"แจ็ค แฟนฉัน" แทบพูดไม่ออก โดน "หมอบี" ย้อนถามประโยคเด็ด
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังจากที่หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ โฟนอินพูดคุยในรายการ “แฉ”
ช่วงหนึ่ง แจ็ค แฟนฉัน หนึ่งในพิธีกรรายการ สอบถาม หมอบี ถึงปัญหาที่กำลังประสบในปัจจุบัน โดยระบุว่า หมอบี สื่อต่าง ๆ ได้ คุณหมอบีได้ดูตัวเองไหมว่าตอนนี้ปัญหามันรุมเร้าเนี่ย
ด้าน หมอบี ตอบกลับว่า พี่แจ็ค ลองถามตัวเองครับว่าผมเคยช่วยอะไรพี่แจ็คไว้ ผมไม่ได้อ้างอะไรงี้นะ แต่ว่าผมก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมไม่เคยจะมาเรียกร้องอะไรยังไง คนจะเชื่อไม่เชื่อ ก็แล้วแต่ แต่ผมไม่เคยอ้างตรงนี้
ผมไปบอกตอนไหนว่า ผมเป็นหมอดู ผมก็บอกอยู่ว่าผมไม่ใช่หมอดูถูกไหม
แจ็ค กล่าวเสริมว่า เพราะทุกครั้งเวลาเล่าก็จะบอกว่าเป็นนิทานถูกต้องไหมครับ
หมอบี ตอบว่า ผมไม่เคยบอกผมเป็นหมอดูเลย ผมไม่เคยบอกว่า โอ้โห นู่นนี่นั่น ทุกครั้งและหลาย ๆ ครั้งลองลองคิดดู คนหลาย ๆ คนที่ผมช่วยอะเขามาขอความช่วยเหลือ ขอปรึกษาผมก็ให้คำปรึกษาแบบหลักการตรงไปตรงมาใช่ไหมครับ
(ตัวอย่างคำถาม) คนเสียชีวิตแล้วไปไหน ผมก็เล่าให้ฟังว่าคุณทำชั่วมาทั้งชีวิต อยู่ดีๆ คุณจะมาทำดีช่วงวินาทีสุดท้ายแล้วแปลว่าคุณจะต้องไปสวรรค์เหรอ มันก็ไม่ใช่ มันก็ต้องตามเหตุตามผลใช่ไหมครับ ผมก็ใช้คำว่าไปที่ชอบที่ชอบ อะไรแบบนี้
ต่อมาหนุ่ม กรรชัย ในรายการ “เที่ยงวันทันเหตุการณ์” ช่อง 3 ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า ด้วยความเคารพต่อหมอบี แต่อยากให้เจ้าตัวไม่ลืมว่าใช้คำว่า “ทูตสื่อวิญญาณ” ซึ่งหมายถึงต้องสื่อสารกับวิญญาณได้ หากเป็นตนในฐานะ “แจ็ค แฟนฉัน” ก็จะตั้งคำถามตรง ๆ ว่าทำไมไม่ถามวิญญาณเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
หนุ่ม กรรชัย ยังชี้ว่า ตนเคยสัมภาษณ์หมอบีในรายการ “มูไนท์” และจำได้ชัดเจนว่าเนื้อหาที่พูดในตอนนั้นแตกต่างจากปัจจุบัน จึงอยากให้หมอบีย้อนทบทวนคำพูดของตน พร้อมเน้นว่าประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวกับ “หลวงพ่อ” โดยตรง แต่ต้องการความชัดเจนเพื่อให้สังคมเข้าใจ เพราะการทำบุญของสาธุชน ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน เงินทุกบาทมีค่าและมีวัตถุประสงค์ชัดเจน หากถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ย่อมไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ หนุ่ม กรรชัย ยังตั้งข้อสังเกตว่า หมอบีเคยพูดว่ารับเงินบริจาคเพื่อนำไปให้วัดพระบาทน้ำพุ แต่ล่าสุดกลับบอกว่านำไปให้หลวงพ่อ ไม่ใช่วัด จึงขอคำตอบชัด ๆ ว่าแท้จริงแล้วเงินดังกล่าวถูกส่งให้ใคร เพราะมีหลักฐานดิจิทัล (Digital Footprint) ที่บันทึกคำพูดเดิมไว้ พร้อมย้ำว่าเงินทำบุญแม้จะมาจากคนจนเพียง 2–5 บาท ก็มีค่ามาก และควรถูกใช้ตามเจตนาของผู้บริจาค