โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ไทยโดนภาษีทรัมป์’ ไม่ใช่จุดจบ นักวิชาการ มธ. ชงแผน 3 ระยะ ปรับศก.ฝ่าเกมการค้าโลก

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แม้การประกาศขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อสินค้าจากประเทศไทยในอัตรา 19% จะสร้างแรงสะเทือนทางจิตวิทยาต่อภาคการค้าและผู้ประกอบการไทยอย่างฉับพลัน แต่ในมุมของนักเศรษฐศาสตร์ไทยกลับมองว่า นี่ไม่ใช่จุดจบของการส่งออกไทย หากแต่เป็น “สัญญาณเตือน” ที่ควรใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อรองรับภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ของโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ผศ.ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า อัตราภาษี 19% ที่สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ต่อสินค้าของไทยนั้น “ไม่ได้หนักหนาสาหัส” อย่างที่หลายฝ่ายกังวลในช่วงแรก แต่ก็ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในภาพรวม พร้อมชี้ว่า รัฐบาลควรถือโอกาสนี้เป็นจุดเปลี่ยนในการยกระดับความสามารถการแข่งขันของประเทศผ่าน “แผนสามระยะ” ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว

ในระยะสั้น (0–6 เดือน) รัฐบาลจำเป็นต้องออกมาตรการบรรเทาผลกระทบแบบเร่งด่วน โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการที่เผชิญปัญหาทางการเงินจากต้นทุนภาษีที่สูงขึ้น เช่น การจัดตั้งกองทุนบรรเทาผลกระทบจากภาษีศุลกากร ให้กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) และให้เงินอุดหนุนเสริมสภาพคล่องแก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรง รวมทั้งออกมาตรการภาษีเฉพาะกิจเพื่อช่วยผู้ส่งออกที่ยังพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก ตลอดจนพิจารณาลดภาษีนำเข้าชั่วคราวในวัตถุดิบสำคัญ

นอกจากการเยียวยาแบบเฉียบพลัน ยังจำเป็นต้อง “ขยับเกมรุก” ด้วยการกระจายตลาดส่งออกไปยังภูมิภาคใหม่ ๆ เช่น อินเดีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และลาตินอเมริกา ผ่านกลไกการทูตเชิงเศรษฐกิจ และการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs เข้าถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อขายตรงถึงผู้บริโภคต่างประเทศได้มากขึ้น

ในระยะกลาง (6–18 เดือน) ไทยควรวางรากฐานเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ลดการพึ่งพาตลาดหรือซัพพลายเชนจากต่างประเทศ โดยผลักดันนโยบายส่งเสริมการลงทุนชุดใหม่ มุ่งเน้นอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์โลกอนาคต เช่น Green Industry และ Smart Manufacturing เพื่อรับมือกับข้อจำกัดใหม่ด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และมาตรการการค้ารูปแบบใหม่ เช่น CBAM ของอียู และเกณฑ์ ESG ที่กลายเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือขององค์กรระดับโลก

ในมิติกำลังคน ต้องเดินหน้าเร่ง Reskill และ Upskill แรงงานในภาคการผลิตและโลจิสติกส์ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต พร้อมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น Big Data และ AI ในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ระยะยาว (1.5–5 ปี) ประเทศไทยต้องพลิกบทบาทตนเองจาก “ผู้ผลิตต้นทุนต่ำ” ไปสู่ “ผู้ส่งออกบริการและนวัตกรรมมูลค่าสูง” โดยเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการที่ยากต่อการถูกตอบโต้ทางการค้า เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โลจิสติกส์ดิจิทัล และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ พร้อมเดินหน้าส่งเสริมนวัตกรรมผ่านการวิจัยและพัฒนา การยื่นจดสิทธิบัตร และการลงทุนในเทคโนโลยีต้นน้ำ

ในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ นักวิชาการแนะว่า ควรจัดตั้ง “กรอบความร่วมมือเศรษฐกิจไทย–สหรัฐฯ” ขึ้นมาเป็นเวทีหารือเพื่อป้องกันความขัดแย้งในอนาคต รวมถึงต้องเร่งขับเคลื่อนบทบาทไทยในเวทีพหุภาคีอย่าง IPEF, APEC และ CPTPP ด้วยกลยุทธ์ระยะยาว

