คนไทยรู้ยัง? ต่างชาติแนะ ประหยัดไฟตู้เย็นได้ง่ายๆ แค่ปรับ "ปุ่มนี้" หลายคนใช้ผิดมานาน
ประหยัดไฟตู้เย็นได้ง่ายๆ แค่ปรับ "ปุ่มนี้" ให้ถูกต้อง หลายบ้านใช้ผิดมาหลายปี!
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องทำงานตลอดเวลา ไม่เหมือนกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถเปิด–ปิดตามความจำเป็นได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนมักกังวลกับค่าไฟรายเดือน
แต่รู้หรือไม่ว่า แค่ปรับ “ปุ่มเล็กๆ” ภายในตู้เย็นให้ถูกวิธี ก็สามารถช่วยประหยัดไฟได้มากเลยทีเดียว
เว็บไซต์ docnhanh จากเวียดนามได้เปิดเผยเคล็ดลับง่ายๆ ที่หลายคนมองข้ามไป นั่นคือ การปรับปุ่มควบคุมอุณหภูมิ (ปุ่มหมุนด้านในตู้เย็น) ให้เหมาะกับฤดูกาลและการใช้งาน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการใช้พลังงาน
โดยทั่วไป ปุ่มนี้มี 2 แบบ คือแบบ 5 ระดับ (0–5) และแบบ 7 ระดับ (0–7) หน้าที่ของมันคือควบคุมอุณหภูมิทั้งในช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง พร้อมควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ เพื่อรักษาอุณหภูมิให้เหมาะสม เช่น ช่องแช่แข็งควรต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส และช่องแช่เย็นควรอยู่ที่ 0–10 องศาเซลเซียส เพื่อถนอมอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ หลายคนเชื่อว่า “หน้าร้อนต้องปรับให้เย็นสุด” จึงมักหมุนไปที่ระดับสูงสุด เช่น 5 หรือ 7 ซึ่งทำให้ตู้เย็นทำงานหนักตลอดเวลา กินไฟโดยไม่จำเป็น ในขณะเดียวกัน ถ้าหมุนไปที่ระดับ 0 เครื่องก็จะหยุดทำงานโดยสมบูรณ์ ไม่เย็นเลย
และในฤดูหนาว หากปรับไว้ต่ำกว่า 3 เพราะคิดว่าอากาศเย็นอยู่แล้ว อาจส่งผลให้ตู้เย็นแทบไม่ทำงาน ช่องแช่แข็งจึงไม่สามารถรักษาอุณหภูมิที่ต่ำพอได้ อาหารอาจละลายหรือเสียได้โดยไม่รู้ตัว
ในทางกลับกัน หากปรับระดับไว้สูงเกินไปในหน้าร้อน เช่น 4 ขึ้นไป ตู้เย็นจะทำงานหนักตลอดเวลา กินไฟเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บอาหารมากเท่าที่ควร แถมอาจทำให้เครื่องพังเร็วขึ้นอีกด้วย
ดังนั้น คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญคือฤดูร้อนควรปรับไว้ที่ระดับ 1 หรือ 2 ก็เพียงพอ ส่วนฤดูหนาวให้ปรับไว้ที่ระดับ 4 หรือ 5 เพื่อให้ช่องแช่แข็งยังเย็นพอ
เพียงแค่หมุนปุ่มเล็กๆ นี้ให้ถูกวิธี ก็สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้เดือนละหลายบาท แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นได้อีกด้วย แล้วตู้เย็นที่บ้านคุณ… ปรับถูกแล้วหรือยัง?
- ครัวจะแคบแค่ไหน ก็อย่าวางเกลือไว้ 4 ที่นี้ เพื่อไม่ให้ปนเปื้อน “เป็นพิษ” ต่อทั้งครอบครัว
- หลังใช้เครื่องซักผ้า ควรปิดหรือเปิด “ฝาถัง” สรุปหลายบ้านทำผิด เสี่ยงแบคทีเรียที่แพร่พันธุ์!