เจาะลึกสาวสู้ชีวิต “อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง” จากเด็กกำพร้าทำงานเสิร์ฟ250บาท สู่นางเอกหมอลำเงินล้าน
เจาะลึกสาวสู้ชีวิต "อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง" จากเด็กกำพร้าทำงานเสิร์ฟ250บาท สู่นางเอกหมอลำเงินล้าน
มาแรงแซงทางโค้งมากๆ นางเอกหมอลำคนงาม"อ๋อมแอ๋ม เพชรบ้านแพง" ขยับตัวมาแจ้งเกิดรับบทเด่น "อีแหวว" ในภาพยนตร์ฟอร์มดีของถิ่นอีสาน "คายอ้อ" ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงมากๆ กับลีลาการแสดงภาพยนตร์ที่แซ่บถึงใจ ทำเอาพ่อยกแม่ยกอวยยศขอสืบประวัติกันฉ่ำๆ งานนี้โดดมาพูดคุยเล่าเบื้องหลังผ่านรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" ช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข23 กับพิธีกรตัวแม่ "พี่หนูแหม่ม สุริวิภา" กว่าจะประสบความสำเร็จถึงฝั่งฝัน เธอต้องสู้มาสุดใจกับการเกิดเป็นเด็กกำพร้า หาเลี้ยงตัวเอง ครบถ้วนทุกความลำบาก
ชีวิตผ่านอะไรมาเยอะมาก กว่าจะได้มาเป็นนางเอกหมอลำในวง?
"พอมาทำตรงนี้มันคือหมอลำหมู่ หมอลำวงใหญ่ ที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันหลายๆแผนก เกือบ300ชีวิตในวง หนูต้องเข้างาม3ทุ่ม เลิกงาน6โมงเช้าทุกวัน ตอนแรกโดนคำสบประมาทเยอะมากๆ นางเอกใหม่อยู่ได้ไม่เกินเดือนสองเดือนหรอก เดี๋ยวก็ถอดใจออกไป เพราะว่ามันลำบากมาก ลุคที่คนเค้ามองเราเค้ามองว่าเราไม่น่าจะรับความลำบากได้ ไปนอนกลางดินกินกลางทรายห้องน้ำห้องท่าลำบาก กับการจะมาเป็นหมอลำทุกคนสบประมาทหนูเยอะมาก แต่มาวันนี้ผ่านมา3ปีแล้วหนูได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าหนูทำได้ หนูสามารถอยู่ได้ถ้าเราทำงานด้วยความรักมันก็ไปได้"
อะไรที่ทำให้เราฮึดสู้อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้?
"ก็คืออีกหนึ่งสิ่งคือจิตวิญญาณค่ะ จิตวิญญาณในการเป็นลูกอีสานเฮา อยากจะอนุรักษ์สืบสานศิลปะวัฒนธรรม อีกอย่างหนึ่งคือเราเป็นลูกกำพร้า พ่อแม่หนูไม่มี หนูหาเงินมาด้วยตัวเองตั้งแต่น้อย หนูก็มองว่าจุดนี้อาจจะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำให้กับเรา สามารถทำให้เรามีอาชีพและมีเงินหล่อเลี้ยงชีวิต และอีกหลายชีวิตในครอบครัวทางบ้าน"
เค้าบอกว่าตอนนี้มีแฟนคลับหนาแน่นมากๆ?
"แฟนคลับเยอะมากๆค่ะ พอมาอยู่คณะสาวน้อยเพชรบ้านแพงค่อนข้างที่จะเซอร์ไพรซ์มาก เมื่อก่อนเราเป็นศิลปินเดี่ยว แฟนคลับเราก็มีเฉพาะกลุ่ม แต่พอมาอยู่คณะหมอลำเค้าจะมีเป็นด้อม เป็นบ้านฮัก และก็มีการให้มาลัย มีการมอบมาลัย"
พวงมาลัยที่เคยได้เยอะสุดจากแฟนๆ?