อีกหนึ่งข้อเสนอที่สำคัญคือ การจัดตั้ง “Thailand Trade Resilience Taskforce (TTRT)” ภายใต้การนำของกระทรวงพาณิชย์และ BOI เพื่อเป็นคณะทำงานวิเคราะห์สถานการณ์การค้าโลกอย่างต่อเนื่อง พัฒนาแผนกลยุทธ์เชิงนโยบาย และจัดทำระบบเตือนภัยล่วงหน้าสำหรับภาคธุรกิจไทย เพื่อรับมือกับความเสี่ยงเชิงโครงสร้างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

สุดท้ายนี้ ภาครัฐควรเร่งเสริมพลังการทูตเชิงสาธารณะ (Public Diplomacy) เพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลกในฐานะ “ศูนย์กลางการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” และพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่พร้อมรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานโลก โดยใช้ทุกช่องทางการสื่อสาร ทั้งสื่อกระแสหลัก งานนิทรรศการ และแพลตฟอร์มออนไลน์เข้าถึงกลุ่มผู้นำทางความคิดในสหรัฐฯ อย่างเป็นระบบ

ขณะเดียวกัน ก็ควรใช้ความรู้จากภาควิชาการและ Think Tank ให้เป็นพลังหนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และสภาพัฒน์ ด้วยข้อมูลที่วิเคราะห์ลึก และออกแบบฉากทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ชัดเจน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

กรมพัฒน์ฯ จับมือ ราชทัณฑ์ ปั้นผู้ทดสอบฯ ช่างไฟฟ้า สร้างอาชีพให้ผู้ก้าวพลาด

15 นาทีที่แล้ว

ชง “นครปฐมโมเดล" คิกออฟโครงการลดโรค NCDs ใน 313 โรงเรียน

26 นาทีที่แล้ว

ประมวลภาพการทำลายจรวด BM-21 กลางถนนสายบ้านน้ำเย็น–บ้านผือ ศรีสะเกษ

59 นาทีที่แล้ว

จิตอาสาแพทย์แผนไทยผลิตยาหม่อง 1,500 กระปุก ส่งทหาร-ผู้ประสบภัย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่นๆ

รฟท.ยันทวงคืนที่ดิน ‘เขากระโดง’ ตามกฎหมาย พร้อมเจรจาผู้ครอบครอง

ไทยโพสต์

พรรคประชาชนชี้ข่าวหัวหน้าพรรคประณามโรงพยาบาลฯปฏิเสธรักษาชาวกัมพูชาเป็นเฟกนิวส์ ย้ำจุดยืนยึดหลักกฎหมาย-มนุษยธรรม

THE STANDARD
วิดีโอ

‘รมว.ดีอี’ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ ร่วมไว้อาลัยผู้สูญเสียและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

สวพ.FM91

กรมพัฒน์ฯ จับมือ ราชทัณฑ์ ปั้นผู้ทดสอบฯ ช่างไฟฟ้า สร้างอาชีพให้ผู้ก้าวพลาด

ฐานเศรษฐกิจ

ชาวพุทธรู้สึกงงงวย หลวงพ่อวางตาลปัตรหันมาจับไมค์ ยืนร้องเพลงริมถนน ที่แท้อดีตร็อกเกอร์ดัง

Khaosod

ฮุน มาเนต โพสต์ถึงใคร? “ไม่เห็นค่าสันติภาพ” ทัวร์ไทยแห่คอมเมนต์ถล่ม

Thaiger

‘จตุพร’ หวังเห็น ‘ทักษิณ’ ไปศาลฎีกา ฟังคำสั่งคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 ก.ย.นี้

The Bangkok Insight

เผยโฉมกระเป๋าผ้าไทยคอลเลกชัน “S’CRAFT: Craftsmanship 2025” นำเสนอความงามผ้าทอ 4 ภาค

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...