตอนเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยมีคณะกรรมการ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารและเชฟที่มีชื่อเสียงร่วมกลั่นกรองและคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1.ด้านอัตลักษณ์และภูมิปัญญา 2.ความเสี่ยงต่อการสูญหาย 3. ด้านวัตถุดิบท้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม 4.ด้านการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 5.ด้านโภชนาการ นำมาสู่เมนูอาหารถิ่นแต่ละจังหวัดที่มีคุณค่าเปิดให้โหวต
สำหรับความพิเศษในปี 2568 นางยุถิกา กล่าวว่า สวธ.มุ่งเน้นขับเคลื่อนร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการด้วยตระหนักถึงการหาแนวทางในการตอบโจทย์ความต้องการเข้าถึงเมนูอาหาร “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ได้ง่ายและกว้างขวางยิ่งขึ้นตามความต้องการของประชาชนผู้สนใจและนักท่องเที่ยวที่อยากจะสัมผัสประสบการณ์พิเศษในการลิ้มลองรสชาติดั้งเดิมที่ใกล้สูญหาย เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และมีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวเนื่องกับท้องถิ่น รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรเครือข่าย เช่น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ส่งเสริมการใช้เมนูอาหารถิ่นที่ดีต่อสุขภาพเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม
เปิดโหวตเพียงวันแรกกระแสตอบรับดี แต่ละจังหวัดตามมากดปุ่มรักเลย,ฮ่าๆ,ว้าว เมนูที่ชื่นชอบที่ Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม คึกคัก อธิบดี สวธ.กล่าวว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงสำคัญของโครงการ เพราะอยู่ในช่วงเวลาของการเปิดรับโหวต เมนูอาหารถิ่นที่ชื่นชอบจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ทุกจังหวัดจะมีเมนูอาหารถิ่นผ่านการคัดเลือก 3 เมนู ให้โหวตเมนูที่ชื่นชอบได้ 1 เมนูเท่านั้น เมนูที่ได้รับคะแนนสูงสุดจากการโหวตรวมกับคะแนนจากจังหวัดจะได้รับการยกย่องเป็น 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปี 2568 หากโหวตจังหวัดตัวเองเรียบร้อยแล้ว สามารถโหวตจังหวัดอื่นๆ ที่สนใจได้ด้วย ร่วมโหวตได้ตั้งแต่วันที่ 17-31 ก.ค. 2568 เมื่อได้ผลการโหวตได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้ว คาดว่า จะประกาศผลภายในต้นเดือน ส.ค.นี้
“ หลังประกาศผลจะจัดกิจกรรมใหญ่รวบรวมเมนูทั้งหมดจาก 77 จังหวัด ที่ได้รับการโหวตสูงสุดเป็น 1จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น พร้อมเปิดตัวให้ผู้สนใจได้ร่วมชมได้ชิมรสชาติอย่างใกล้ชิดในงานไทยฟุ้ง ปรุงไทย ณ พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ ใจกลางกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 12- 14 กันยายนนี้ ซึ่งปีที่แล้วผู้สนใจร่วมงานคึกคึก ผู้ประกอบการด้านอาหารก็ปลื้ม กระแสตอบรับดี เตรียมตัวไปชิมอาหารพื้นถิ่นรสชาติที่หายไป “ นางยุถิกา กล่าวทิ้งท้าย พร้อมเชิญชวนประชาชนในแต่ละจังหวัดมาร่วมโหวตอาหารถิ่นที่ชื่นชอบกันเยอะๆ แสดงพลังรักษามรดกภูมิปัญญาและอัตลักษณ์ความเป็นไทย