"ช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดวง เปิดวงที่ 20 กันยาฯ ก็ถือว่าโอเคนะคะ ช่วงนี้ปิดวง"
แล้วพอบอกได้มั้ยวันสุดท้ายก่อนปิดวง เราได้เท่าไรจะหล่อเลี้ยงไปตลอดในช่วงพัก?
"ก็ปิดวงล่าสุด วันนั้นได้เกือบ3แสนค่ะ"
ไม่ได้มองว่าตัวเลขเยอะ แต่มองว่าเป็นแรงสนับสนุนในช่วงที่เราจะไม่มีรายได้?
"ใช่ค่ะ บ้างคนก็พักเลย บางคนก็กลับบ้านไปเปิดร้านขายของ ขายส้มตำหรือว่าทำไร่ทำนา ตามแต่ละคนว่ามีพื้นหลังอาชีพอะไร"
คำว่าหมอลำมันมีความหมายยังไงกับชีวิตเรา?
"ณ ปัจจุบันตอนนี้ เวลานี้ หมอลำคือชีวิตคือลมหายใจ และก็จิตวิญญาณเพราะว่าอ๋อมแอ๋มอยู่กับเค้าทุกมื้อ และอยู่ในห้วงที่เราเซ็นสัญญากับคณะ สาวน้อยเพชรบ้านแพง เรียกว่าเป็นชีวิตเป็นลมหายใจของหนูเลย ถ้าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำให้กับเราได้สร้างเนื้อสร้างตัว เราอยากได้อะไรก็ทำงานเอาเหงื่อแลกเงิน เรามองว่าอาชีพหมอลำเนี้ยมันมีอายุขัยของมัน หนูไม่ได้บอกว่าหนูจะเป็นหมอลำไปตลอดชีวิต หนูมองว่าทุกอาชีพก็มีอายุขัยของมัน บางทีหนูอายุมากกว่านี้อาจจะไม่อยากเป็นหมอลำแล้วก็ได้ อันนี้ใครจะไปรู้อนาคต แต่ปัจจุบันหมอลำคือทุกอย่างสำหรับหนูเลย"
ถามถึงการสู้ชีวิตกับการเติบโตมาด้วยความกำพร้า?
"คือคุณพ่อเสียตั้งแต่ตอนอายุหนู2ขวบค่ะ ตอนนั้นไม่รู้อะไรเลย ไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลยด้วยซ้ำ ถึงเห็นก็จำไม่ได้ค่ะ ส่วนคุณแม่เสียตอนหนูอายุ 10 ขวบค่ะ หนูก็อยู่กับคุณป้าคุณลุง แล้วก็พี่สาวพี่ชาย คุณป้าคุณลุงก็ให้ที่อยู่อาศัย ส่วนพี่สาวก็เลี้ยงดู"
นี่เป็นเหตุผลที่ทำเราต้องสู้ชีวิตทำงานตั้งแต่เด็กๆ?
"หนูก็เริ่มทำงานตั้งแต่อายุ14 พอมาอยู่ค่ายเพลง เค้าก็มีร้านอาหารเล็กๆที่มีคาราโอเกะ ให้ลูกศิษย์ให้หนูได้ไปฝึก หนูก็เลยได้ทำงานที่ร้านอาหารนั้นด้วย ได้วันละ 250 บาท เป็นความภูมิใจมาก ทำงานตอน 1ทุ่มถึงเที่ยงคืน ไม่เกินตีหนึ่ง ตอนแรกพี่สาวก็ขับรถมอไซค์มารับมาส่ง พอเราทำงานเก็บเงินได้ก็เอาเงิน 5,900 บาทไปดาวน์มอเตอร์ไซค์ เพื่อที่จะได้เอามาขับไว้ไปทำงาน ก็เก็บเงินส่งเสียตัวเองจนเรียนจบจากอาชีพร้องเพลงค่ะ"
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews