วิธีการดูแลคนหน้าใหม่แบบฉบับ ลิเวอร์พูล

ช่วงเวลานั้น เขายุ่งมาก ๆ จนแม้แต่การทำอาหารเย็นเองก็แทบไม่มีโอกาสได้คิด

ของสดที่อยู่ในตู้เย็นถูกวางทิ้งจนหมดอายุ แล้วเขาก็เลือกพึ่งอาหารกล่องที่ทีมครัวศูนย์ฝึก AXA เตรียมไว้ให้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่รวดเร็วกว่า และตอบโจทย์ชีวิตที่ต้องหมกตัววิเคราะห์คู่แข่งเกือบทุกค่ำคืน

ระหว่างที่ อาร์เน่อ กำลังคิดสูตรพิชิต พรีเมียร์ลีก เขาต้องปรับตัวให้เข้ากับสโมสรใหม่ และกับชีวิตในอพาร์ตเมนต์แถบ เชสเชียร์ อาหารพร้อมทานนั้นไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดเวลา แต่ยังช่วยให้เขามีสมาธิทุ่มเทให้กับงานที่บ้านได้ต่อเนื่อง

ปีนี้ ลิเวอร์พูล ก็ต้องทำสิ่งเดียวกันกับนักเตะหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาหลายคน

เป้าหมายไม่ใช่แค่ให้พวกเขาเล่นฟุตบอล แต่ต้องทำให้รู้สึกว่า -นี่คือบ้าน- และพร้อมจะพาทีมไปให้ถึงความสำเร็จ

ไฮไลต์อยู่ที่ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ เข้ามาด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 116 ล้านปอนด์ ตามด้วย อูโก้ เอกิติเก้, มิลอส เคอร์เคซ และ เจเรมี่ ฟริมปง ค่าตัวรวมแล้วเกือบ 300 ล้านปอนด์ในตลาดเดียว

ยังไม่นับ จอร์จี้ มามาร์ดาชวิลี่ ที่เซ็นไว้ล่วงหน้าจาก บาเลนเซีย, เฟรดดี้ วู้ดแมน และ อาร์มิน เพคซี่ สองผู้รักษาประตู

แล้วกับตลาดที่ยังเปิดอีกราวสามสัปดาห์ ยังคงมีสิทธิ์ได้เห็นแข้งใหม่เพิ่มก่อนเดือนกันยายน

อย่างไรก็ตาม ภารกิจต้อนรับผู้เล่นใหม่เหล่านี้เกิดขึ้นในซัมเมอร์ที่เต็มไปด้วยความเศร้า หลังการจากไปอย่างกะทันหันของ ดิโอโก้ โชต้า ซึ่งกระทบต่อทีมดูแลนักเตะโดยตรง

เพราะนี่คือแผนกที่รับผิดชอบดูแลทั้งตัวผู้เล่นและครอบครัวใกล้ชิด เพื่อให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ลดภาระความกังวลนอกสนาม และปรับเข้าสู่วัฒนธรรม ลิเวอร์พูล ให้เร็วที่สุด

หนึ่งในภารกิจสำคัญ คือการถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยเฉพาะโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ ปี 1989 ที่ฝังรากลึกในหัวใจของเมืองนี้

นักเตะใหม่จะได้รับรู้ถึงผลกระทบของเหตุการณ์นี้ บางคนถึงขั้นได้เข้าร่วมพิธีรำลึกประจำปีที่ แอนฟิลด์

หัวใจของแผนกดูแลนี้คือ เจน กริฟฟิธส์ และทีมงานอีก 2 คน แผนกนี้ตั้งฐานบัญชาการที่ เคิร์กบี้

ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ เคยบอกไว้ตั้งแต่ปี 2020 ว่า "แค่ให้นักเตะเดินขึ้นบันไดแล้วแวะเข้าไปหาเจนได้ง่าย ๆ ก็สำคัญแล้ว"

ซึ่งการออกแบบแบบนี้ช่วยสร้างความใกล้ชิดระหว่างผู้เล่นกับทีมงานเบื้องหลัง

งานหลักของพวกเขาคือหาบ้าน, จัดการเรื่องประกันภัย ประกันสุขภาพ และทุกเรื่องจิปาถะตั้งแต่เปิดไฟไปจนถึงจ่ายบิล ร่วมมือกับเอเจนต์เพื่อเข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละคน

ตัวแทนของนักเตะซีเนียร์คนหนึ่งถึงกับบอกว่า "ทีมดูแลนักเตะของ ลิเวอร์พูล ดีที่สุดแบบหาใครเทียบไม่ได้ ทุกอย่างลื่นไหล และพวกเขาอัปเดตเราตลอด"

อาร์เน่อ เองก็เริ่มชีวิตที่นี่ด้วยการอยู่คนเดียว ครอบครัวของเขายังไม่ตามมาเพราะลูกสาวอยู่ในช่วงสำคัญของการเรียน เขาพักอพาร์ตเมนต์ก่อนจะขยับขยายไปพักที่บ้าน ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับนักเตะหลายคน

ฟริมปง ไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะเคยอยู่ แมนเชสเตอร์ ตั้งแต่เด็ก และรู้จักเพื่อนร่วมทีมจากทีมชาติเนเธอร์แลนด์ อยู่แล้ว

ส่วน วู้ดแมน ก็ไม่ต่างกัน หลังใช้ชีวิตแถวนี้มานานจากสมัยเล่นให้ เปรสตัน

ขณะที่ เคอร์เคซ ก็มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ โดมินิค โซโบซไล

สำหรับ เวียร์ตซ์ และ เอกิติเก้ ซึ่งเพิ่งมา อังกฤษ เป็นครั้งแรก ก็ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด

ลิเวอร์พูล รู้ดีว่าแม้ เวียร์ตซ์ จะมีวุฒิภาวะสูง แต่การสนับสนุนจากรอบด้านจะช่วยให้เขาโฟกัสกับเกมได้เต็มที่ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าตัวมหาศาลมาพร้อมแรงกดดันอันถาโถม

มามาร์ดาชวิลี่ เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ปีก่อนเพื่อเตรียมตัวย้าย และยังศึกษาประวัติศาสตร์สโมสรควบคู่ ส่วน เพคซี่ วัย 20 ได้โอกาสติดทัวร์ฮ่องกง-ญี่ปุ่นตั้งแต่ย้ายมา เพื่อปรับตัวแม้ฤดูกาลนี้อาจยังไม่ลงชุดใหญ่

เรื่องสำคัญอีกอย่างคือ คำพูดของ อาร์เน่อ มีอิทธิพลมหาศาลต่อการตัดสินใจของแข้งเหล่านี้ หลังจากพาทีมประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรก

เขาสามารถอธิบายวิสัยทัศน์และบทบาทของนักเตะแต่ละคนจนพวกเขาอยากเป็นส่วนหนึ่งของแผนทันที

ในห้องแต่งตัว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รับหน้าที่กัปตันที่คอยต้อนรับสมาชิกใหม่ ทั้งบทสนทนาสบาย ๆ ที่สนามซ้อม ไปจนถึงการเล่นปิงปองและเกมไพ่บนทัวร์ ซึ่งช่วยสร้างสายสัมพันธ์และความเป็นหนึ่งเดียว

ทั้ง อาร์เน่อ และ ริชาร์ด ฮิวจ์ส พยายามปิดดีลนักเตะเร็ว เพื่อให้มีเวลาปรับตัวเพียงพอ

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยืนยันว่า "เด็ก ๆ ปรับตัวได้ดี เหมือนอยู่กับเรามาหลายเดือนแล้ว" พร้อมเน้นว่าผู้นำทีมอย่างเขา, อลีสซง, ฟาน ไดค์ และ ซาลาห์ รู้หน้าที่ว่าต้องมีส่วนช่วยทั้งในสนามและนอกสนาม

ที่ศูนย์ฝึก AXA ก็มีวัฒนธรรมว่า -ไม่มีใครกินข้าวคนเดียว-

บาร์กาแฟใหม่กลายเป็นจุดนัดพบประจำ สองรุ่นพี่ใหญ่อย่าง ซาลาห์ และ ฟาน ไดค์ จะทักทายทุกคนด้วยรอยยิ้ม กอด หรือชนกำปั้นกัน

บรรยากาศนี้ยังส่งต่อถึงทีมงานเบื้องหลังและดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ที่ได้ขึ้นมาซ้อม

คำพูดของ เกร่า ปอนซ์ ภรรยา หลุยส์ ดิอาซ สะท้อนทุกอย่าง "ตั้งแต่วันแรกที่เรามาถึง เรารู้สึกได้ถึงความหมายของการเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรนี้"

และซัมเมอร์นี้ ผู้เล่นใหม่ทุกคนกำลังเริ่มสัมผัสความหมายแบบเดียวกัน

ความรักและการดูแลที่ไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือวัฒนธรรมของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง

#HOSSALONSO