ฝีมือ “สมีสฤษดิ์” หรือไม่ เผยเงินวัดนครสวรรค์ 50 ล้าน ปัจจุบันเหลือแค่นี้
คนในวัดแท็บช็อก เงินวัดนครสวรรค์ จากเคยมีติดบัญชี 50 ล้าน ปัจจุบันเหลือล้านเดียว ตำรวจเร่งสางเส้นเงินบาปรั่วไหลสู่มือใครบ้าง บิ๊กเต่า เผยเตรียมเรียก 2 สีกาสอบปากคำ
ความคืบหน้าคดีของอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ หรือ “ทิดสฤษดิ์” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่ง ขณะนี้ตำรวจยังคงอยู่ในพื้นที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งเรื่องการเสพเมถุนเศรษฐินีและเข้าข่ายทุจริตเงินวัดหรือไม่ หลังพบนำเงินวัดไปเปย์สีกากว่า 300 ล้านบาท
ล่าสุดในส่วนของการลงพื้นที่เพื่อรวบรวมหลักฐานเอาผิดเกี่ยวกับเส้นเงินบาป วานนี้ (21 ก.ค.) ตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.ได้ไปตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริต เงินบริจาคก่อสร้างศาสนสถาน จ.นครสวรรค์ โดยมีการเชิญพระครูสุธีธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ หรือ “พระเลขา” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ เพื่อขอเข้าทำการตรวจสอบรายละเอียดเส้นทางการเงินเเละการดำเนินโครงการสร้างพุทธอุทยานที่อดีตเจ้าอาวาส เป็นประธานการจัดสร้าง เเต่เงินบริจาคไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์จนเกิดข้อครหานำไปแอบเลี้ยงดูสีกาถึง 2 คนหรือไม่
จากการการตรวจค้น อาทิ สำนักงานวิทยาลัยสงฆ์ ศูนย์บัณทิตศึกษา อาคารรหอสมุดเทคโลยีสารสนเทศ เเละจุดสำคัญบริเวณองค์พระพุทธรูปศรีสรรพัญญู ที่เดินขึ้นไปสำรวจพระรูปเเละในฐานพระพุทธรูป ทำให้ได้ยิ่งเห็นความทรุดโทรม การปล่อยทิ้งร้างโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์
ก่อนขึ้นไปสำรวจเจ้าหน้าที่ได้ซักถามพระเลขาฯ ซึ่งก็ได้เล่าถึงปัญหาตลอดจนอุปสรรคของการสร้างองค์พระพุทธรูปเเละได้สอบถามถึงงบประมาณที่ใช้การก่อสร้างทั้งหมดและทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า เฉพาะองค์พระ 30 ล้านบาท ปิดทอง 10 กว่าล้านฯ ไม่รวมอื่นๆ
ต่อมาตัวอาคารหลังเกิดคดีความจึงไปเรี่ยไรบริจาคใหม่ รวมถึงการชี้เเจงบัญชีหลังรับบริจาคเที่ยวใหม่นั้น ! มีการเปิดหลายบัญชี โดยใช้ชื่อ “วัดนครสวรรค์” เเละระบุชื่อของวัตถุประสงค์
ส่วนเงินบริจาคที่ได้จากหลวงปู่พัฒน์ 30 ล้านบาท นำมาใช้ทำถนนเข้าพุทธอุทยาน ทำป้าย มีการถวายเป็นเงินสดนำเข้าบัญชีทันที เพราะมีประสบการณ์ถูกโกง
อย่างไรก็ดีข้อมูลที่เปิดเผยจากทางเนชั่นทีวีระบุ ในรายงานมีการเอ่ยถึงประเด็นของการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย โดยเอ็กซเรย์ย้อนหลังไป 10 ปี พบว่า วัดนครสวรรค์มีเอกสารบางปีไม่ครบถ้วน ทำให้จากนี้ต้องตรวจสอบความเชื่อมโยงกับบุคคลภายนอก ตอนนี้พบสีกามาพัวพัน 4-5 ราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินของวัด ด้วยเหตุนี้จึงมีการสั่งห้ามเคลื่อนย้ายเอกสารพร้อมกับเตรียมจะเรียนเชิญ กรรมการ ไวยาวัจกรมาให้ข้อมูลหากพบว่ามีเอี่ยวจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
ทั้งนี้จากการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีทั้ง 5 เล่ม ยอดเงินของวัดรวมกัน ณ ตอนนี้ เหลือแค่ราว 1 ล้านบาทเศษเท่านั้น จากปกติที่มักจะมีติดบัญชีสูงถึง 50 ล้านบาทด้วยกัน ทำให้จากนี้จนท.ต้องเร่งตรวจสอบรวมรวมพยานหลักฐานเพื่อตวรจสอบเอาผิดในทางคดีอาญาต่อไปว่าเส้นเงินถูกยักยอกถ่ายเทไปที่ใดบ้างหรือไม่
ขณะที่รายงานเตรียมเรียกสอบปากคำของ 2 สีกานั้น ด้านของบิ๊กเต่า พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ระบุวันนี้ (22 ก.ค.) ตำรวจกำลังตรวจสอบในสองประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นที่ 1. คือ “เรื่องสีกา” ซึ่งตอนนี้พบเส้นเงินเชื่อมโยงกับสีกาสองราย บางคนมีงานทำ แต่บางคนไม่มีอาชีพแต่มีทรัพย์สมบัติซึ่งต้องไปตรวจสอบว่าเงินต่างๆ มาจากแหล่งไหน ขณะเดียวกันนอกจากเส้นเงินที่เชื่อมโยงไปยังสีกาแล้วยังพบเส้นเงินที่ผ่านจากบัญชีพระและฆราวาสที่เป็นลูกน้องทิดสฤษดิ์ก่อนไปถึง “สีกา” ด้วย ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจนและยังไม่ขอกล่าวถึงเรื่องการออกหมายจับ เพราะแนวทางการทำคดียังต้องใช้เวลาพิสูจน์ทราบข้อมูลบางส่วนที่ละเอียดอ่อนพอสมควร แต่เน้นย้ำถ้าหลักฐานสาวไปถึงแน่ชัด ตำรวจก็พร้อมทำงานทันทีไม่ต้องรอคำอนุมัติจากฝ่ายสงฆ์ เพราะปมเส้นเงินนั้นเป็นโทษทางคดีอาญา
ประเด็นที่ 2. “เรื่องร้องเรียนโครงการต่างๆ ที่อดีตพระรูปนี้รับผิดชอบ” คือ โครงการพุทธอุทยานนครสวรรค์ที่ก่อสร้างมานานแล้ว แต่ยังไม่เสร็จ รวมทั้งโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์นั้นตำรวจขอเวลาตรวจสอบก่อนซึ่งหากพบการกระทำความผิดก็จะดำเนินคดีทั้งหมด.
อ่านข่าวเพิ่มเติม