ฟอร์มแกร่ง! SCC กำไร Q2/68 ทำได้ 1.7 หมื่นล้าน-ปันผลเงินสด 2.5 บาท
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC และบริษัทย่อย ในไตรมาส 2/2568 มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง EBITDA อยู่ที่ 17,431 ล้านบาท จากเงินปันผลรับตามฤดูกาลจากการลงทุนในธุรกิจอื่น (SCG Investment) รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนของธุรกิจซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชันส์และธุรกิจแพคเกจจิ้ง
เงินปันผลรับในไตรมาส 2/2568 อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 8,086 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนกระแสเงินสดให้มีความมั่นคง
ทั้งนี้กำไรที่ไม่รวมรายการพิเศษไม่รวมผลการดำเนินงานของลองเซินปิโตรเคมิคอลส์คอมเพล็กซ์ และไม่รวมผลขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือของเอสซีจีเคมิคอลส์ (SCGC) 913 ล้านบาท กำไร SCC อยู่ที่ 6,147 ล้านบาท
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 EBITDA อยู่ที่ 30,320 ล้านบาท และ EBITDA from Operations อยู่ที่ 23,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการบริหารจัดการภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานธุรกิจ (สรุปผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เพิ่มเติมในตารางเอสซีจี)
ปันผลเงินสด 2.5 บาท ขึ้น XD 13 ส.ค.
เงินปันผลระหว่างกาลของปี 2568 เมื่อพิจารณาจาก EBITDA ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่อยู่ในระดับที่มั่นคงคณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2568 ในอัตรา 2.5 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท คิดเป็น 92% ของกำไรสำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ไม่รวมรายการพิเศษ
กำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 และ ขึ้น XD ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 14 สิงหาคม 2568
ภาพรวมราคาน้ำมันลดลงทำให้ส่วนต่างกำไรของธุรกิจเคมิคอลส์ปรับเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมแผนรับมือแนวทางจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ ส่วนสถานการณ์ในไทยธุรกิจที่เกี่ยวกับซีเมนต์และการก่อสร้างอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น
ขณะที่อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในไทยกำหนดให้ปูนคาร์บอนต่ำต้องเป็นตามมาตรฐาน (มอก. 2594-2567) ซึ่งมีส่วนช่วยขยายการใช้งานปูนคาร์บอนต่ำและช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศ
เอสซีจีเตรียมความพร้อมและกลยุทธ์ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
1. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในอาเซียน : ใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานในอาเซียนจากทุกธุรกิจ
2. ธุรกิจเคมิคอลส์ : เตรียมกลับมาดำเนินงานโรงงานลองเซินปิโตรเคมิคอลส์คอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนาม (LSP) ซึ่งจะใช้เวลาเตรียมความพร้อมประมาณ 1-1.5 เดือน
3. ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง : เร่งผลักดันปูนคาร์บอนต่ำ Gen2 และ Gen3 ต่อเนื่อง รวมถึงขยายปูนคาร์บอนต่ำในอาเซียน
4. ด้านการเงิน (Financials) : ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกในเรื่องปรับโครงสร้างการดำเนินงานและธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงลดภาระหนี้ โดยในปี 2568 คาดการณ์งบประมาณรายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนจะอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท โดยมีความยืดหยุ่นในการปรับลดเมื่อเทียบกับ 55,305 ล้านบาทในปี 2567
คาดการณ์ EBITDA ในปี 2568 ยังอยู่ในระดับสูงซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. การดำเนินงาน (Operations) : เน้นผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (High Value-Added) หรือ HVA และเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่เหมาะสมกับราคา (Smart Value Product)